22 พ.ค. 2021 เวลา 04:46 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
เปิดจักรวาลหนัง Zombie ภาพยนตร์ Heist Squad Film ที่เติมแต่งความเป็นมนุษย์มากขึ้น
Army of the Dead (dir. Zack Snyder, 2021)
#รีวิวภาพยนตร์ยังไงให้เหมือนวิจัย
1. Introduction
Scott Ward (Dave Bautista) วีรบุรุษสงครามซอมบี้ที่วันดีคืนดีได้รับข้อเสนอจากหัวหน้าบ่อนคาสิโน ทานากะ () รวบรวมทีมปล้นนำเงินจำนวน 200 ล้านเหรียญที่อยู่ในคาสิโนใจกลางลาส เวกัสเมืองซึ่งถูกทิ้งร้างจากการระบาดของเชื้อไวรัสซอมบี้ เมืองที่เต็มไปด้วยฝูง Alpha Zombie มากมาย โดยจุดประสงค์เพื่อมีอิสระและได้หนีออกจากเขตกักกันนี้ ก่อนที่รัฐบาลส่งนิวเคลียร์ลบเมืองนี้ออกจากแผนที่โลก แต่เบื้องหลังภารกิจครั้งนี้ทำให้พวกเขาต้องพบกับความน่าสะพรึงกลัวของฝูงซอมบี้ที่มีวิวัฒนาการเหนือกว่าที่คาดคิดและเบื้องหลังที่แท้จริงเกี่ยวกับภารกิจโจรกรรมเดนตายครั้งนี้
2. Literature Review
ย้อนกลับไปถึงผลงานของบรมครูแห่งศาสตร์หนังซอมบี้ George A. Romero ผู้กำกับชื่อดังผู้ฝากผลงานขึ้นหิ้งอย่าง Dawn of the Dead (1978) หนังอินดี้ไม่จำกัดเรทเรื่องนี้ถูกปล่อยฉายและการเป็นตัวแทนแห่งภาพยนตร์ซอมบี้ยุคโมเดิร์นที่ดิบเถื่อนโหดและดูน่าสะพรึงตามสิ่งที่ผู้ชมต้องการ จากไอเดียที่เกิดในห้างสรรพสินค้า จากคำพูดติดตลกในวันนั้นทำให้นี้คือบทภาพยนตร์ขั้นต้นที่พาภาพยนตร์รวมถึงผู้พาผู้กำกับไปสู่จุดที่ได้รับความนิยม
ด้วยต้นแบบดังกล่าวผู้กำกับแห่งยุคอย่าง Zack Snyder ที่ในตอนนั้นยังเป็นผู้กำกับหน้าใหม่นำเรื่องนี้กลับมารีเมคบนจนเงินอีกครั้งในปี 2004 ที่ทวีความดุดันและพลุ่งพล่านกว่าเดิมตามลายเซ็นต์ของแซ็ค จนถูกยกให้กลายเป็นภาพยนตร์ซอมบี้ที่ดีในยุคนั้น ปลุกกระแสซอมบี้ให้ลุกขึ้นมาร่วมทศวรรษที่มีภาพยนตร์แนวซอมบี้หลากหลายสัญชาติตบท้ายออกมาโชว์พลังบนจอเงิน จากความสำเร็จที่ท่วมท้นโปรเจคต์ Army of the Dead กลายเป็นภาคต่อสำคัญที่ถูกเสนอไปในปีนั้น แต่ท้ายที่สุดก็ถูกปฏิเสธไปครั้งแล้วครั้งเล่าจากหลายสาเหตุ ทั้งความยาวของหนังและเรทของหนัง จนก้าวผ่านยุค Streaming โอกาสที่ว่านั้นก็มาถึงมือของแซ็คอีกครั้งโดย Netflix (Scott Tuber) หัวเรือผู้เคยทำงานเคียงข้างแซ็ค และพร้อมจะสนับสนุนเปิดโอกาสให้แซ็คได้สานต่อสิ่งที่ค้างคาในอดีตอย่างเต็มจัดเต็มกว่าที่เคย
โอกาสครั้งนี้ที่ได้รับจึงกลายเป็นการสานต่อโปรเจกต์จักรวาลซอมบี้ที่ภาพยนตร์เรื่องนี้จะกลายเป็น Prologue แรกของจักรวาลซอมบี้ของแซ็ค โดยการพัฒนาตัวละครซอมบี้ให้เป็น Alpha Zombie ที่มีวิวัฒนาการกว่าทุกเรื่องที่เคยเป็นมาเพื่อที่จะต้องการสร้างความแปลกใหม่ไปอีกระดับ อาทิ การสื่อสารในรูปแบบของตัวเอง มีชนชั้นวรรณะ มีความรู้สึกโกรธแค้นเสียใจ ซึ่งมีความคล้ายโครงเรื่องการพัฒนาของ Planet of the Apes (Franklin J. Schaffner, 1986) ที่พยายามพัฒนาตัวละครวานรให้ฉลาดไปอีกขั้น การ Out-of-Comfort Zone ของแซ็คคือการนำ Genre Zombie ไปผนวกกับหนังจารกรรม Heist Film ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้มีความคล้ายกับ Suicide Squad (David Ayers, 2016) ในแง่ของลำดับการดำเนินเรื่อง นอกจากนั้นยังได้ทีมเขียนบทภาพยนตร์ที่เคยเขียนเรื่อง Edge of Tomorrow (Doug Liman, 2014) และ John Wick Chapter 3 (Chad Stahelski, 2019) ที่มีกลิ่นอายบางฉากในหนังปรากฏเป็นซีนต่างๆอย่างมีเอกลักษณ์ของมันอยู่
3. Methodology
ใครเป็นแฟนภาพยนตร์ของ Zack Snyder น่าจะพอรู้ชื่อเสียงเรียงนามกันดีอยู่แล้วในแง่ของการกำกับภาพยนตร์สไตล์เดือดเอามัน ไม่ว่าจะเป็นผลงาน 300 (2006), Watchmen (2009), หรือ Zack Snyder’s Cut Justice League (2021) ที่มีทั้งเลือดสาด เรทอาร์ ตรงไปตรงมาในการนำเสนอทั้งภาพและฉากต่างๆ รวมถึงชื่นชอบที่จะใส่รายละเอียดทุกอย่างไปบนเส้นเรื่องของเขาแบบไม่อยากจะตัดออกเหมือนกับประสบการณ์ 4 ชั่วโมงใน Justice League นั่นเอง
Visual หรืองานภาพในเรื่องนี้ แซ็คเป็นผู้รับผิดชอบการกำกับเองทั้งหมดเพื่อให้ได้งานสไตล์เขาแบบสมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์ ตั้งแต่ฉาก Credit เปิดเรื่องที่ใส่จัดเต็มคล้ายกับดู Watchmen การ Focus Zoom ด้วยเลนส์สไตล์แซ็คที่มี Depth of Field เฉพาะตัวผสมผสานกับโทนสี Visual Contrast และ CG แบบ Neon Modern เหมือนหลุดออกมาจากโลกที่เขาสร้างขึ้นมาเอง ซึ่งออกมาเป็นงาน Snyder Punk
ภาพยนตร์มีการสอดแทรกกลิ่นอายฉากแอคชั่นของแซ็คได้จัดเต็มมากๆ ทั้งเสียงกระสุน เลือดสาด ก้อนเนื้อเละตุ้มเป๊ะแบบไม่เซนเซอร์ใดๆ แถมเส้นเรื่องก็มีความคล้ายคลึงมากๆกับ Suicide Squad (2016) ที่เริ่มจากการรวมทีมคนที่กล้าที่พร้อมจะเปลี่ยนแปลงชีวิตเส็งเคร็งของพวกเขาให้ดีขึ้น การวางคาแรคเตอร์ตัวละครในทีมทุกตัว รวมถึงจุดเด่นในงานช่วงหลังของแซ็คคือการใส่หัวใจของความสัมพันธ์พ่อลูกมากขึ้น หลังจากที่ตัวเขาเองต้องสูญเสียลูกสาวไปจากโรคซึมเศร้า ในแต่ละซีนถูกดีไซน์มาให้มีความบาลานซ์ในระดับหนึ่งและยังมีการสอดแทรกมุกตลกจากทีมเขียนบทที่กล่าวถึง Edge of Tomorrow รวมถึงซีนแอคชั่นฉับไวสไตล์จอห์น วิคมาเพิ่มจังหวะของภาพยนตร์ได้ดีมากๆ
4. Discussion
(เปิดเผยเนื้อหาบางส่วนของภาพยนตร์)
พื้นฐานของภาพยนตร์ถูกสร้างมาไม่ซับซ้อนมากนัก ประเด็นในภาพยนตร์จึงสามารถย่อยได้ง่ายและเบาบางอยู่บ้าง ทั้งประเด็นบาดแผลจาก Zombie Apocalypse ทั้งในแง่ของตัวบุคคลหรือความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง การพยายามพิสูจน์ตัวเอง การพยายามชดใช้ไถ่บาป รวมถึงการสร้างคุณค่าและหาโอกาสที่จะทำให้ชีวิตหลุดพ้นจากบ่วงเวทนา ทุกอย่างที่พูดมาสามารถจับต้องได้ไม่ยาก แซ็คไม่ได้ใส่ปรัชญาจัดจ้านแบบที่ทำกับ Watchmen แต่เน้นไปที่การสร้างจักรวาลของเขาทีละส่วนมากกว่า แม้กระทั่งความสัมพันธ์ของตัวละคร Scott Ward และ Kate Ward (Ella Purnell) ซึ่งเราก็แอบชอบความประโยคหนึ่งของภาพยนตร์มากๆ เหมือนเป็นความรู้สึกของคนเป็นพ่อกับลูก หรืออาจจะเป็นความรู้สึกในใจจริงๆของแซ็คที่ทิ้งไว้ในหนัง เพื่อที่จะส่งไปให้ลูกสาวของเขา หรือใครสักคนที่อยากจะส่งต่อคำพูดนี้ให้ลูกของพวกเขาเอง เป็นพาร์ทมนุษย์ที่เราสัมผัสได้และอยากเชียร์ที่สุดในหนังเรื่องนี้ แต่ในพาร์ทบางอย่างของหนังเรากลับรู้สึกว่ามันเยอะเกินไป เช่น ภารกิจที่จะต้องไปช่วยตัวละครตัวหนึ่งในหนัง หรือการพยายามชดใช้ของ Lily (Nora Arnezeder) ที่เรามองว่าตัวละครนี้มีเอกลักษณ์เหมาะกับการขยายตัวละครในพาร์ทที่น่าสนใจหรือนำไปสานต่อในจักรวาลมากๆ อีกตัวหนึ่ง
ซึ่งที่น่าผิดหวังเห็นจะเป็น Alpha Zombie ที่ดูเหมือนตัวอย่างหนังหรือการโปรโมทเองจะโปรยนานาสรรพคุณของพวกมัน แต่นอกจากความแข็งแกร่งกับการมีหัวจิตหัวใจของมัน แซ็คเองยังไม่สามารถพัฒนาความน่ากลัวขีดสุดของพวกมันได้ในหนังเรื่องนี้ อาจจะเป็นเพราะว่าแซ็คเองอยากจะเก็บโปรเจกต์นี้และค่อยอินพุทการเจริญเติบโตของพวกมันในจักรวาลซอมบี้ ที่จะค่อยๆเก่งขึ้นเรื่อยจนหาทางรับมือได้ยากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยเหตุผลนี้ทำให้ความรู้สึกสยองขวัญหรือความน่ากลัวในเรื่องดูเจือจางลงไปกลายเป็นหนังรวมทีมที่คอยไล่ยิงซอมบี้เป็นว่าเล่น ถึงแม้จะมีเหตุการณ์ที่แสดงความแข็งแกร่งของมันออกมา แต่ดูเหมือนว่าจะขาดชั้นเชิงและการใส่รายละเอียด function ของพวกเหล่า Alpha Zombie ไปอยู่ จนเมื่อดูไปถึงกลางเรื่องอาจจะต้องมีการกดข้ามอยู่บ้านเพราะความรู้สึกที่ว่าเนื้อเรื่องมันยืดยาวและอยู่กับที่ในช่วงองก์กลางที่ 2 ของเรื่อง
นักเจาะเซฟ Ludwig Dieter (Matthias Schweighöfer) กลายเป็นตัวละครที่ทำให้หลายคนตกหลุมรักเขามากๆในเรื่อง กลายเป็นตัวละครที่คอยมอบอารมณ์ขันสร้างอารมณ์ตลกร้ายและลดความตึงเครียดของหนัง ประกอบกับเคมีของความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นในหนังกับตัวละคร Vanderohe (Omari Hardwick) มันดูเท่อย่างไม่น่าเชื่อ และตัวละครเองมีคาริสม่าน่าค้นหามากๆ แม้กระทั่งทีมเขียนบทตัดสินใจเปิดโปรเจกต์ Army of Thieves ซึ่งเล่าเหตุการณ์ก่อนที่ Dieter เข้าร่วมทีมซึ่งคาดว่าจะเป็น Heist Film แบบเต็มตัว
5. Conclusion
เซอไพรส์มากที่ภาพยนตร์แอคชั่นซอมบี้เลือดสาดเรื่องนี้ของแซ็คถูกเพิ่มความมีหัวใจลงไปเยอะขึ้นในแง่ความสัมพันธ์พ่อลูกและบาดแผลของผู้เป็นมนุษย์หลังหายนะซอมบี้ แม้บางส่วนของ Prologue จักรวาลซอมบี้อาจจะยังไม่สมบูรณ์แต่การที่เราได้เห็นแซ็คทำในเรื่องนี้เราก็พอจะรู้ว่าจักรวาลนี้กำลังจะขยายไปในทิศทางที่น่าสนใจ การพัฒนา Alpha Zombie หรือในพาร์ทศีลธรรมของมนุษย์คงจะถูกหยิบยกมาเล่นหรือปรุงแต่งมากขึ้นหลังจากนี้เป็นต้นไป หรือในจักรวาลต่อไปหลังจากนี้อาจจะถูกเสริมเพิ่มเติมหนังแนวอื่นๆเข้ามา เพราะแซ็คเองอยากจะสร้าง Genre ภาพยนตร์ Zombie ที่แปลกใหม่ๆไปเรื่อย สำหรับคนที่เป็นแฟนภาพยนตร์ของ Zack Snyder กับความยาวหนัง 148 นาทีคงจะไม่พลาดแน่นอน และแน่นอนมีภาคต่อและโปรเจกต์อีกสามเรื่องต่อคิวในจักรวาลนี้แล้ว !
- Army of the Dead (dir. Zack Snyder, 2021)
Army of the Dead แผนปล้นซอมบี้เดือด
ไปดูกันได้แล้วที่ Netflix เท่านั้น !
.
#NetflixTH
#แผนปล้นซอมบี้เดือด #ArmyOfTheDead
#MovieThesis
อ้างอิง
ประวัติ George A. Romero
โฆษณา