Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Money Man
•
ติดตาม
22 พ.ค. 2021 เวลา 06:14 • หุ้น & เศรษฐกิจ
วิธีเริ่มเล่นหุ้นมือใหม่ต้องเริ่มยังไง? เสี่ยงไหม? ต้องใช้เงินเยอะจริงหรอ? ต้องเก่งก่อนไหม?
#อะไรที่มันไม่รู้วันนี้ก็มาทำให้มันรู้ซะ!!!👊👊
https://moneyhub.in.th/wp-content/uploads/2015/11/shutterstock_263381054-1024x768.jpg
แล้วทำไมเราต้องลงทุนล่ะ?
ในโลกของการเงินเนี่ยมันมีสิ่งที่เราเรียกมันว่าเงินเฟ้ออยู่ หมายความว่าการที่เราเก็บเงินในรูปของเงินที่เป็นกระดาษหยอดกระปุกเอาไว้หรือฝากไว้ในธนาคารนั้นมันจะโดนเงินเฟ้อกัดกินหรือว่ามูลค่าของเงินที่เราถืออยู่เนี่ยมันจะลดลงซึ่งแน่นอนว่ามันไม่คุ้มค่าเลยเพราะมูลค่าของเงินในปัจจุบันลดลง 1-3% ต่อปีเลยทีเดียว (เงินไม่ได้หายไปไหน แต่ของทุกอย่างราคาแพงขึ้น เงินเท่าเดิมเลยซื้อของได้น้อยลง) คงไม่มีใครอยากให้เงินของตนเองมีมูลค่าลดลงใช่มั้ยล่ะ
https://www.posttoday.com/finance-stock/money/523690
ทำไมต้องเป็น"หุ้น"?
จริงๆการลงทุนมันมีหลายแบบมากตั้งแต่ฝากเงินกับธนาคาร ซื้อตราสารหนี้ ซื้อทองคำ ซื้ออสังหาริมทรัพย์ ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล(ส่วนมากขาดทุน) ล้วนแต่เป็นการลงทุนกันทั้งนั้น
แต่หากเรามาดูย้อนหลังเเล้วเนี่ยหุ้นมีผลตอบแทนเฉลี่ย 8-12% ซึ่งสูงที่สุดเลยเมื่อเทียบกับการลงทุนแบบทั่วไปแล้ว ถึงแม้หุ้นจะมีความแปรปวนขึ้นๆลงๆอาจจะทำให้ขาดทุนได้แต่นั่นมันคือหุ้นระยะสั้นแต่ถ้าเรามองในระยะยาวแล้วเนี่ยเราแทบจะไม่ขาดทุนเลยด้วยซ้ำเพราะกำไรและขาดทุนมันเฉลี่ยกันแล้วสุดท้ายกำไรมันมากกว่าและการเล่นหุ้นไม่จำเป็นต้องเก่งก็เล่นได้ขอแค่มีความเข้าใจการ DCA แค่นั้นพอ
+++เคล็ดลับของการลงทุนในหุ้นให้ได้กำไรคือการลงทุนระยะยาว
https://1.bp.blogspot.com/-FpnoJ-MclAw/Wg1FuIsuYoI/AAAAAAAABTU/yqF-sXfWZw0-NH5dkptCoE330NRPrFkVQCPcBGAYYCw/s1600/Content-1-1.png
หุ้นคืออะไรให้ผลตอบเเทนยังไง?
พูดให้สั้นที่สุดเลย "หุ้น" เนี่ยคือสิทธิของการเป็นเจ้าของกิจการนั้นเอง โดยจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับจำนวนหุ้นที่เราถือ ทำให้เวลาบริษัทนั้นๆเนี่ยมีกำไรหรือมีเงินเหลือก็จะทำการแบ่งจ่ายเงินส่วนที่เหลือคืนให้กับคนที่เป็นของเจ้าของบริษัทนั้นนั่นเอง ยกตัวอย่างเช่น
💸ถ้าเรามีหุ้นของธนาคารกสิกรไทยแล้วปรากฏว่าปีนี้ธนาคารกสิกรไทยดำเนินธุรกิจได้ดี มีเงินเหลือก็จะทำการจ่ายเงินคืนเจ้าของในรูปแบบของปันผลนั่นเอง และไอ้เงินปันผลนั่นแหละคือผลตอบแทนของการลงทุนในหุ้น
++ส่วนต่างในการซื้อขายหุ้นก็เป็นผลตอบแทนนะ
1
ความเสี่ยงของการเล่นหุ้นมีอะไรบ้าง?
ซึ่งแน่นอนการลงทุนในหุ้นมันมีโอกาสขาดทุน ซึ่งมันอาจจะเกิดจาก "ราคาหุ้น" เนี่ยมันตกลงไป
เหตุผลที่ตกก็อาจจะมาจาก สภาพเศรษฐกิจ การดำเนินงานของบริษัทนั้นเนี่ยมันห่วยลงขาดทุนไม่สามารถทำกำไรได้ เพราะฉะนั้นแล้วเนี่ยเราควรลดความเสี่ยงด้วยการ
1.กระจายความเสี่ยง โดยซื้อหุ้นสัก 10 ตัว 20 ตัว เฉลี่ยกันไป โดยหากมีบริษัทใดบริษัทหนึ่งเนี้ยขาดทุนไปเราก็จะยังมีอีกหลายบริษัทที่ทำกำไรได้
2.การลงทุนระยะยาว เพราะว่าถ้าเราลงทุนยาวๆนานๆเนี่ยก็จะทำให้เราเเทบจะไม่มีการขาดทุนเลย ซึ่งลงทุนระยะยาวควรจะเป็น 10 ปีขึ้นไป
3.ความรู้ช่วยลดความเสี่ยง เน้นลงทุนในสิ่งที่เราเข้าใจ ซึ่งต้องเข้าใจว่บริษัทที่เราลงทุนเนี่ยทำกิจการเกี่ยวกับอะไร พื้นฐานของบริษัทเป็นยังไงสิ่งนี้จะทำให้เราคัดหุ้นที่ดีได้
1
https://www.posttoday.com/finance-stock/columnist/493118
ประเภทของนักลงทุนหุ้นมีแบบไหนบ้าง?
1.Trader💸 นักเกร็งกำไรหุ้นระยะสั้น สายนี้ร้อนแรงมากการซื้อขายหุ้นถือว่าไวมากๆ อาจจะเป็นรายวัน รายชั่วโมง หรือนาทีเลยก็ได้ แต่สายนี้ผมไม่ค่อยแนะนำนะ เพราะ90%จะแพ้ตลาด (ผลตอบแทนน้อยกว่าค่าเฉลี่ยตลาดหุ้น)
2. Value Investor💵 นักลงทุนสายคุณค่า (ระยะยาว) สายนี้เนี้ยถือเป็นสายที่เวิร์คที่สุดแล้ว เป็นการลงทุนในหุ้นที่เปรียบเสมือนเป็นเจ้าของบริษัทนั้นจริงๆ "หาหุ้นของบริษัทที่ดีในราคาที่เหมาะสม หรือราคาต่ำกว่าความเป็นจริง" แล้วพวกนี้เนี่ยจะถือยาวเป็น 5-30 ปีเลย ถ้าเกิดบริษัทไม่แย่ก็ไม่ขายกันเลยทีเดียว กำไรก็จะมาจากปันผลที่มันมากขึ้นทุกปี ทบตัวมันเองไปเรื่อยๆ หรือถ้าจะขายเนี่ยก็ได้กำไรมากๆ เพราะว่าถือตั้งแต่ราคาต่ำๆ สายนี้เป็นสายที่ผมเเนะนำเลย
3. Passive💰 ออมหุ้นแบบ DCA (ระยะยาว) สายนี้เป็นสายที่ผมชอบมากๆ เป็นสายที่เหมาะกับมือใหม่เลย จริงๆสายนี้ก็แตกมาจากสาย Value Investor นั่นแหละ หลักการลงทุนมันก็เหมือนกัน เพียงแต่ว่า วิธีการในการซื้อหุ้นลงทุนเนี่ยจะเอาไปประยุกต์ใช้ได้ง่ายกว่ามาก ซึ่งเรียกอีกอย่างว่า "การออมหุ้นแบบ DCA" นั่นแหละครับ คือการเเบ่งเงินของเราเนี่ยเอาออกไปซื้อหุ้นเรื่อยๆ ทุกๆเดือน
ไปออมในหุ้นเฉลี่ยกันไปเพื่อให้ได้ผลตอบแทนเท่ากับตลาดหุ้น เครื่องมือที่สมก็อาจจะมี ETF INDEX FUND หรือ กองทุนรวม ที่ลงทุนในหุ้นแบบ Passive ครับ มันต่างจากนักลงทุน Value Investor ตรงที่นักลงทุน Value Investor เนี่ยหลายคนจะไม่ได้ถัวเฉลี่ยมาก แต่เก็บเงินเอาไว้รอซื้อหุ้นยามวิกฤต ซื้อแค่ไม่กี่ตัว อาจจะซื้อ 1-2 ตัวที่มันเด็ดดวงสุดๆจริงๆแล้วปล่อยวิ่งยาวไปเลย ซึ่งมันต้องใช้ประสบการณ์ในการลงทุน+ความรู้ สามารถจับใจความตลาดได้ แล้วก็ต้องคัดเลือกหุ้นที่ดีที่สุดจากกองหุ้นเป็นร้อยเป็นพันตัวได้
ลงทุนในหุ้นยังไงดี?
จริงๆเนี่ยเราสามารถลงทุนในหุ้นได้ 2 แบบคือ
1.เปิดพอร์ตหุ้นกับ Broker
2.ซื้อผ่านกองทุนรวม
🔖สิ่งที่ต้องเตรียมในการเปิดบัญชีหุ้น🗃️
-บัตรประชาชน💳
-สมุดบัญชีธนาคาร🪙
-ทะเบียนบ้าน🧾
แล้วก็ไปเลือกเปิดกับ Broker ที่ท่านชื่นชอบเลยก็ได้ ซึ่งลักษณะของบัญชีก็มี 3 แบบด้วยกัน
สำหรับมือใหม่เนี่ยควรเปิดบัญชีแบบ Cash Balance เลยก็คือเราจะซื้อหุ้นได้เท่ากับเงินในบัญชีของเราที่ไปเปิดกับ Broker นั้นๆเลย ส่วนบัญชี Cash Account Credit Balance เนี่ยจะมีพวกวงเงินให้เรากู้ยืมจาก Broker เอามาซื้อหุ้นก่อนได้ ❌ซึ่งผมไม่เเนะนำสำหรับมือใหม่❌
https://www.set.or.th/education/Image/article/invest/invest_5/invest_5-1.png
แล้ว Broker ไหนดี?
จริงๆแล้วเนี่ยมันมีหลาย Broker มากลองไปหาดูกันได้ ส่วนที่สำคัญในการเลือกสำหรับผมคือ ค่าธรรมเนียมนี่ละครับ Broker ไหนถูกก็เอาอันนั้นเลย แต่ต้องแน่ใจด้วยว่ามันน่าเชื่อนะครับ ธนาคารที่เป็น Broker ก็มีนะครับ เช่น กสิกรไทย บัวหลวง SCB ก็มีหมดครับ อายุขั้นต่ำในการเปิดบัญชีหุ้นคือ 20ปี หรือถ้ามีน้องๆคนไหนอยากลองเนี่ย ก็ลองไปโหลดโปรแกรม Click 2 Win มาลองเล่นดูก่อนก็ได้
👉เว็ปไซต์เปิดบัญชีหุ้น⚖️
เปิดพอร์ตหุ้น (รวมทุก Broker )
https://www.setinvestnow.com/th/open-account-stock-eopen
เปิดพอร์ตกองทุนรวม (รวมทุก Broker )
https://www.setinvestnow.com/th/open-account-mutual-fund-asset-management
โปรแกรมจำลองการเทรดหุ้น Click 2 Win
http://click2win.settrade.com/SETClick2WIN/index.jsp
ขอขอบคุณข้อมูลจาก The Money Game by Tanin Kunkamedee
4 บันทึก
4
4
4
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย