ชวนคุยหลังดูจบ - charlie and the chocolate factory (spoilers)
เป็นหนังอมตะอีกเรื่องเลยก็ว่าได้สำหรับ "ชาร์ลี กับ โรงงานช็อกโกแลต" หรือ Charlie and the chocolate factory ที่ออกฉายไปในปี 2005 ดัดแปลงจากหนังสือต้นฉบับ ของโรอาลด์ ดาห์ล เรื่องราวแฟนตาซีของเด็กหนุ่มชาร์ลีที่ได้มีโอกาสเข้าไปในโรงงานช็อคแลตของ วิลลี่ วองก้า ที่กลับมาเปิดตัวอีกครั้ง
ชาร์ลีเป็นเด็กที่เติบโตมาในครอบครัวที่ยากจน พอมีกิน แต่ว่าเป็นครอบครัวที่อบอุ่น ชาร์ลีและคุณปู่ของเค้าเนี่ยสนใจโรงงานช็อคโกแลตที่อยู่แถวบ้านมาก มันเป็นโรงงานที่ปู่เคยทำงานอยู่เมื่อหลายปีก่อน แต่ว่าโรงงานนั้นก็ได้ปิดตัวไปสักพัก ก่อนจะกลับมาเปิดขายอีกครั้ง
แต่การกลับมาครั้งนี้น่าสนใจมาก เพราะว่าไม่เคยมีใครเห็นคนเข้า - ออก จากโรงงานนี้เลย มีแค่ช็อคโกแลตที่ถูกซีลเรียบร้อยเท่านั้น มันเกิดอะไรขึ้นในโรงงานนั้นกัน คำตอบก็มีแค่ " วิลลี่ วองก้า " เจ้าของโรงงานเท่านั้นแหละที่รู้
เรื่องราวเริ่มขึ้นเมื่อเช้าวันหนึ่ง แผ่นประกาศจากวองก้าได้ถูกติดไว้ทั่วเมือง เขาจะเปิดโรงงานของเขาให้เด็กผู้โชคดีทั้ง 5 คน แต่เข้าไปในนั้น โดยที่เขาได้ใส่ 'ตั๋วทอง' ทั้งหมด 5 ใบ ลงไปในห่อช็อคโกแลตธรรมดาและส่งมันไปทั่วโลก ใครที่หาตั๋วเจอก็จะได้สิทธิ์นั้นไป
และ 1 ใน 5 ผู้โชคดีจะได้รับรางวัลสุดพิเศษเกินจะจินตนาการ แน่นอนว่าด้วยบัฟตัวเอก ชาร์ลีก็ได้สิทธิในการจูงมือคุณปู่เข้าไปในโรงงานช็อคโกแลตของวิลลี่ วองก้า พร้อมกับเด็กคนอื่นๆอีกสี่คน แต่ทำไมท่าทีของวิลลี่ วองก้าถึงได้ดูแปลกไป และดูเหมือนจะมีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นกับเด็กๆ นะ
หนังเล่าเรื่องโดยใช้ความแฟนตาซี และแฝงแมสเสจบางอย่างไว้ในบทเพลง
เรื่องราวของเด็กๆ อีก 4 คนที่ได้เข้ามาในโรงงานช็อคแลตกับชาร์ลีนั้น ดูเหมือนว่าจะเป็นตัวแทนของเด็กที่ทำตัวไม่ดีจากบทพูดและองค์ประกอบต่างๆ ที่ตัวหนังปูมาให้เรา จะเข้าใจได้เลยว่าแต่ละคนมีนิสัยเสียเป็นของตัวเอง ออกัสตัสเป็นคนตะกละ ไวโอเลอวดดี เวรูก้าเป็นเด็กที่เอาแต่ใจ ส่วนไมค์ก้าวร้าว แต่จริงๆ ถ้าลองมาคิดดูแล้ว..
ใครกันแน่ที่เป็นคนผิดในเรื่องนี้กันนะ -
ออกัสตัสตะกละ เขาจึงควรได้รับบทลงโทษที่กินมูมามไม่หยุด
ไวโอเลตได้รับบทลงโทษจากความอวดดีไม่ฟังใคร
เวรูก้าถูกจับโยนลงไปในกองขยะเพราะความเอาแต่ใจ
ไมค์ได้รับบทเรียนจากนิสัยก้าวร้าวและความอวดดีไม่ฟังใคร
แน่ใจจริงๆ เหรอ?
ถ้าหากว่าออกัสตัสและเวรูก้าถูกตามใจจนนิสัยเสีย
ถ้าหากไวโอเลตถูกปลูกฝังความคิดแบบนั้นมาจากผู้ปกครองของเธอ
ถ้าหากไมค์ไม่ได้รับความใส่ใจจากพ่อแม่จนติดทีวี
เรื่องนี้จะเป็นความผิดของใคร?
เราไม่ได้จะเบลมว่านี่เป็นความผิดของผู้ใหญ่ หรือเป็นความผิดของเด็ก แต่เพียงอยากจะลองชี้ชวนให้เห็นในหลายๆ มุมเท่านั้น
และในตอนจบ ก็มีทั้งคนที่ได้รับบทเรียนอย่างพ่อของเวรูก้าที่ได้ปฎิเสธความต้องการของเธอออกมาเป็นครั้งแรกในหนัง และคนที่ไม่ได้รับ
" We need the money more than we need the chocolate "
ประโยคนี้ของชาร์ลีทำเรานิ่งไปเลยค่ะ การเสียดสีที่น่าเศร้า ในขณะที่เวรูก้าชี้นิ้วโวยวายกับพ่อของเธอเพื่อที่จะได้ในสิ่งที่เธอต้องการ ชาร์ลีมีความคิดที่จะยอมขายตั๋วที่เขาเจอเพื่อเอาเงินไปให้ครอบครัว
โลกมันโหดร้ายเนอะ เราอาจจะเป็น dummy ทาสทุนนิยม ตามที่คุณปู่ของชาร์ลีบอกจริงๆ แต่ว่ามันก็พูดยาก เงินก้อนนั้นมันอาจจะมากจนทำให้ครอบครัวสบายไปทั้งชาติได้เลยนะ สำหรับบ้านชาร์ลีที่พ่อก็เพิ่งตกงาน ดูยังไงก็ไม่น่าตั้งตัวได้เร็วๆนี้แน่
ครอบครัวรักเราที่สุด - ทั้งหมดที่เขาทำเป็นเพราะเขาอยากจะปกป้องพวกเรา
นั่นน่ะ เ ป็ น เ รื่ อ ง จ ริ ง เ ส ม อ งั้นเหรอคะ
แน่นอนว่าไม่ค่ะ
คำพูดนั้นมาจากมุมมองของชาร์ลีที่เติบโตมาในครอบครัวอบอุ่นเพียงคนเดียวเท่านั้น
โอเค มันเป็นตอนจบที่อบอุ่นหัวใจดีแหละ คุณพ่อของวิลลี่ที่เคยไล่เขาออกจากบ้านเพียงเพราะความชอบของเขา คอยเฝ้ามองความสำเร็จของเขามาตลอดตั้งแต่วันที่ออกจากบ้าน ทั้งคู่สวมกอดกันและเรื่องคลาย น่าประทับใจจริงๆ ค่ะ สายสัมพันธ์ครอบครัว
แต่ถ้าหากว่าพ่อของวิลลี่ไม่ได้ทำอย่างนั้นล่ะคะ?
ถ้าหากหนังเรื่องนี้ไม่ใช่ genre family วองก้ากับพ่อไม่ได้รักกันแล้ว เขาถูกตัดหางจริงๆ ชาร์ลีก็คงจะกลายเป็นคนที่สร้างแผลใจที่ใหญ่ที่สุดให้กับวิลลี่ไป การจะให้คนอื่นไปเผชิญความจริงในอดีตมันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เหมือนในหนังหรอกนะคะ
แต่ว่าชอบที่เรื่องดันประเด็นที่วิลลี่วองก้าได้รับ 'ครอบครัว' ใหม่ ในตอนท้ายเรื่องขึ้นมานะคะ เหมือนบอกกลายๆ ว่าครอบครัวไม่จำเป็นต้องมีสายเลือดร่วมกัน แต่สายสัมพันธ์ต่างหากที่จำเป็น
ทุกคนคิดเห็นอย่างไรบ้างคะ ทั้งหมดนี้เป็นความเห็นของเราค่ะ มาคุยกันได้นะคะ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
