2.ตลาดหุ้นในระยะสั้นเนี่ยมันเป็น Zero Sum Game ก็คือถ้าจะมีใครได้กำไร จะต้องมีคนขาดทุนอยู่เสมอ ดังนั้นเงินมันก็จะหมุนเวียนเปลี่ยนมือกันอยู่อย่างนี้ มันไม่ใช่ตลาดที่ทุกคนจะสามารถชนะพร้อมกันได้
3.ค่าธรรมเนียม ค่าธรรมเนียมที่เราต้องเสียให้กับ Broker ทุกครั้ง หลังการซื้อขายหุ้น ไม่ว่าเราจะได้กำไรหรือขาดทุนเราต้องเสียค่าธรรมเนียมเสมอ นั่นแหละมันจึงไม่แปลกเลยคนที่ซื้อๆขายๆเยอะจะได้รับผลตอบแทนที่ห่วย "กองทุนที่มีค่าธรรมเนียมสูงจะมีโอกาสแพ้ตลาดมากถึง2เท่าเลย" ในเมื่อการชนะตลาดมันยาก จึงได้กำเนิด "Index Fund" Passive Fund ผู้ไม่มีวันแพ้ขึ้นมาครับ ก่อตั้งโดย John C. Bogel ซึ่งกองทุนนี้จะมีจุดประสงค์ต่างจากกองทุนธรรมดา ก็คือกองทุนทั่วไปเนี่ยจะมีผู้จัดการคอยซื้อขายหุ้นให้เราเพื่อให้ได้ผลตอบแทนมากกว่าตลาด เรียกว่าการบริหารแบบ Active ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ ส่วน Index Fund จุดประสงค์ก็คือ กองทุนที่พยายามทำผลตอบเเทนให้ได้เท่ากับตลาดจึงไม่แพ้และไใ่ชนะตลาด กองทุนนี้จะไม่มีผู้จัดการมาคอยซื้อๆขายๆหุ้นให้เราแต่ว่าจะเอาเงินของเราเนี่ยไปกระจายซื้อหุ้น กระจายซื้อ100ตัวเเรกหรือว่า300ตัวแรก500ตัวแรกของตลาด เฉลี่ยของน้ำหนักกันไป วิธีนี้จะทำให้เราได้รับผลตอบแทนตามตลาดแน่นอนโดยไม่ต้องลุ้นเลย เพราะว่าเราซื้อตลาดทั้งตลาดไปแล้ว และลักษณะที่แตกต่างกันอีกอย่างคือ "ค่าธรรมเนียมถูกกว่ามากๆ" ซึ่งค่าธรรมเนียมที่ถูกนี่แหละที่ให้กองทุนแบบ Passive ชนะกองทุนแบบ Active ได้ครับ และนี่แหละคือหัวใจถ้าถามว่าซื้อหุ้นตัวไหนดี? คำตอบก็คือให้ซื้อ Index Fund หรือว่า ETF กองทุนแบบ Passive นั่นเอง