24 พ.ค. 2021 เวลา 00:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ
วันนี้มาดูเรื่องพาร์ ของหุ้นกันดีกว่า ราคา, การแตก-รวมพาร์ 🧐
(สายCrypto ก็อ่านได้นะ การแตกพาร์-รวมพาร์)
🎯 ราคาพาร์ (Par Value) คือ?
มูลค่าเริ่มต้นของกิจการ โดยไปจดทะเบียนกับรัฐว่า มีทุนจดทะเบียนเท่าไหร่ และจะมีกี่หุ้น เป็นราคาของหุ้นที่ถูกตราเอาไว้ 1 หุ้น ณ ช่วงเวลาเริ่มต้นของการจดทะเบียนบริษัท
ราคาพาร์จะไม่มีความเกี่ยวข้องกับราคาของตลาดหุ้น ราคานี้จะยืนหยัดอยู่เท่าเดิม แม้ว่ามูลค่าทางบัญชี หรือราคาของตลาดหุ้นจะเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยแค่ไหนก็ตาม
👉วิธีคิดก็คือนำทุนจดทะเบียน หารจำนวนหุ้น ก็จะได้ราคาพาร์ออกมา
✋แต่ราคาพาร์ ไม่เท่ากับ IPO นะ
IPO เป็นราคาที่เสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไป โดยจะประเมิณจากตัวกิจการ ซึ่งมักจะสูงกว่าราคาพาร์ ดังนั้นส่วนที่เกินมา (IPO - Par) คูณด้วยจำนวนหุ้น จะเรียกว่า "ส่วนเกินมูลค่าหุ้น"
🎯 การรวมพาร์ (Reverse Stock Split) คือ?
การรวมหุ้นให้มีขนาดใหญ่ขึ้นและหุ้นในระบบจะมีจำนวนลดลง ซึ่งจะทำให้ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นเช่นกัน แต่มูลค่าหุ้นของเราก็ยังคงเท่าเดิม
🎯 การแตกพาร์ (Stock Split) คือ?
การทำให้จำนวนเงินที่ต้องใช้ในการซื้อขายหุ้นแต่ละครั้งลดลง เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้มีการซื้อขายหุ้นได้ง่ายขึ้น
🎯 ทำไมต้องมีการรวมพาร์ - แตกพาร์?
🔴รวมพาร์เพื่อ👇
เพื่อภาพลักษณ์ราคาที่ดีขึ้น คนส่วนใหญ่มีแนวคิดที่ยึดติดว่าหุ้นราคาแพงๆคือหุ้นชั้นดี ถ้าหุ้นมีราคาถูกไป ผู้บริหารหรือเจ้าของบริษัทก็คงต้องรวมพาร์เพื่อให้ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น
และอีกประเด็นคือ เพื่อลดจำนวนผู้ถือหุ้นลง กรณีที่มีผู้ถือหุ้นมาก การบริหารจัดการก็จะยุ่งยากตามไปด้วย คนเยอะ การใช้สิทธิ์ การออกเสียง ก็จะมีเยอะ กระจัดกระจาย ซึ่งส่งผลต่ออำนาจตัดสินใจในบริษัท
🔴แตกพาร์เพื่อ👇
เพื่อเพิ่มสภาพคล่อง การแตกพาร์นั้นจะทำให้เราได้จำนวนหุ้นเพิ่มขึ้น ดังนั้นเราก็อาจถือโอกาสนำหุ้นที่ถูกแบ่งจากการแตกพาร์บางส่วนออกมาขายได้ และทำให้เราซื้อหุ้นง่ายขายหุ้นคล่องกว่าเดิม
ราคาหุ้นที่เคยสูงติดเพดาน ระดับหลักร้อยหรือหลายร้อยบาทต่อหุ้น ก็ลดลงมาอยู่หลักสิบบาทต่อหุ้น ทำให้นักลงทุนรายย่อยสามารถเข้าถึงได้ง่ายด้วย
🎯 ถ้าเราถือหุ้น / เหรียญไว้อยู่หล่ะ?
ราคาและจำนวนที่ปรับใหม่หลังแตกพาร์นั้นจะเข้ามาพอร์ตของผู้ถือหุ้น/เหรียญเดิมแบบอัตโนมัติในวันที่มีผล
โฆษณา