25 พ.ค. 2021 เวลา 05:30 • ปรัชญา
พระองค์ที่ ๑๐
เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๘๗ สงครามโลกเห็นจะยังไม่เลิอาตมาก็เป็นพระนักเทศน์ กำลังเบ็นพระนักเทศน์อยู่ วันหนึ่งชาวราชบุรีเขานิมนต์ไปเทศน์ วันรุ่งขึ้นเขาก็นิมนต์ไปฉลองบ้าน เขาปลูกบ้านใหม่ ก็ไปสวดมนต์เย็น ตอนนั้นยังเก่งอยู่
พระองค์ที่ ๑๐ ประดิษฐานในมณฑปแก้ว วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี
ตอนนี้ใครนิมนต์สวดมนต์เย็นไม่เอาแล้ว เขานิมนต์พระ ๙ องค์ เจ้าคุณธรรม เข้าใจว่าเสนานี วัดสัตนารถ เจ้าคณะจังหวัดราชบุรีเป็นหัวหน้า เมื่อเวลาไปถึงบ้านเขาตอนเย็น
ปรากฏว่ามีพระนั่งอยู่แล้ว ๑ องค์ อายุอานามเห็นจะไม่แก่กว่าอาดมา (แล้วตอนนั้นอาตมายังไม่ถึง ๓๐) หน้าตายังหนุ่มมาก ผิวพรรณสวยหน้าตาอิ่มเอิบ ทรวดทรงดีมาก ถ้าจะจัดเป็นผู้ชายสวยก็เห็นว่าจะสวยได้พอดี เรียกว่าสวยหาตัวจับยาก หน้าตาอิ่ม ผิวค่อนข้างเหลือง มองดูแล้ว ชอบใจ พระทุกองค์ก็ชอบใจ ท่านนั่งอยู่ต้นเพื่อน เจ้าคุณธรรมเสนานีสมัยนั้นก็อายุ
๕๐ เศษหน้าตาแก่กว่าพระองค์นั้นเยอะ
แต่ว่าเวลาเจ้าคณะจังหวัดขึ้นไปท่านไม่ให้ ท่านนังแล้ว เจ้าคุณธรรมเสนานีเป็นพระดี ท่านก็นั่งรองลงมา พวกเราก็นั่งรองต่อมาตามลำดับ
แต่ปรากฏว่าพระเขานิมนต์มา ๙ องค์ เป็น ๑๐ องค์ทั้งท่าน ถึงเวลาสวดมนด์ท่านสวดเสียงเพราะจริง ๆ พังแล้วจับใจมีกังวาน พังรู้สึกใจมันชื่น ๆ ชอบกล เสียงไม่เหมือนแร้ง ไม่เหมือนกา แหบ ๆ เหิบ ๆ อย่างอาตมาหรอก พังเสียงนวล ๆ
สวดมนต์เสร็จท่านก็กลับ เราก็กลับ พอรุ่งขึ้นเช้าท่านก็ไปอีก ไปนั่งก่อน ตานี้เวลาฉันข้าวอยู่ ท่านเจ้าคุณธรรมเสนานีก็สงสัย คือพระองค์นี้หน้าตาหนุ่ม แล้วทำไมนั่งข้างหน้า มันควรจะนังข้างหลัง คุยกันไปคุยกันมา ฉันข้าวก็ค่อย ๆ คุยกัน เจ้าคุณธรรมเสนานีก็เลยถามว่า
ท่านขอรับ ผมขออภัยเถอะ ท่านบวชมากี่พรรษาแล้ว
ท่านก็เลยบอกว่า ไอ้พรรษานี่มันนับไม่ค่อยได้หรอก เดี่ยวดูใบสุทธิก่อน ท่านก็ล้วงย่ามลงไปเอาใบสุทธิออกมาส่งให้ปรากฏว่าในใบสุทธินั้นบอท พ.ศ. เมื่อเอาเลขลบกันลงไปแล้ว เป็นเวลา ๓๐๐ บีเศษ เป็น
อันว่าท่านบวชมาแล้วน่ะ ๓๐ บีเศษนะ ไม่ใช่อายุเกิด
เจ้าคุณธรรมเสนานี ก็ส่งใบสุทธิให้พระทุกองค์อ่าน เมื่อพระทุกองค์อ่านแล้ว ก็ไม่สงสัย
พอฉันเสร็จให้พรเสร็จเรียบร้อยแล้วท่านก็ลากลับก่อน ท่านลาญาติโยมทุกคนเดินลงบันไดไป บ้านนั้นนะเป็นบ้านของนายสารี เปาเล้ง ลืมบอกไป คลองแพงพวย พอท่านเดินไปถึงบันได
ท่านเจ้าคุณธรรมเสนานีก็ถามว่ารู้จักพระองค์นี่ไหม นิมนต์มาจากไหน เจ้าของบ้านก็บอกว่าไม่ได้นิมนต์
ก็เลยให้คนลงไปดูว่า ท่านเดินไปทางไหน ถ้าเดินไปทางวัดไหนแล้วจะไปถามพระวัดนั้น
พอดีท่านลงบันไดลับตัวไปพอดี บ้านอยู่กลางทุ่ง ถ้าพระจะเดินไปสักชั่วโมงยังเห็นตัวสบาย ๆ คนข้างบนเดินลงไปถามข้างล่างว่าพระไปไหนดูกันแล้วทั้งหมด ปรากฎว่าไม่เห็น
พระองค์นั้นเลย ไม่ทราบว่าพระองค์นั้นไปไหนระยะเวลาสัก ๓ นาที เท่านั้นแหละที่พูดกัน อาจจะเป็น ๒ นาที หรือนาทีเศษ ๆ ก็ใด้ พูดกันเพียงว่าพระองค์นี้มาจากไหน ใครนิมนต์มา เจ้าของบ้านก็บอกว่าไม่ได้นิมนต์ ท่านมาเอง
เท่านี้แหละ ท่านเจ้าคุณธรรมเสนานีก็บอก ไปดูซิท่านเดินไปทางวัดไหน เราจะได้ไปถามวัดนั้น ว่าพระองค์นี้มาจากไหน ในจังหวัดนี้ฉันก็เคยเป็นเจ้าคณะจังหวัด ไม่เคยเห็นพระแบบนี้เลย จริยาน่าเลื่อมใสมาก รูปก็สวย เสียงก็เพราะว่าหนังสือดีมาก แต่ว่ากลางวันแสกๆ ทุ่งโล่ง ๆ มองไม่เห็นก็กลายเป็นเรื่องอัศจรรย์
นี่เรื่องของพระองค์ที่ ๑๐ นี่จะเป็น เพราะอะไรก็ช่าง จบกันแค่นี้นะ
เรื่องจริงอิงนิทาน โดยพระราชพรหมยาน วัดจันทาราม จ.อุทัยธานี
โฆษณา