25 พ.ค. 2021 เวลา 00:02 • ปรัชญา
มนุษย์เราเกิดมาคนเดียวตัวเปล่าๆ
และก็จากไปแบบตัวเปล่า
แต่ไม่น่าเชื่อว่าพวกเราใช้เวลาบนโลก
ไปกับการเปรียบเทียบกับชีวิตคนอื่นแทบทั้งชีวิต
ตั้งแต่เรายังเด็ก
เรามักได้ยินพ่อแม่มักเอาเราพูดไปเปรียบเทียบกับลูกข้างบ้าน
หรือบรรดาลูกเพื่อนๆ ว่า
“ทำไมลูกไม่เรียนเก่งเหมือนอย่างเขา”
“ทำไมลูกสอบเข้าที่นี่ไม่ได้”
“ลูกข้างบ้านสอบชิงทุนได้ไปต่างประเทศ ลูกน่าจะเอาอย่างเขาบ้างนะ”
พอเติบโตแต่งงานมีครอบครัว
ก็ได้ยินคู่ครองเอาเราไปเปรียบเทียบอีกว่า
“คุณ..จำเพื่อนคนนี้ได้ไหม เขาได้งานในบริษัทใหญ่โตทำ คุณลองบ้างซิ”
“ทำไมคุณไม่มีเวลาให้ครอบครัวเหมือนคนอื่น”
“ทำไมวันวาเลนไทน์ไม่มีดอกไม้มาให้เหมือนใครๆ เขา”
พอเราแก่ตัวมีลูกมีหลาน
เราก็ได้ยินลูกหลานพูดเปรียบเทียบอีกว่า
“ทำไมพ่อแม่ไม่เข้าใจหนูเหมือนพ่อแม่เพื่อนเลย”
“ทำไมผมไม่ได้ของเล่นใหม่เหมือนเพื่อนผม”
“พ่อแม่เพื่อนหนูพาไปเที่ยวต่างประเทศ ทำไมหนูไม่เห็นเคยได้ไปเลย”
หรือแม้กระทั่งตัวเราเอง
เราก็มักจะเอาตัวเราไปเปรียบเทียบกับเพื่อน กับคนรู้จักอยู่เสมอ
“ทำไมเราไม่ได้เงินเดือนสูงเท่าเพื่อนเรา”
“ทำไมมันขี้เกียจแต่รวยขึ้นมาได้”
“ทำไมเพื่อนโชคดีได้แฟนหน้าตาดี”
ไม่ว่าจะเป็นใคร
หากเอาตัวเองหรือคนอื่นไปเปรียบเทียบในแง่ที่ด้อยกว่า
เราจะเกิดความไม่สบายใจขึ้นมา
เกิดความหดหู่ รู้สึกพ่ายแพ้
อาจเป็นเพราะสัญชาติญาณของมนุษย์ชอบการแข่งขัน
มักไม่ยอมแพ้ ยิ่งเป็นคนใกล้ตัว คนรอบข้างที่เรารู้จัก เรายิ่งไม่อยากรู้สึกแพ้
เราจึงมักเปรียบเทียบอยู่เสมอ
เราไม่รู้สึกอะไรเมื่อได้ยินข่าวคนไม่รู้จักได้ดิบได้ดี
แต่พอเป็นเพื่อนสนิท เราจะรู้สึกอิจฉาขึ้นมาทันที
นั่นเป็นเพราะคนที่เรารู้จัก เรามองว่าเขาอยู่ในระดับเดียวกับเรา
แต่หากเขาได้ดีกว่า เราจึงเป็นทุกข์
เพราะกลายเป็นว่าเราไม่มีในสิ่งที่เขามี
นั่นเป็นเพราะว่าเรามองชีวิตเป็นแค่กราฟสองมิติ
มีแค่แกน X กับ แกน Y
หากเห็นคนรู้จักได้ดีก็ตีกราฟเขาให้อยู่สูง แล้วเอากราฟตัวเราให้ต่ำกว่า
ทั้งๆ ที่ชีวิตเราแต่ละคนไม่มีใครเหมือนกัน มีมิติที่ซ้ำซ้อนมากกว่านั้น
ทั้งในแง่ของจุดเริ่มต้น ความชอบ ความถนัด
สิ่งแวดล้อม ปัจจัยเกื้อหนุนก็แตกต่างกัน
เราไม่ถนัดไม่เก่งเรื่องนี้ แต่เราก็อาจมีดีเรื่องอื่นแทน
การเอาตัวเองไปเปรียบเทียบแล้วรู้สึกตัวเองด้อยค่า
จึงอาจเป็นการไม่ให้ความเคารพกับตัวเองเท่าไรนัก
แน่นอนว่าการเปรียบเทียบอาจช่วยให้เราเห็นข้อเสียของตัวเรา
แล้วนำมันมาปรับแก้ไข เพื่อทำให้ชีวิตดีขึ้นได้ต่อไป
แต่การเปรียบเทียบมันต้องดูเป็นเรื่องๆ ไม่ใช่เหมารวมทั้งหมด
และรู้สึกว่าตัวเองไม่มีคุณค่าอะไร
เราควรเคารพตัวเอง รู้จักข้อดี ยอมรับข้อเสีย
และพัฒนาให้ดีขึ้น ไม่ใช่ไปดูถูกตัวเอง
ดวงดาวบนท้องฟ้ามีหลายล้านดวง
แต่ไม่มีดาวดวงไหนที่ตำแหน่งซ้อนทับกัน
บางครั้งเรามองเห็นดาวดวงนี้อยู่ตำแหน่งที่สูงกว่าอีกดวง
แต่ในบางเวลาเรากับเห็นดาวดวงเดิมกับอยู่ต่ำกว่าที่เคย
นั่นเป็นเพราะมันมีปัจจัยแวดล้อม ทั้งสถานที่การมอง เวลา ระยะห่างเข้ามาเกี่ยวข้อง
ชีวิตคนเราก็อาจเป็นเช่นนั้น
ทุกคนมีข้อดีข้อเสียอยู่ในตัวเอง
ไม่มีใครที่เหมือนกัน หรือแทนที่ใครได้ทุกอย่าง
ต่างก็ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด
1
แล้วเราจะเปรียบเทียบให้ตัวเองหดหู่กันไปทำไม?
โฆษณา