8 เทคนิคสร้างนิสัย Life Long Learning
.
Life Long Learning หรือทักษะการเรียนรู้ตลอดชีวิต คือทักษะหนึ่งที่ทุกคนเห็นตรงกันว่าสำคัญที่สุดในปัจจุบัน เพราะทุกอย่างเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ที่เรียนมา 4-5 ปีอาจใช้ไม่ได้เลย นี่คือเหตุผลที่เราไม่ควรหยุดเรียนรู้ แล้วจะสร้างนิสัยเรียนรู้ตลอดชีวิตได้ยังไง ให้เราทั้งสนุกและอยากทำมัน
.
1. รู้จริตตัวเองก่อนว่าชอบเรียนรู้แบบไหน
.
ถ้าอยากอ่านหนังสือเยอะๆ ลองถามตัวเองก่อนว่าทำไมถึงอยากอ่าน ถ้าคำตอบคือการอยากเก่งขึ้น การเรียนรู้เพื่อให้เก่งขึ้นไม่จำเป็นต้องมาจากการอ่านเพียงอย่างเดียว การเรียนรู้สามารถมาจากการคุยกับคน การฟังพอดแคสต์ การเรียนรู้ผ่านความผิดพลาด ลองสังเกตตัวเองดีๆ ว่าตัวเราชอบเรียนรู้ด้วยรูปแบบหรือวิธีการไหน
.
2. รู้ว่าเราต้องรู้อะไร
.
เราไม่จำเป็นต้องรู้ทุกเรื่อง เช่น ถ้าคุณชอบทำอาหาร อยากเปิดร้านอาหาร คุณไม่จำเป็นต้องไปรู้ว่ารถยนต์ทำงานอย่างไร หรือแอร์เสียต้องซ่อมแบบไหน เราต้องรู้ก่อนว่าในช่วงจังหวะชีวิตตอนนี้ ทำงานนี้ เราควรจะเรียนรู้เรื่องอะไรมากที่สุด คุณมองอนาคตข้างหน้าไปทางไหน คุณอยากจะทำอะไร คุณอยากจะพัฒนาตัวเองไปในแง่มุมไหนให้ชีวิตดีขึ้น และอยากเติบโตไปอย่างไร
.
3. เริ่มจากตัวเราก่อน
.
หลายคนคงคิดว่าการเรียนรู้ตลอดชีวิตเป็นเรื่องของนักเรียน ลองเปลี่ยนมุมมองดูว่าถ้าเราเป็นคุณครูของตัวเอง เรากำลังสร้างหลักสูตร เรากำลังมองไปข้างหน้าว่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลง เราเป็นครูที่คอยตั้งคำถามกับตัวเองว่าอีก 6 เดือนข้างหน้า เราอยากเก่งเรื่องอะไรมากขึ้น เราต้องเรียนรู้อะไร ทำแบบนี้เราจะไม่ได้ตั้งรับอย่างเดียว การคิดแบบครูจะทำให้มุมมองเราแตกต่าง เราจะอยากสร้างองค์ความรู้บางอย่างด้วยตัวเอง
.
4. หาตัวกระตุ้น
.
เคยเป็นไหม เราไม่มีความอยากรู้เรื่องที่กำลังเรียนอยู่เลย เช่น วัยเด็กเราอาจจะไม่อยากรู้เรื่องการเงินเลย แต่โตมาเรากลับอยากรู้เพราะเรามีตัวกระตุ้น เพราะมันเป็นสิ่งจำเป็นต่อชีวิต ความอยากรู้ สำคัญกว่าความรู้ เพราะความรู้มีอยู่ทุกที่ แค่พิมพ์ลงไปใน Google ก็เจอแล้ว แต่การที่เราจะพิมพ์สิ่งนั้นลงไป เราต้องมีความอยากรู้อยากเห็นเกิดขึ้น พยายามหาสิ่งใหม่ที่เราอยากรู้ให้ได้ 1 ครั้งใน 1 วัน
.
5. พยายามไปเจอคนเก่งๆ ให้ได้มากที่สุด
.
กฎของแรงดึงดูดยังใช้ได้ผลในทุกวันนี้ ยิ่งเราเจอคนเก่งๆ มากเท่าไร เราจะรู้สึกมีพลัง มีกำลังใจมากขึ้น เวลาเจอคนเก่งๆ พวกเขามีแพสชั่น และความอยากรู้อยากเห็นตลอดเวลา เอาตัวเองไปอยู่ในจุดนั้นให้ได้มากที่สุด ไปงานเสวนาดีๆ ไปร้านหนังสือดีๆ เป็นการกระตุ้นให้ตัวเราอยากเก่งมากขึ้นกว่าเดิม พยายามพาตัวเองไปในสถานที่ที่น่าจะมีคนเก่งๆ ไปพูดคุยกับพวกเขา หาคอนเน็กชั่นใหม่ๆ
.
6. เรียนไม่พอ เราต้องสอนคนอื่นเป็นด้วย
.
การที่เราอ่านหนังสือเล่มนึง แล้วสามารถเอาไปเล่าหรือไปสรุปให้คนรอบๆ ตัวฟังได้ จะมีประสิทธิภาพกว่าการอ่านเล่นๆ อ่านผ่านๆ การสอนคนอื่นเป็นการฝึกเก็บประเด็น และทำให้เราอยากเรียนรู้สิ่งนั้นมากขึ้น เพราะมันเหมือนถูกบังคับว่าต้องตั้งใจฟัง และเอามาเล่าต่อให้คนอื่นฟังได้
.
7. สร้างสิ่งแวดล้อมที่ทำให้เรามีความสุขทุกครั้งที่เรียนรู้
.
สมมติว่าเราอยากจะอ่านหนังสือสักเล่ม แทนที่จะนั่งอ่านที่บ้านคนเดียวเหงาๆ ลองเปลี่ยนมาอ่านที่ร้านกาแฟสบายๆ ริมแม่น้ำ สร้างบรรยากาศที่ทำให้เรารู้สึกสนุก หรือการจุดเทียนหอมทุกครั้งก่อนอ่านหนังสือ เปิดเพลงแจ๊ซคลอเบาๆ สร้างบรรยากาศให้น่าอ่าน ให้เรารู้สึกดีกับตัวเอง ในขณะเดียวกันก็ให้รางวัลกับตัวเองหลังจากที่เราเรียนรู้ไปแล้ว เหมือนกันการหลอกตัวเองเล็กๆ ให้เราอยากเรียนรู้มากขึ้น
.
8. เรียนรู้ผ่านการลงมือทำ
.
การจะได้ความรู้ในยุคปัจจุบัน แค่อ่าน ฟัง หรือดู ไม่พออีกต่อไป เราต้องลงมือทำด้วย ไม่ผิดหากจะบอกว่าการลงมือทำ เป็นการเรียนรู้ที่ดีที่สุด เช่น การที่เราไปฟังงานสัมมนาดีๆ มา ก็จะไม่มีประโยชน์เลยถ้าเราไม่ได้ลองเอามาปรับใช้กับองค์กรของเรา
.