26 พ.ค. 2021 เวลา 03:40 • อสังหาริมทรัพย์
มาต่อกันที่บทความ 33 นะครับ
ถ้าใครได้อ่านบทความที่แล้วของผมจะเห็นได้ว่าปัญหาของผมคือ👉 4.1 น้ำรั่วห้องของผมซึมลงไปห้องข้างล่าง ผมต้องประสานงานแก้ปัญหายังไงบ้างมาดูกัน
ตามที่เกริ่นไปบทที่แล้วผมแยกการประสานงานเป็น 3ส่วนหลักๆ
1. ประสานงานกับนิติบุคคลและช่างของนิติ
2. ประสานงานกับห้องที่อยู่ข้างล่างห้องของผม
3. ประสานงานกับช่าง(ที่ผมหามาเอง)
เรามาดูรายละเอียดทีละข้อกันเลย
1. การประสานงานกับนิติบุคคลและช่างนิติ ช่วงแรกก็ไม่ได้ราบรื่นครับ อย่างที่บอกคนที่นิติมาอยู่ชั่วคราว(ต้องเป็นจังหวะตอนผมกำลังซวยด้วยนะ55) ข้อมูลไม่ได้ถูกส่งไปต่อเนื่อง
วิธีแก้ผมคือผมต้องหาผู้จัดการที่อยู่ประจำและขอเบอร์เค้าไว้เพราะต้องการติดต่อคนเดียวจะได้ไม่ต้องมานั่งเล่าเรื่องเดิมซ้ำๆ
ในส่วนช่างของนิติก็เช่นกันผมก็ใช้วิธีเดียวกันเพื่อที่จะได้คุยแค่คนๆเดียวและต้องเอาให้มันจบ
หลังจากติดต่อช่างกับนิติได้เรียบร้อยแล้ว ทางช่างก็ได้ขึ้นไปตรวจห้องของผมซึ่งพอตรวจเสร็จ ทุกช่างมักจะพูดเหมือนกันหมดว่ามาจากรอบๆท่อ ที่sealไม่ดีทำให้ซึม ต้องไปตรวจฝ้าของห้องข้างล่างด้วย
2. จากนัั้นก็จะมาต่อเรื่องการประสานงานกับห้องข้างล่างผมต้องติดต่อผ่านนิติว่าสะดวกให้ช่างเข้าไปดูวันไหน สรุปก็คือไม่สะดวกสักที วันเวลาไม่ตรงกันสักที
ในใจตอนนั้นก็นึกว่าผมมาวิ่งเต้นแก้ไขให้เค้าให้นะ น่าจะหาเวลามาให้บ้างเพราะห้องผมไม่เดือดร้อน ณ ตอนนั้นห้องของผมก็ยังมีคนเช่าอยู่ การจะไปขอเปิดห้องน้ำเค้าบ่อยๆก็ดูจะไปรบกวนความเป็นส่วนตัวมากเกินไป ** เรื่องนี้คนให้เช่าต้องระวัง**
ที่นี้ผมเลยออกไอเดียแก้ไขเองที่ห้องของผมให้ช่างมาอุดรอบท่อตามรูปนี้ ถ้าไม่รั่วแล้วก็แปลว่ามาจากท่อนี้ แต่ถ้ายังรั่วอยู่ก็ต้องเป็นชักโครกไม่ก็ท่อน้ำทิ้งฝั่งฝักบัว
ผ่านไปสัปดาห์มาเช็คผล สรุปก็ยังรั่วซึมอยู่ครับ ที่นี้ผมเลยต้องตัดสินใจเทพื้นใหม่และปิดท่อน้ำทิ้งที่ไม่จำเป็นนี้ไปเลยจะได้ไม่มีปัญหาในอนาคต
โดยผมก็ปรึกษาช่างนิติว่าคิดค่าใช้จ่ายเทพื้นเท่าไรยังไง ช่างนิติแจ้งว่าต้องไปคุยกับส่วนกลาง😓 ฟังดูแล้วหลายขั้นตอนมากแต่ผมก็อยากให้มันจบจึงติดต่อไป
ผลที่ได้คือโค้ดราคามาแพงมากที่ 27,000บาท (ลองคิดดูนะครับห้องน้ำคอนโดสำหรับห้อง30ตรมมันเล็กๆ มันไม่ควรจะแพงขนาดนี้) ผมถามกลับว่า ''แล้วรับประกันกี่เดือน?'' เจอคำตอบมาว่า ''3 เดือน'' (ฟังงี้แล้วก็รู้สึก ''หึ"ในใจ)
โดยหลักแล้วการเทพื้นใหม่ผมว่าส่วนใหญ่ไม่ค่อยรั่วในช่วง1-2เดือนแรก น่าจะมาซึมเอาตอนหลังๆเป็นต้นไปนี่แหละ ฟังช่างนิติพูดมางี้ผมก็ say goodbye
3. ผมได้ตัดสินใจประสานงานกับช่างของผมเองทันที โดยราคาที่ช่างเสนอมาให้ผมไม่รวมค่าของอยู่ที่ 7,000บาท 7,000บาทจริงๆครับ คนละเรื่องกับที่ช่างของนิติเสนอมาโดยสิ้นเชิง ผมก็ตัดสินใจเอาในทันที
โดยจุดที่น้ำรั่วก็มาจากท่อน้ำทิ้ง2 จุด ตรงชักโครก1 จุดตามภาพ แน่นอนว่าบางจุดองศามันไม่ตรงท่อ โอกาสที่น้ำรั่วซึมก็มีแบบไม่ต้องสงสัย
ที่นี้สิ่งที่ต้องทำคืออุดตายไปเลย1จุดในส่วนที่ไม่ได้ใช้และ อีก2จุดก็หาท่อมาครอบให้ดีและเทปูนรอบๆให้แน่นตามภาพ
จากนั้นค่อยใส่ตัวกรองตามนี้ครับ
แล้วก็เทพื้นกระเบื้องใหม่และปรับระดับให้น้ำมันไหลลงท่อตามภาพนี้
เบ็ดเสร็จผมว่าจ่ายไม่เกิน 10,000บาทครับ แต่ของผมมีกระเบื้องกับยาแนวเหลือจากการสร้างบ้านอยู่แล้วก็เลยจ่ายที่ 7,000บาท net
จากนั้นก็ลองใช้แล้วทิ้งไว้ 2-3 อาทิตย์ ตามกับนิติอีกที สรุปก็ไม่มีรั่วซึมแล้ว หลังจากรู้ผลแล้วโล่งอกมากๆๆ
ข้อคิดสำหรับผมต่อเหตุการณ์นี้💡💡
- จำเป็นที่ต้องมีช่างประจำตัวไว้บ้างสำหรับคนที่อาศัยอยู่คอนโดหรือทำคอนโดปล่อยเช่า
- ช่างของคอนโดไม่ได้เก่งทุกคน คุณต้องประเมินด้วยตัวเอง รวมถึงราคาว่าเหมาะสมมั้ย
- การประสานงานเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เวลาเจอปัญหา
- โชคดีที่เป็น case 👉4.1 ถ้าเป็น case 👉4.2 ต้องถามว่าเราจะเจอคนห้องข้างบนเรามาซ่อมให้เรามั้ย
- ถ้าใครมีคนเช่าอยู่ในห้องจำเป็นที่ต้องเกรงใจเค้าให้มากๆ ไปรบกวนมากๆเค้าอาจจะพาลไม่เช่าห้องคุณต่อ
ไงก็ขอบคุณที่ติดตามอ่านกันมานะครับ🙏🙏
สำหรับคนที่ถามว่าคอนโดผมอยู่ที่ไหน ต้องขอโทษและขออนุญาตที่จะไม่บอกดีกว่านะครับ🙏🙏
ด้วยเหตุผลคือไม่อยากจะชี้นำคอนโด เพราะถ้าคุณซื้อแต่เหตุการณ์ไม่เป็นดั่งใจเหมือนผมจะเกิดปัญหากันได้ นอกจากนี้ทั้งทำเลความคุ้นชินของแต่ละคนก็มีมุมมองที่แตกต่างกันออกไป การเลือกและประเมินด้วยตัวเองผมว่าดีกว่าและมั่นใจกว่าเยอะครับ
โฆษณา