31 พ.ค. 2021 เวลา 05:38 • เกม
เนื้อเรื่อง Warhammer Fantasy ตามไทม์ไลน์
2
[ผู้ใดอยากสนับสนุนผม สามารถ Donate ได้ผ่านทางเว็บ https://www.patreon.com/pandawarzone หรือกดติดตามในเว็บ Blockdit นี้นะครับ]
1
เซตติ้งแผนที่ของเกมแต่ละภาค
***ศักราชในโลก Warhammer Fantasy จะใช้เป็น IC (Imperial Calendar) โดยจะเริ่มต้นนับในปีที่ Sigmar ขึ้นรับตำแหน่งจักรพรรดิของ Empire***
***จะพยายามเน้นแค่เส้นเรื่องหลักกับตัวละครสำคัญที่มีในเกมเท่านั้น***
Old One ผู้สร้างสูงสุดแห่งโลก Warhammer
ราว 15,000 ปีก่อนศักราช IC
o เผ่า Old One ได้มาเยือนยังโลก พวกเขาเป็นเผ่าพันธุ์โบราณที่มีสติปัญญาสูงและพลังอำนาจมหาศาล พวกเขาได้ทำการสร้างเผ่า Slann ขึ้นมาเป็นผู้ปกครองดินแดน สร้างเผ่า Saurus ขึ้นมาเป็นกำลังทหาร สร้างเผ่า Skink และ Kroxigor ขึ้นมาเป็นแรงงาน กำเนิดเป็นเผ่า Lizardmen ขึ้นมา
Lizardmen เผ่าพันธุ์ผู้สืบทอดเจตนารมย์ของ Old One
ราว 10,000 ปีก่อนศักราช IC
o เผ่า Lizardmen ขยายดินแดนออกไปกว้างใหญ่ไพศาลครอบคลุมหลายทวีปทั่วโลก ระหว่างนั้น Old One ก็ได้สร้างเผ่าพันธุ์ใหม่ขึ้นมาอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์ เอลฟ์ คนแคระและ Ogre รวมถึงไล่ทำลายเผ่าพันธุ์ที่ไม่พึงประสงค์ด้วย
1
o ค้นพบเผ่า Greenskins ที่ประกอบด้วยพวกออคและก๊อบลิน ซึ่งคาดว่าน่าจะเกิดจากเชื้อราของอุกกาบาตที่ตกลงมายังโลก Old One ได้สั่งให้กองทัพ Lizardmen ฆ่าล้างบาง Greenskins ให้หมด แต่ก็ทำไม่สำเร็จเพราะพวกมันแพร่พันธุ์เร็วมากจนฆ่าเท่าไหร่ก็ไม่หมดซักที
o Old One ได้จากโลกนี้ไป แต่ยังคงติดต่อกับเหล่า Slann ทางโทรจิต เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้และแผนการสร้างโลกที่เหลือให้ พวก Lizardmen ได้เรียกแผนการเหล่านั้นว่า The Great Plan
Daemon of Chaos เหล่าปีศาจต่างมิติที่ต้องการทำลายโลก
ราว 5,600 ปีก่อนศักราช IC
o ประตูข้ามมิติของ Old One ที่ขั้วโลกพังถล่มลงมา ทำให้การติดต่อกับ Old One ถูกตัดขาด รวมถึงมีกองทัพปีศาจ Chaos จำนวนนับไม่ถ้วนทะลักเข้าสู่โลก พวกมันไล่สังหารทุกเผ่าพันธุ์และถล่มทุกอย่างที่ขวางหน้า เหล่า Lizardmen ได้ระดมกองทัพครั้งใหญ่ที่สุดเข้าต่อกรจนต้องสังเวยชีวิตไปนับล้าน วิหารแต่ละแห่งถูกเหล่าปีศาจตีแตกไปเรื่อยๆ นอกจาก Lizardmen แล้วเผ่าพันธุ์อื่นๆที่ถูกสร้างโดย Old One ก็เข้าต่อสู้กับกองทัพปีศาจเช่นกัน แต่ต่อหน้าศัตรูที่ฆ่าเท่าไหร่ก็ไม่หมดสิ้น พวกเขาได้แต่นับถอยหลังรอวันพ่ายแพ้
o สิ่งมีชีวิตมากมายทั่วโลกเริ่มกลายพันธุ์เพราะผลของ Chaos Corruption รวมถึงการกำเนิดของเผ่า Beastmen มนุษย์กลายพันธุ์ที่เป็นครึ่งคนครึ่งสัตว์ด้วย มนุษย์แดนเหนือจำนวนนึงก็หันมานับถือเทพ Chaos กลายมาเป็น Warriors of Chaos กลุ่มแรกของโลก
o High Elves และ Lizardmen ได้ร่วมมือกันสร้างแนวป้องกันขึ้นเพื่อช่วยชะลอการบุกของกองทัพปีศาจลง เป็นการซื้อเวลาชั่วคราว
5
ราว 5,000 ปีก่อนศักราช IC
o เผ่า Lizardmen ทิ้งเมืองที่มีอยู่ทั่วโลกและถอยร่นกลับไปยังทวีป Lustria แผ่นดินแม่ของพวกมัน พร้อมทั้งสร้างอาณาเขตเวทมนตร์ขนาดยักษ์เพื่อแปลงให้ทั้งทวีป Lustria กลายเป็นกับดักทางธรรมชาติสำหรับจัดการผู้บุกรุก
o เผ่าคนแคระได้เข้ามาตั้งรกรากในเทือกเขา World's Edge Mountains พร้อมทั้งสร้างปราการขึ้นมาหลายแห่งตลอดแนวเทือกเขา รวมถึงขยายดินแดนออกไปยังเทือกเขาต่างๆในหลายทวีป
Aenarion และมังกรคู่ใจ Indraugnir
ราว 4,500 ปีก่อนศักราช IC
o กองทัพปีศาจ Chaos บุกโจมตีโลกเต็มสูบอีกครั้ง รอบนี้รุนแรงกว่าครั้งก่อนมาก
o กองทัพ High Elves แห่งเกาะ Ulthuan กำลังถูกไล่ต้อนจนแทบจนมุม นักเดินทางเอลฟ์นาม Aenarion ได้ยอมสังเวยตัวเองเดินลุยเปลวไฟของเทพ Asuryan เพื่อหวังให้เทพช่วยเหลือ สุดท้ายเทพ Asuryan ก็ตอบรับ บาดแผลทั่วร่างของ Aenarion ได้รับการฟื้นฟูพร้อมได้รับพรจากเทพจนมีพลังมหาศาลยิ่งกว่าเอลฟ์ตนใด เขาได้กลายมาเป็นราชา Phoenix King คนแรกของเหล่า High Elves และโต้กลับกองทัพปีศาจ Chaos ไปได้
4
o Aenarion ได้แต่งงานกับ Astarielle ราชินี Everqueen คนแรกของเหล่า High Elves เช่นกัน ทั้งคู่มีลูกด้วยกัน 2 คน แต่ทั้ง 3 ก็ถูกฆ่าตายโดยเหล่าปีศาจหลังจากนั้นไม่นาน สร้างความแค้นให้กับ Aenarion เป็นอย่างมาก จนเขาตัดสินใจไปดึงดาบในตำนาน Sword of Khaine อาวุธที่ทรงพลังที่สุดในโลกมาใช้ ด้วยคำสาปที่อยู่ในดาบทำให้สายเลือดของเขาถูกสาปและนิสัยใจคอของเขาก็โหดเหี้ยมอำมหิตขึ้นเรื่อยๆ
o Aenarion ได้แต่งงานครั้งที่สองกับ Morathi เอลฟ์หญิงที่เขาช่วยเอาไว้จากกองทัพปีศาจ ทั้งคู่ให้กำเนิดลูกชายคนนึงชื่อ Malekith
ความพินาศของมหานคร Itza
ราว 4,450 ปีก่อนศักราช IC
o หลังจากถูกพวกปีศาจล้อมเมืองมากว่า 400 ปี มหานคร Itza เมืองใหญ่ที่สุดของ Lizardmen บนทวีป Lustria ก็ถูกตีแตกลง Lord Kroak ซึ่งเป็น Slann ตัวแรกสุดของโลกได้ถูกฆ่าตายโดยปีศาจชั้นสูง Greater Daemon ถึง 12 ตน แต่ร่างวิญญานของมันได้ร่ายเวทบทสุดท้ายเพื่อล้างบางปีศาจในเมืองทั้งหมดได้สำเร็จ
7
o นคร Xhotl ของ Lizardmen ถูกกองทัพปีศาจเข้าโจมตีเช่นกัน หลังจากการต่อสู้อย่างยาวนานทำให้เมืองถูกทำลายจนราบคาบ มีนักรบ Saurus รอดชีวิตมาในสภาพปางตายเพียงตัวเดียวคือ Kroq-Gar ทำให้เขาถูกขนานนามว่า The Last Defender
2
o Grimnir นักรบชาวคนแคระได้พบกับ Caledor นักเวทชาว High Elves ถือเป็นการพบกันครั้งแรกของเอลฟ์และคนแคระ ทั้งคู่ได้แลกเปลี่ยนข้อมูลกัน ทำให้ Caledor ได้รู้ว่าเหล่าปีศาจ Chaos ออกมายังโลกได้ผ่านทางกระแสพลังเวทที่เรียกว่า Winds of Magic
1
Caledor สร้างมหาเวท Vortex ได้สำเร็จ
ราว 4,420 ปีก่อนศักราช IC
o Caledor วางแผนจะสร้างมหาเวท Vortex ขึ้นมาเพื่อควบคุมกระแสพลังเวท Winds of Magic ทั่วโลก เป็นการยับยั้งไม่ให้พวกปีศาจปรากฏตัวออกมาได้อีก เขาและนักเวทชั้นสูงจำนวนนึงได้วางข่ายเวทไว้ทั่วเกาะ Ulthuan และสร้างมหาเวท Vortex ขึ้นมาได้สำเร็จในใจกลางของเกาะ Ulthuan แต่พวกเขาทั้งหมดต้องติดอยู่ในวังวนมหาเวทไปตลอดกาล
o Aenarion ต้องสู้เพื่อถ่วงเวลาให้ Caledor เป็นระยะเวลาหนึ่งปีเต็ม พวกปีศาจที่รู้ถึงแผนการได้บุกเข้ามาโจมตีเกาะ Ulthuan อย่างต่อเนื่อง สุดท้าย Aenarion ต้องประมือกับปีศาจชั้นสูง Greater Daemon ถึง 4 ตนพร้อมกัน เขาเอาชนะมาได้แต่ก็บาดเจ็บปางตาย เมื่อเห็นว่า Caledor ทำสำเร็จแล้วเขาก็ใช้แรงเฮือกสุดท้ายนำดาบ Sword of Khaine กลับไปคืนยังแท่นของมัน ก่อนจะสิ้นใจลง
5
o ถึงแม้มหาเวท Vortex จะยับยั้งการบุกของปีศาจ Chaos ทั่วโลกได้สำเร็จ แต่ต้นตออย่างประตูมิติขั้วโลกยังคงอยู่ ทำให้ดินแดนทางเหนือไม่ปลอดภัยซะทีเดียว Grimnir ตัดสินใจจะกำจัดต้นตอปัญหาโดยการปิดประตูมิติลงซะ เขาเตรียมตัวเดินทางไปยังขั้วโลกเหนือ ท่ามกลางเสียงคัดค้านของ Grungni และ Valaya พี่ชายและภรรยาของเขา แต่ Grimnir ก็ยังมุ่งมั่นที่จะไป ก่อนที่เขาจะหายสาบสูญไปตลอดกาล
1
สงครามกลางเมืองระหว่าง High Elves และ Dark Elves
ราว 4,000 ปีก่อนศักราช IC
o High Elves ได้เริ่มให้ความสำคัญกับการเดินเรือและตั้งโคโลนี่ขึ้นมาตามที่สถานที่ต่างๆทั่วโลก
o เหล่าคนแคระที่อยู่ใน Dark Lands บางส่วนได้กลายพันธุ์เพราะผลของ Chaos Corruption พวกมันได้หันไปนับถือเทพ Hashut และกลายมาเป็นเผ่า Chaos Dwarf ในที่สุด
ราว 2,700 ปีก่อนศักราช IC
o Malekith ได้เดินทางกลับมายังเกาะ Ulthuan และฆ่า Phoenix King องค์ปัจจุบัน เขาต้องการตำแหน่ง Phoenix King เพื่อตามรอยพ่อของเขา แต่เมื่อเขาเข้าพิธีเดินลุยเปลวไฟของเทพ Asuryan ก็ถูกไฟเผาจนไหม้เกรียมไปทั่วร่าง ด้วยอาการบาดเจ็บสาหัส Malekith จึงหนีไปกบดานอยู่ที่แคว้น Nagarythe และขนานนามตัวเองว่า Witch King เป็นจุดเริ่มต้นของเผ่า Dark Elves และสงครามกลางเมืองบนเกาะ Ulthuan
3
o สงครามกลางเมืองบนเกาะ Ulthuan ดำเนินมาหลายสิบปี จนในที่สุด Malekith ก็เป็นฝ่ายเสียเปรียบอย่างหนัก เขาจึงวางแผนที่จะดึงเอาพลังของมหาเวท Vortex มาเป็นของตัวเอง แต่แผนการผิดพลาดทำให้แคว้น Nagarythe และดินแดนทางตอนเหนือของเกาะ Ulthuan ต้องจมลงสู่ก้นมหาสมุทร Malekith จึงได้นำกำลังคนทั้งหมดอพยพหนีข้ามทะเลไปตั้งรกรากอยู่ที่ทวีป Naggarond แทน เหตุการณ์ในครั้งนี้ได้ถูกเรียกว่า The Sundering
1
o จักรพรรดิมังกรแห่งอาณาจักร Cathay ได้เสกอุกกาบาตยักษ์มาตกใส่ทุ่งหญ้าของพวก Ogre เป็นการล้างแค้นที่ Ogre ชอบรุกล้ำดินแดนอยู่บ่อยๆ อุกกาบาตทำให้ดินแดนของพวก Ogre ไม่สามารถอยู่อาศัยได้อีกต่อไป พวกมันจึงอพยพไปทางตะวันตก ภายหลังได้ตั้งรกรากใหม่ในเทือกเขา Mountains of Morn
o Chaos Dwarf สร้างเมืองหลวง Zharr-Naggrund ในทวีป Dark Lands และเริ่มจับพวก Greenskins มาใช้เป็นทาสแรงงาน
กองทัพอาณาจักร Nehekhara ของเหล่ามนุษย์ทางใต้
ราว 2,500 ปีก่อนศักราช IC
o กษัตริย์มนุษย์นามว่า Settra ได้ก่อตั้งอาณาจักร Nehekhara ขึ้นมาในทวีป Southlands ทางตอนใต้ Nehekhara ได้กลายเป็นมหาอำนาจในยุคนั้นและมีอาณาเขตกว้างใหญ่ไพศาลมาก แต่เมื่อ Settra แก่ตัวลงเขากลับหวาดกลัวความตาย เขาจึงได้สร้างลัทธิความตาย Mortuary Cult ขึ้นมาและให้เหล่านักบวชค้นคว้าหาวิธีทำให้เป็นอมตะ
o Settra เสียชีวิตลง เหล่านักบวชได้ทำศพของเขาเป็นมัมมี่และฝังไว้ใต้พีระมิด รอวันที่จะปลุกชีพกลับมาปกครอง Nehekhara อีกครั้งนึง พร้อมทั้งมีการฝังร่างทหารองครักษ์และทรัพย์สมบัติลงไปในพีระมิดด้วย กษัตริย์รัชกาลต่อมาทุกพระองค์เมื่อตายลงก็จะถูกทำแบบเดียวกัน ทำให้อาณาจักร Nehekhara เต็มไปด้วยพีระมิดจำนวนมาก
War of the Beard มหาสงครามระหว่างเอลฟ์และคนแคระ
ราว 2,000 ปีก่อนศักราช IC
o Nagash เกิดขึ้นมาในอาณาจักร Nehekhara
o หน่วยสอดแนม Dark Elves ได้ปลอมตัวเป็น High Elves เข้ามาก่อความวุ่นวายในทวีป Old World พวกเขาได้ลอบโจมตีกองคาราวานของพวกคนแคระ สร้างความโกรธแค้นแก่พวกคนแคระเป็นอย่างมาก High King องค์ปัจจุบันของคนแคระนามว่า Gotrek Starbreaker จึงได้ตั้งคณะทูตเดินทางไปขอความเป็นธรรมจาก Phoenix King องค์ปัจจุบันนามว่า Caledor ที่ 2 แต่นอกจากพวก High Elves จะไม่แยแสปัญหาดังกล่าวแล้ว พวกเขายังได้ตัดหนวดของคณะทูตทั้งหมดทิ้งเพราะความโกรธที่ถูกกล่าวหาด้วย สำหรับคนแคระแล้วนี่คือการหยามหน้าอย่างที่สุด มหาสงครามระหว่างเอลฟ์และคนแคระจึงได้ปะทุขึ้น โดยพวกคนแคระเรียกสงครามครั้งนี้ว่า War of Vengeance หรือสงครามล้างแค้น ส่วนพวก High Elves เรียกสงครามครั้งนี้ว่า War of the Beard หรือสงครามตัดหนวด
1
o Nagash ได้พบกับกลุ่ม Dark Elves พลัดถิ่นที่มาจอดเทียบท่าที่เมือง Khemri เขาได้ศึกษาศาสตร์เวทมืด Dark Magic ทั้งหมดจากพวก Dark Elves เมื่อเขาแข็งแกร่งถึงขีดสุดแล้วก็ทำการฆ่าหัวหน้านักบวชของ Khemri แล้วยึดอำนาจมาเป็นของตัวเอง จากนั้นเขาก็เริ่มสร้างน้ำยาแห่งชีวิต Elixir of Life จากเลือดของมนุษย์ ทำให้เขาคงความเยาว์วัยไว้ได้ตลอดกาล ทั้งยังเกณฑ์คนมาสร้าง Black Pyramid สิ่งก่อสร้างที่ขนาดใหญ่ที่สุดของมนุษยชาติด้วย
6
Skaven มนุษย์หนูกลายพันธุ์เพราะผลของ Warpstones
ราว 1,800 ปีก่อนศักราช IC
o จักรพรรดิมังกรของ Cathay ได้สั่งสร้างกำแพงเมืองจีน Great Bastion ขึ้นทางเหนือของอาณาจักรเพื่อหยุดยั้งการบุกของกองทัพ Chaos โดยใช้เวลาสร้างเกือบ 100 ปี
o มีอุกกาบาตจำนวนมากตกลงมาจากพระจันทร์ Morrslieb ในนั้นมีหินพิเศษชื่อ Warpstone อยู่ด้วย หินเหล่านี้มีพลังพิเศษทำให้สิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ หลังจากนั้นไม่นานก็มีรายงานการพบเห็นสิ่งมีชีวิตประหลาดคล้ายหนูเดินสองขา เป็นต้นกำเนิดของเผ่า Skaven
1
o กษัตริย์ Nehekhara หลายพระองค์ได้ตั้งพันธมิตรเพื่อต่อต้าน Nagash หลังจากทำสงครามกันนานนับศตวรรษ Nagash ก็เป็นฝ่ายพ่ายแพ้และต้องหนีระหกระเหินขึ้นไปทางเหนือ ก่อนจะลงหลักปักฐานอยู่ที่ Nagashizzar
ราว 1,600 ปีก่อนศักราช IC
o Skaven ได้สร้างเมือง Skavenblight ขึ้นมาเป็นฐานบัญชาการใหญ่ พร้อมทั้งเริ่มขุดอุโมงค์ใต้ดินเพื่อขยายดินแดนอย่างรวดเร็ว กลายมาเป็น Under-Empire หรือจักรวรรดิใต้พิภพ จำนวนของพวกมันก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมาก
o สงคราม War of the Beard สิ้นสุดลง Gotrek Starbreaker สามารถตัดคอของ Caledor ที่ 2 ลงได้สำเร็จและยึดมงกุฏของ Phoenix King เป็นสินสงคราม หลังจากนั้นพระองค์ก็สั่งถอนกำลังและไม่ประสงค์จะทำสงครามต่ออีก War of the Beard กินเวลาทั้งสิ้นกว่า 400 ปี มีเอลฟ์และคนแคระเสียชีวิตนับไม่ถ้วน ทั้ง High Elves และคนแคระต่างอ่อนแอลงมากเพราะผลของสงครามครั้งนี้
o เหล่า Dark Elves อาศัยจังหวะที่ High Elves อ่อนแอลง เริ่มยกพลกลับมาโจมตีเกาะ Ulthuan อีกครั้ง เมือง Anlec ของพวก Dark Elves ถูกสร้างขึ้นในแคว้น Nagarythe เพื่อเป็นฐานทัพใหญ่ไว้โจมตีเกาะ
Goblin Wars พวกออคและก๊อบลินโจมตีปราการคนแคระ
ราว 1,500 ปีก่อนศักราช IC
o Neferata เจ้าหญิงแห่งแคว้น Lahmia ของ Nehekhara ได้ทดลองสร้าง Elixir of Life เลียนแบบของที่ Nagash เคยสร้างไว้ แต่สูตรของ Neferata มีผลข้างเคียงคือจะกระหายเลือดมนุษย์อย่างรุนแรง ทำให้เธอกลายเป็นแวมไพร์ตนแรกของโลก เธอยังได้มอบ Elixir of Life ให้กับข้ารับใช้อีก 4 คน ได้แก่ W’soran Ushoran Abhorash และ Vashanesh ทำให้พวกเขาเป็นต้นกำเนิดสายเลือดแวมไพร์ทั้ง 5 สาย
10
o Khalida ถูกฆ่าตายโดย Neferata ลูกพี่ลูกน้องของเธอเพราะไปล่วงรู้ความลับเรื่อง Elixir of Life เข้า
o Phoenix King องค์ใหม่มีคำสั่งให้ High Elves ที่อยู่ตามโคโลนี่ต่างๆถอนกำลังกลับมายังเกาะ Ulthuan ให้หมด แต่กลุ่ม High Elves ที่อาศัยอยู่ในป่า Athel Loren ไม่ยอมทำตาม พวกเขาได้ประกาศอิสรภาพและอาศัยอยู่กับธรรมชาติ กลายมาเป็นเผ่า Wood Elves
1
o เกิดแผ่นดินใหญ่ครั้งใหญ่ใน Old World เกิดจากการที่พวก Slann ใช้พลังจิตขยับเปลือกโลก ส่งผลให้ปราการคนแคระเสียหายอย่างหนัก เหล่า Greenskins อาศัยจังหวะนี้เข้าจู่โจมปราการคนแคระที่มีช่องโหว่ทุกแห่งทันที พวกคนแคระพยายามต่อสู้อย่างเต็มที่ แต่เพราะความบอบช้ำจากสงครามตัดหนวดและจำนวนที่น้อยกว่าทำให้ตกอยู่ในสถานะเสียเปรียบอย่างหนัก สงครามนี้ดำเนินไปกว่า 500 ปี คนแคระเสียปราการกว่าครึ่งให้แก่ Skaven และ Greenskins ภายหลังสงครามครั้งนี้ถูกเรียกว่า Goblin Wars
o Skaven ได้ก่อตั้ง Council of Thirteen หรือสภาสิบสามขึ้นมาเพื่อปกครอง Under-Empire โดยมีสมาชิกทั้งหมด 12 คนเป็นตัวแทนจากแคลนต่างๆ ส่วนตำแหน่งที่ 13 ถูกเว้นว่างเอาไว้เป็นของ Horned Rat เทพเจ้าที่พวกมันนับถือ
o Clan Pestilens หนึ่งในสี่แคลนใหญ่ของ Skaven ได้บุกเข้าสู่ Lustria และลงหลักปักฐานใน Quetza ซากเมืองของ Lizardmen จากนั้นก็ได้แพร่โรคระบาดไปทั่วทุกสารทิศ ทำให้เกิดเป็นสงครามระหว่าง Skaven และ Lizardmen ที่กินเวลาหลายศตวรรษ
Nagash เจ้าแห่งศาสตร์มืด
ราว 1,200 ปีก่อนศักราช IC
o Alcadizaar ขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์องค์ใหม่ของ Nehekhara เขาได้รวบรวมดินแดน Nehekhara ที่แตกกระจัดกระจายให้กลับเป็นปึกแผ่นอีกครั้ง พร้อมทั้งไล่กำจัดเหล่าสาวกของ Nagash ที่ยังหลงเหลืออยู่ในอาณาจักร Neferata และพลพรรคแวมไพร์จึงต้องหนีตายขึ้นเหนือไปหา Nagash ที่ Nagashizzar
o Nagash ได้หลอกให้พวกแวมไพร์สวมแหวนเวทมนตร์ที่มีทำให้ผู้สวมฟื้นคืนชีพจากความตายได้เรื่อยๆ แต่แหวนนั้นทำให้พวกแวมไพร์กลายเป็นทาสของ Nagash ด้วย จากนั้นเขาก็ประกาศศึกกับ Nehekhara อีกครั้ง แต่ภายใต้การนำของกษัตริย์ Alcadizaar ทำให้กองทัพของ Nagash พ่ายแพ้ยับเยิน แต่ Nagash ก็แก้เกมด้วยการแพร่โรคระบาดไปทั่วอาณาจักร Nehekhara เหล่ามนุษย์ที่ตายเพราะโรคระบาดก็ฟื้นกลับมาเป็นผีดิบใต้อาณัติของ Nagash สุดท้ายอาณาจักร Nehekhara ก็จบสิ้นลงหลังจากดำรงอยู่มาพันกว่าปี
o Nagash พลาดท่าถูก Alcadizaar ที่จับมาขังไว้ฆ่าตาย ทำให้คำสาปในแหวนคลายออก พวกแวมไพร์จึงได้โอกาสหนีออกมาและกระจายกันไปคนละทิศคนละทาง
o ตอนที่ Nagash ถูกฆ่าตาย พลังเวทของมันก็ทะลักออกไปทั่วทุกสารทิศ ทำให้เหล่ากษัตริย์ของ Nehekhara ที่ถูกฝังไว้ใต้พีระมิดฟื้นคืนชีพขึ้นมาในร่างของผีดิบ เหล่ากษัตริย์ทั้งหลายต่างทำสงครามห้ำหั่นกันเพื่อแย่งชิงความเป็นใหญ่ สงครามครั้งนี้ถูกเรียกว่า The War of the Kings หรือสงครามราชา ก่อนที่สงครามจะจบลงเพราะ Settra ได้ปราบกษัตริย์ทั้งหมดให้ยอมศิโรราบแก่มัน และกลายมาเป็นเผ่า Tomb Kings ในที่สุด
Orion ราชากึ่งเทพของเหล่า Wood Elves
ราว 1,125 ปีก่อนศักราช IC
o Orion และ Ariel ได้กลายมาเป็นราชาและราชินีแห่ง Wood Elves ทั้งคู่ยังกลายเป็นร่างอวตารของเทพ Kurnous กับ Isha ด้วย โดย Orion จะตายลงทุกฤดูหนาวและต้องสังเวยเอลฟ์เพศชาย 1 คนตอนฤดูใบไม้ผลิเพื่อคืนชีพใหม่
2
ราว 1,000 ปีก่อนศักราช IC
o มนุษย์ชนเผ่า Bretonni ได้อพยพข้ามเทือกเขา Grey Mountains ไปยังดินแดนทางภาคตะวันตกของ Old World
ราว 810 ปีก่อนศักราช IC
o Morghur the Shadowgrave อสูรกลายพันธุ์ที่มีรูปร่างเหมือน Beastmen และเป็นอมตะ ได้ถูกสังหารลงเป็นครั้งแรกโดย Ariel
ราว 700 ปีก่อนศักราช IC
o ที่ Karak Eight Peaks ปราการที่ใหญ่เป็นอันดับสองของคนแคระ มีคนงานขุดเหมืองได้ขุดไปเจออุโมงค์ของพวก Skaven ทำให้พวก Skaven อาศัยช่องทางนั้นเข้าโจมตี กลายเป็นสงครามครั้งใหญ่ที่เรียกว่า Battle for Karak Eight Peaks
ราว 500 ปีก่อนศักราช IC
o Karak Eight Peaks ถูกตีแตกโดยพวก Greenskins และ Skaven กษัตริย์คนแคระ Lunn ที่ปกครอง Karak Eight Peaks อยู่ได้ออกคำสั่งให้ปิดผนึกห้องสมบัติทุกแห่ง แล้วอพยพหนีตายไปยัง Karaz-a-Karak ปราการใหญ่อันดับหนึ่งของคนแคระ รอวันที่จะกลับมาทวงบ้านเกิดคืนอีกครั้ง
o มนุษย์ชนเผ่าต่างๆเริ่มอพยพเข้ามาตั้งรกรากใน Old World มากขึ้น
ราว 400 ปีก่อนศักราช IC
o คนแคระค้นพบดินปืนเป็นครั้งแรกของโลก
Black Orc ออคสายพันธุ์ใหม่ที่ถูกสร้างโดย Chaos Dwarf
ราว 100 ปีก่อนศักราช IC
o Chaos Dwarf ได้สร้างออคสายพันธุ์ใหม่ขึ้นมา พวกมันมีผิวสีเข้มขึ้น ขนาดตัวที่ใหญ่กว่าเดิมและอุปนิสัยที่ไม่เกรงกลัวผู้ใด เกิดเป็นเผ่าที่เรียกว่า Black Orc
o Black Orc ได้ปลุกระดมทาสชาว Greenskins ให้ลุกขึ้นต่อต้าน Chaos Dwarf ทำให้เกิดสงครามปลดแอกขึ้นที่เมืองหลวง Zharr-Naggrund สุดท้ายถึงแม้ Chaos Dwarf จะควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ แต่ก็มี Black Orc จำนวนนึงหลบหนีออกไปทาง World's Edge Mountains และ Mountains of Morn
40 ปีก่อนศักราช IC
o Nagash คืนชีพขึ้นมาอีกครั้งและพยายามใช้กำลังบังคับให้ Tomb Kings มาอยู่ใต้อาณัติ แต่ว่าสุดท้ายเขาก็ถูก Settra นำทัพเข้าต่อต้านและถูกขับไล่ให้กลับไปที่ Nagashizzar
30 ปีก่อนศักราช IC
o Sigmar เกิดขึ้นมาในชนเผ่ามนุษย์ Unberogen ในคืนที่ดาวหางสองแฉกวิ่งผ่านท้องฟ้า
15 ปีก่อนศักราช IC
o Sigmar ได้ช่วยเหลือ Kurgan Ironbeard ซึ่งเป็น High King องค์ปัจจุบันของคนแคระเอาไว้จากพวกออค ทำให้ทั้งสองกลายเป็นเพื่อนรักกัน Kurgan Ironbeard ได้มอบค้อนศึก Ghal Maraz เป็นของขวัญให้แก่เขาด้วย
Sigmar จักรพรรดิองค์แรกของ Empire
8 ปีก่อนศักราช IC
o พ่อของ Sigmar เสียชีวิตลง Sigmar ได้ขึ้นเป็นผู้นำชนเผ่า Unberogen แทน จากนั้นเขาก็รวบรวมชนเผ่ามนุษย์ในตอนกลางของ Old World และก่อตั้งจักรวรรดิ Empire ขึ้นมา
1 ปีก่อนศักราช IC
o Sigmar และ Kurgan Ironbeard ได้ร่วมกันจัดตั้งกองทัพพันธมิตรมนุษย์-คนแคระ เพื่อต่อสู้กับกองทัพ Greenskins จำนวนมหาศาลที่หวังจะยกทัพเข้าสู่ Empire ผ่านช่องเขา Black Fire Pass เกิดเป็นสงครามครั้งใหญ่ Sigmar ควงค้อนศึก Ghal Maraz ฆ่าออคไปนับหมื่นตัวรวมถึงแม่ทัพ Orc Warboss ด้วย สุดท้ายกองทัพพันธมิตรมนุษย์-คนแคระเป็นฝ่ายได้รับชัยชนะ Sigmar ได้กลายเป็นมหาวีรบุรุษที่ทั้งมนุษย์และคนแคระให้ความนับถือดุจดั่งเทพเจ้า
Sigmar ปะทะ Nagash สองผู้ยิ่งใหญ่แห่งโลก Warhammer
ศักราช IC ที่ 1
2
o Sigmar เข้าพิธีสถาปนากษัตริย์และกลายเป็นจักรพรรดิองค์แรกของ Empire อย่างเป็นทางการ พร้อมได้มอบยศ Counts ให้หัวหน้าเผ่าทั้ง 12 คน
5
o กำเนิดลัทธิ Cult of Sotek ขึ้นมาในทวีป Lustria โดยมีผู้นำลัทธิคือ Tehenhauin มี Skink จำนวนมากเข้าร่วมลัทธิและหันมานับถือเทพอสรพิษ Sotek แทนที่ Old One จากนั้นพวกมันก็ผนึกกำลังกันโต้กลับ Clan Pestilens จนต้องล่องเรือหนีออกจาก Lustria ไปในที่สุด
o สองฝาแฝด Lucan และ Luccina ได้สร้างเมือง Luccini ขึ้นมาจากซากโคโลนี่ของ High Elves ในภายหลัง Luccini ได้กลายเป็นเมืองใหญ่ที่สุดของนครรัฐ Tilea และเป็นแหล่งการค้าที่สำคัญของ Old World
ศักราช IC ที่ 15
o Nagash ยกกองทัพ Undead เข้าโจมตี Empire เพื่อแย่งชิงมงกุฏ Crown of Sorcery สมบัติของตนคืน แต่กองทัพของมันต้องพ่ายแพ้อย่างหมดรูปต่อหน้ากองทัพของ Sigmar ทำให้ Nagash ต้องตายลงอีกรอบนึง
ศักราช IC ที่ 50
o Sigmar ในวัยชราได้สละราชสมบัติและเดินทางไปทางทิศตะวันออกก่อนจะหายตัวไปตลอดกาล เนื่องจาก Sigmar ไม่มีลูกหลานไว้สืบทอดบัลลังค์เลย ทำให้เหล่าขุนนางตัดสินใจเลือกจักรพรรดิองค์ใหม่โดยการโหวตเลือกจาก Counts ทั้ง 12 คน ทำให้เกิดระบบ Elector Counts ขึ้นมา ต่อให้เป็นทายาทจักรพรรดิองค์ก่อนก็อาจจะไม่ได้เป็นจักรพรรดิคนต่อไปก็ได้ถ้าผลโหวตแพ้
Clan Pestilens หนึ่งในสี่แคลนใหญ่ของ Skaven ที่ใช้โรคร้ายเป็นอาวุธ
ศักราช IC ที่ 100
o Clan Pestilens ได้ล่องเรือกลับมาถึง Old World และเรียกร้องสิทธิพิเศษต่างๆจาก Council of Thirteen ซึ่งก็แน่นอนว่าโดนตอบปฏิเสธกลับมา ทำให้ Clan Pestilens ประกาศสงครามกับแคลนอื่นๆใน Council of Thirteen เกิดเป็น First Skaven Civil War หรือสงครามกลางเมืองครั้งที่ 1 ของเหล่า Skaven ที่กินเวลายาวนานหลายร้อยปี ระหว่างนั้นก็มีแคลนต่างๆหักหลังย้ายข้างกันอยู่บ่อยครั้ง จนสถานการณ์สับสนวุ่นวายมาก
ศักราช IC ที่ 250
o Abhorash หนึ่งใน 5 แวมไพร์รุ่นแรกสุดได้ฆ่ามังกรที่อาศัยอยู่ในเทือกเขา World’s Edge Mountains ลงได้ เขาได้ดื่มเลือดของมังกรตัวนั้น ซึ่งทำให้ความกระหายเลือดในตัวเขาหายไปจนหมดสิ้น กำเนิดเป็นแวมไพร์สายพันธุ์ Blood Dragons ที่ไม่มีความกระหายเลือดเหมือนแวมไพร์สายพันธุ์อื่นๆ
ศักราช IC ที่ 480
o Morghur the Shadowgrave ถูกฆ่ารอบที่สองโดย Orion
Green Knight อัศวินลึกลับปรากฏตัวออกมาช่วยกองทัพ Bretonnia
ศักราช IC ที่ 600
2
o ชนเผ่า Bretonni ได้ถูกรุกรานโดยพวก Greenskins จากเทือกเขา Grey Mountains ทำให้ต้องทำสงครามกับพวก Greenskins ไปอีกหลายร้อยปี
o สิ้นสุดสงคราม First Skaven Civil War เมื่อ Clan Eshin หนึ่งในสี่แคลนใหญ่ของ Skaven เดินทางกลับมาจากตะวันออกไกลหลังจากฝึกฝนวิชานักฆ่าสำเร็จแล้ว Clan Eshin ได้ถวายตัวรับใช้ Council of Thirteen และลอบสังหารผู้นำของ Clan Pestilens ไปหลายคน จนในที่สุด Lord Nurglitch หัวหน้า Clan Pestilens ต้องขอเจรจาสงบศึก ระหว่างนั้นเขาก็ได้เข้ารับการทดสอบไถ่โทษและฆ่าหนึ่งในสมาชิก Council of Thirteen ลงได้ ทำให้เขาเข้ารับตำแหน่งเก้าอี้ตัวที่ 7 ของ Council of Thirteen แทนที่สมาชิกที่ตายลงไป
ศักราช IC ที่ 950
o Gilles le Breton อัศวินชาว Bretonni ได้ฆ่ามังกรนาม Smearghus ลงได้สำเร็จ จากนั้นเขาได้พบกับ Lady of the Lake ซึ่งมอบพรวิเศษให้แก่เขา ซึ่งทำให้เขามีพละกำลังและอายุขัยเหนือมนุษย์ เขาได้กลายมาเป็น Grail Knight คนแรกของโลก ต่อมาเขาก็ใช้พลังที่ได้มาขับไล่พวก Greenskins กลับไปยังเทือกเขาและรวบรวมแผ่นดินก่อตั้งอาณาจักร Bretonnia ขึ้นมา
ศักราช IC ที่ 970
o Morghur the Shadowgrave ถูกฆ่ารอบที่สามโดยกองทัพผสมของ Wood Elves และ Bretonnia ที่นำโดย Gilles le Breton
ศักราช IC ที่ 1000
o Gilles le Breton เสียชีวิตลงในการรบ ศพของเขาถูกปล่อยลอยน้ำเข้าไปยังม่านหมอกในทะเลสาบที่เขาเจอ Lady of the Lake ที่นั่น Lady of the Lake ได้คืนชีพและมอบชีวิตอมตะให้กับเขา ทำให้เขากลายเป็น Green Knight อัศวินลึกลับที่จะปรากฏตัวออกมาช่วยยามที่ Bretonnia คับขันเสมอ
o มีข่าวลือเรื่องสมบัติใต้สุสานของ Nehekhara ทำให้ Count Schuvaltz แห่งแคว้น Averland ของ Empire จ้างทหารรับจ้างจำนวนนึงให้ไปขุดสุสานเพื่อนำสมบัติกลับมา เหล่าทหารรับจ้างถูกลอบโจมตีโดยกองทัพ Tomb Kings ระหว่างขากลับ มีเพียงคนเดียวที่รอดชีวิตกลับมาได้ แต่สมบัติเพียงไม่กี่ชิ้นที่เขานำกลับมาก็ทำให้ข่าวลือแพร่ลามออกไปยิ่งกว่าเดิม ทำให้มีโจรขุดสุสานหรือนักแสวงโชคแวะเวียนไปที่ Nehekhara เรื่อยๆจนถึงปัจจุบัน
1
Luthor Harkon และกองทัพโจรสลัดแห่ง Vampire Coast
ศักราช IC ที่ 1020
o โจรสลัดแวมไพร์นาม Luthor Harkon ได้ล่องเรือมายังอ่าวทางตะวันตกของ Lustria จากนั้นเขาก็ได้สร้างอาณาเขตเวทมนตร์เพื่อล่อลวงเรือที่ขับผ่านให้มาอัปปางลงในอ่าวนี้ แล้วเขาก็เสกศพของลูกเรือให้มาเป็น Undead ในกองทัพของเขา ภายหลังอ่าวนี้ถูกเรียกว่า Vampire Coast กองเรือโจรสลัดของ Luthor Harkon มีชื่อเสียงมากขึ้นเรื่อยๆและเป็นที่หวาดกลัวมากในหมู่นักเดินเรือของ Old World
o Luthor Harkon ได้ถูกกับดักของพวก Lizardmen ในวิหารแห่งนึง ทำให้เขากลายเป็นคนหลายบุคลิกและไม่สามารถใช้เวทมนตร์ได้อีกต่อไป
o คนแคระคิดค้นเครื่องจักรไอน้ำขึ้นเป็นครั้งแรกของโลก
ศักราช IC ที่ 1110
o Clan Pestilens ได้แพร่เชื้อกาฬโรคเข้าสู่ Empire ทำให้ประชากร Empire กว่า 90% เสียชีวิตลง จากนั้นพวก Skaven ก็ออกมาจากใต้ดินและเข้าโจมตี Empire ที่อ่อนแอถึงขีดสุด ในขณะเดียวกันเนโครแมนเซอร์นามว่า Vanhal ก็ได้ใช้เวทปลุกศพของประชาชนที่ตายเพราะโรคระบาดมาเป็นกองทัพ Undead จำนวนมหาศาล กองทัพ Skaven และ Undead เข้าต่อสู้กันเพื่อแย่งชิง Empire แต่สุดท้ายก็เสียหายหนักด้วยกันทั้งสองฝ่าย Vanhal ถูกหนูนักฆ่าจาก Clan Eshin ลอบสังหารไป ส่วนพวก Skaven ก็ถูกจักรพรรดิ Mandred Skavenslayer ยกทัพสู้กลับจนพ่ายแพ้ไปในที่สุด
ศักราช IC ที่ 1150
o Mandred Skavenslayer ถูกลอบสังหารโดยหนูนักฆ่าจาก Clan Eshin เพื่อเป็นการล้างแค้นในสงครามครั้งก่อน หลังจากนั้นก็เกิดความวุ่นวายเรื่องการเลือกจักรพรรดิคนใหม่ เมื่อ Elector Counts แต่ละแคว้นต่างยกหางตัวเองเพื่อให้ได้เป็นจักรพรรดิกันทั้งนั้น
ทหารม้าของอาณาจักร Araby
ศักราช IC ที่ 1310
o กำแพงเมืองจีน Great Bastion ของ Cathay ได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหว ทำให้กองทัพ Warriors of Chaos บุกเข้าโจมตี Cathay ได้เรียกระดมกองทัพครั้งใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นทหารดินเผา Terracotta Automatons ไปจนถึงมังกรทอง Gold Dragon เข้าต่อสู้กับกองทัพ Chaos จนสามารถยันพวกมันกลับไปหลังกำแพงได้
ศักราช IC ที่ 1360
o หลังจากผ่านมากว่า 200 ปี ในที่สุด Empire ก็ได้จักรพรรดิองค์ใหม่เป็น Elector Count แห่งแคว้น Stirland แต่ว่า Countess Ottilia แห่งแคว้น Talabecland ได้ออกมาคัดค้านและแฉว่าเขาเป็นแค่จักรพรรดิหุ่นเชิดให้แก่ลัทธิ Cult of Sigmar เท่านั้น Countess Ottilia จึงได้ร่วมมือกับลัทธิ Cult of Ulric และสถาปนาตนเองขึ้นเป็นจักรพรรดินีเช่นกัน ทำให้สงครามกลางเมืองของ Empire ปะทุขึ้นจนจักรวรรดิแตกออกเป็นสองส่วน ส่วนแรกคือดินแดนของ Elected Emperor ที่เลือกจักรพรรดิจากการโหวตเหมือนเดิม แล้วก็ดินแดนของ Ottilian Emperor จักรพรรดิที่สืบเชื้อสายมาจาก Countess Ottilia
ศักราช IC ที่ 1450
o Araby อาณาจักรมนุษย์ใน Southland ได้ประกาศสงครามกับ Estalia อาณาจักรมนุษย์ทางตะวันตกของ Old World ทำให้อาณาจักรมนุษย์ทั่วทั้ง Old World ผนึกกำลังกันเปิดฉากสงครามครูเสดกับ Araby ภาคีอัศวินของ Empire จำนวนนึงได้เข้าร่วมในสงครามครั้งนี้ด้วย สงครามดำเนินไปเป็นระยะเวลากว่า 2 ปี ในที่สุดพันธมิตรมนุษย์แห่ง Old World ก็เป็นฝ่ายชนะ
o อัศวิน Bretonnia จำนวนนึงได้สร้างปราสาทขึ้นมาทางใต้ของ Old World เพื่อเป็นแนวป้องกันพวก Greenskins จาก Badlands ทางตอนใต้ ภายหลังดินแดนบริเวณนั้นทั้งหมดได้กลายเป็นประเทศอิสระ Border Princes
o Duke แห่งแคว้น Aquitaine ของ Bretonnia ได้ไปเข้าร่วมสงครามครูเสดพร้อมกับกองทัพพันธมิตร ในระหว่างสงครามเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสแต่ก็ยังกัดฟันสู้กับศัตรูต่อไป จนชายผู้นึงที่เฝ้าดูสงครามอยู่รู้สึกประทับใจในตัวเขา ชายผู้นั้นคือ Abhorash นั่นเอง Abhorash ได้ยื่นข้อเสนอให้กับ Duke ที่ใกล้ตายเรื่องการรับ Blood Kiss และเปลี่ยนร่างเป็นแวมไพร์ ซึ่ง Duke ก็รับข้อเสนอนั้น ทำให้เขากลายมาเป็นแวมไพร์สายพันธุ์ Blood Dragons หลังจากกลับถึงบ้านเกิดเขาก็ได้สร้างความวุ่นวายในแคว้น Aquitaine มาจนถึงปัจจุบัน จนได้รับฉายาว่า Red Duke
ยุคสามจักรพรรดิที่แบ่งแยก Empire ออกเป็น 3 ก๊ก
ศักราช IC ที่ 1520
o Gorthor the Beastlord ได้รวบรวมกองทัพ Beastmen ที่มีจำนวนมากที่สุดในประวัติศาสตร์และบุกเข้าโจมตี Empire พวกมันทำลายแคว้นทางเหนือของ Empire ไป 2 แคว้นและกำลังล้อมเมืองหลวงแคว้น Hochland อยู่ แต่ว่าภาคีอัศวิน Knights of the Blazing Sun ได้ยกทัพมาช่วยเหลือได้ทันและไล่ฆ่าพวก Beastmen จนแตกทัพหนียับเยิน
o อาณาจักร Kislev ได้ถูกก่อตั้งขึ้นโดยชนเผ่า Gospodars ที่อพยพมาจากทางตะวันออกไกล พวกเขาย้ายถิ่นฐานมาจนถึงที่ราบทางเหนือของ Empire และเปิดศึกกับชนเผ่า Ungol ที่ตั้งรกรากอยู่มาก่อน สงครามดำเนินไปหลายปีจนในที่สุด Gospodars ก็ตีเมืองหลวงของพวก Ungol แตกและกลืนชาติได้สำเร็จ
ศักราช IC ที่ 1550
o Elector Count แห่งแคว้น Middenland ของ Empire ได้ประกาศสถาปนาตนเองขึ้นเป็นจักรพรรดิอีกคน ทำให้ Empire ตอนนี้มีจักรพรรดิ/จักรพรรดินีทั้งหมด 3 องค์ จึงถูกเรียกว่ายุคสามจักรพรรดิ ซึ่งถือเป็นยุคแห่งความวุ่นวายอย่างที่สุดของ Empire
Gorbad Ironclaw แม่ทัพออคที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์
ศักราช IC ที่ 1680
o Nagash ฟื้นคืนชีพกลับมาอีกครั้งนึง หลังจากโดน Sigmar ฆ่าตายเมื่อ 1600 กว่าปีก่อน
ศักราช IC ที่ 1705
o Gorbad Ironclaw ได้ระดมกองทัพ Greenskins จำนวนมหาศาลหรือที่เรียกว่า Waaagh และบุกเข้าโจมตี Empire จากทางใต้ แคว้น Averland Moot Averheim และ Nuln ต่างถูกเผาทำลายจนเรียบ ถัดมา Gorbad ได้บุกแคว้น Solland และทำลายแคว้นจนราบเป็นหน้ากลอง มันยังได้ฆ่า Elector Counts ประจำแคว้นและชิงเอาดาบ Runefang of Solland ไปเป็นของที่ระลึกด้วย
ศักราช IC ที่ 1710
o Gorbad Ironclaw ยกทัพเข้าล้อมเมือง Altdorf ของแคว้น Reikland เพียงไม่นานเมืองก็ถูกตีแตกและหนึ่งในสามจักรพรรดิ Sigismund ก็ถูกฆ่าตาย แต่ Gorbad ก็ได้รับบาดเจ็บจนอ่อนแอลงเรื่อยๆ กองทัพ Waaagh ที่ขาดผู้นำที่แข็งแกร่งก็จะสูญเสียศูนย์รวมทางจิตใจไป ทำให้กองทัพสลายตัวไปคนละทิศคนละทาง Empire จึงได้รับชัยชนะในท้ายที่สุดแต่แคว้นกว่าครึ่งก็เหลือเพียงแค่ซากปรักหักพัง ถือเป็นหนึ่งในความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในหน้าประวัติศาสตร์ของ Empire เลย
Isabella von Carstein ภรรยาของ Vlad von Carstein
ศักราช IC ที่ 1730
o Kholek Suneater หนึ่งใน Dragon Ogre Shaggoth สิ่งมีชีวิตโบราณที่อยู่มาตั้งแต่ก่อนการมาเยือนของ Old One ได้หลุดจากเวทมนตร์ที่คุมขังตัวมันอยู่
ศักราช IC ที่ 1755
o เมือง Sartosa ของ Tilea ได้กลายมาเป็นรังโจรสลัดไปแล้ว
ศักราช IC ที่ 1785
o Clan Pestilens ได้ปล่อยฝูงหนูที่เป็นพาหะนำโรคฝีดาษลงในทางระบายน้ำเมือง Bordeleaux แคว้น Bretonnia ภายในสัปดาห์เดียวประชากรกว่า 1 ใน 3 ของเมืองเสียชีวิตลงด้วยโรคฝีดาษ จน Baron Giscard Du'ponte ขุนนางของเมืองออกคำสั่งให้จุดไฟเผาย่านแออัดทิ้งให้หมด ทำให้การแพร่เชื้อหยุดลงแทบจะทันทีเลย
ศักราช IC ที่ 1795
o Vashanesh หนึ่งในแวมไพร์ 5 ตนแรกของโลกได้เปลี่ยนชื่อเป็น Vlad von Carstein เขาได้แต่งงานกับ Isabella von Drak ลูกสาวเจ้าแคว้น Sylvania และเริ่มสร้างฐานอำนาจของตัวเองขึ้นมา หลังจากนั้นเพียงไม่กี่สิบปีขุนนางเกือบทั้งหมดในแคว้น Sylvania ก็กลายมาเป็นแวมไพร์ ถือเป็นจุดเริ่มต้นของ Vampire Counts ของแวมไพร์สายพันธุ์ Von Carstein
สงครามกลางเมืองครั้งที่ 2 ของเหล่า Skaven
ศักราช IC ที่ 1850
o ภายในการประชุมสภาของ Council of Thirteen มีสมาชิกหลายคนสุมไฟให้มีการถอดถอน Clan Pestilens ออกจากเก้าอี้เพราะภารกิจแพร่เชื้อโรคฝีดาษใน Bretonnia ล้มเหลว จน Clan Pestilens ตัดสินใจก่อปฏิวัติและเข้ายึดอำนาจในสภา โดยมีหลายแคลนเข้าร่วมการปฏิวัติด้วย สุดท้ายกลายเป็นการตะลุมบอนครั้งใหญ่ภายในเมือง Skavenblight
2
o Clan Skryre หนึ่งในสี่แคลนใหญ่ได้ให้ Ikit Claw นำอาวุธทั้งหลายที่พัฒนาขึ้นมาใช้กำราบความไม่สงบภายใน Skavenblight เมื่ออยู่ต่อหน้าอาวุธปืนสุดไฮเทคก็ทำให้แคลนที่ก่อปฏิวัติต้องยอมถอยทัพหนี ผู้นำ Clan Skryre คิดอาศัยจังหวะนี้สถาปนาตนเองเป็นผู้ปกครองแห่ง Skavenblight และควบคุมสภาเสียเอง แต่ว่าความวุ่นวายมันแพร่กระจายออกไปทั่วทั้ง Under-Empire อย่างรวดเร็ว กว่าจะรู้ตัวก็ไม่มีใครหยุดได้แล้ว เกิดเป็น Second Skaven Civil War หรือสงครามกลางเมืองครั้งที่ 2 ของเหล่า Skaven ซึ่งกินเวลาอีก 400 ปีกว่าจะยุติลง แถมเพราะผลของสงครามกลางเมืองทำให้กำลังรบของเผ่า Skaven อ่อนแอลงมาก
Repanse de Lyonesse วีรสตรีแห่ง Bretonnia
ศักราช IC ที่ 1990
o ดินปืนถูกใช้งานเป็นครั้งแรกใน Empire โดยได้รับความรู้ด้านดินปืนมาจากคนแคระที่เป็นพันธมิตรกันอยู่
ศักราช IC ที่ 2000
o มีอุกกาบาต Warpstones ขนาดมหึมาตกลงมายังเมือง Mordheim ซึ่งเป็นเมืองหลวงของแคว้น Ostermark ทำให้มีประชากรเสียชีวิตจำนวนมาก มีเผ่าพันธุ์มากมายที่หมายตา Warpstones เหล่านั้น ไม่ว่าจะเป็น Skaven แวมไพร์ Chaos พวกมันจึงได้ส่งหน่วยพิเศษลอบเข้ามาในเมือง จากนั้นก็เกิดการต่อสู้เพื่อแย่งชิง Warpstones กันทั่วทั้งเมือง เกิดความวุ่นวายไม่เว้นแต่ละวันจนทำให้เมืองนี้ได้รับฉายาว่า City of the Damned หรือเมืองแห่งความระยำ
o กองทัพ Warriors of Chaos ได้บุกโจมตี Bretonnia และล้อมเมืองหลวง Couronne เอาไว้ หญิงสาวชาวบ้านนามว่า Repanse ได้รับพรวิเศษจาก Lady of the Lake จึงได้ปลุกระดมอัศวินและชาวบ้านลุกขึ้นต่อสู้กับกองทัพ Chaos จนได้รับชัยชนะมา เธอจึงได้รับยศ Duchess และกลายมาเป็น Repanse de Lyonesse
o Morghur the Shadowgrave ถูกฆ่ารอบที่สี่
Vlad von Carstein และกองทัพ Undead แห่ง Sylvania
ศักราช IC ที่ 2010
o Vampire Counts ประกาศสงครามกับ Empire เต็มรูปแบบ Vlad von Carstein ยกทัพบุกโจมตีแคว้น Ostermark และยกทัพตีแคว้นทางเหนือไล่ไปเรื่อยๆ เป็นการเริ่มต้นของ Vampire Wars หรือสงครามแวมไพร์ที่กินเวลานับร้อยปี มีหลายครั้งที่เขาพลาดท่าถูกศัตรูฆ่าตาย แต่เพียงไม่นานเขาก็ฟื้นคืนชีพกลับมาใหม่ เป็นเพราะผลของแหวนวิเศษที่ Nagash เคยให้ไว้
o Leonardo da Miragliano นักประดิษฐ์อัจฉริยะชาว Tilea ได้เข้ารับราชการใน Empire ภายหลังเขาได้สร้างรถถัง Steam Tank ขึ้นจากเครื่องจักรไอน้ำของคนแคระ ถือเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่พลิกโฉมการรบของ Empire เลย Steam Tank ที่ถูกสร้างขึ้นมีเพียงแค่ 12 คัน หลังจาก Leonardo เสียชีวิตลงก็ไม่มีใครสามารถสร้างมันขึ้นมาได้อีก มีเพียงแค่ซ่อมบำรุงกับดัดแปลงเพิ่มเติมแค่นั้น
ศักราช IC ที่ 2050
o Vlad von Carstein ได้ยกทัพเข้าล้อมเมือง Altdorf ของแคว้น Reikland ทางฝ่าย Empire นั้นก็รู้ที่มาพลังคืนชีพของ Vlad แล้ว จึงได้มีการว่าจ้างหัวขโมยให้ไปขโมยแหวนวิเศษออกมา Vlad ได้รู้เรื่องก็โกรธมาก เขาทุ่มกำลังทั้งหมดเข้าตีเมือง Altdorf โดยไม่รอช้าทันที สุดท้ายเขาก็แลกชีวิตกับหัวหน้านักบวชลัทธิ Cult of Sigmar ตายตกตามกันไป เมื่อเห็นว่าสามีตนเองเสียชีวิตแล้ว ด้วยความเสียใจ Isabella von Carstein ก็ได้ฆ่าตัวตายตามไปด้วย เมื่อขาดผู้นำไปทำให้แวมไพร์ที่เหลือต่างแย่งอำนาจกันเอง ทำให้กองทัพแตกพ่ายไปในที่สุด
ศักราช IC ที่ 2090
o Mannfred von Carstein ได้ออกจากแคว้น Sylvania มุ่งหน้าลงใต้เพื่อไปศึกษาศาสตร์เวทมืดในซากอาณาจักร Nehekhara
ศักราช IC ที่ 2100
o Konrad von Carstein ได้ขึ้นมาเป็นผู้นำของตระกูล Von Carstein อย่างเต็มตัว เขาได้เปิดศึกกับ Empire อีกรอบและเข้าโจมตีแคว้นของ Empire หลายแคว้น Empire และคนแคระจึงได้ตั้งทัพพันธมิตรเพื่อสู้กับ Konrad
Mannfred von Carstein แวมไพร์จอมเจ้าเล่ห์ผู้เชี่ยวชาญศาสตร์มืด
ศักราช IC ที่ 2120
o กองทัพของ Konrad von Carstein ได้พ่ายแพ้ต่อกองทัพพันธมิตร Empire-คนแคระ ตัวเขาเองก็ได้ถูกสังหารลงด้วย
o Mannfred von Carstein ได้กลับมาถึงแคว้น Sylvania และขึ้นเป็นผู้นำตระกูล Von Carstein แทน Konrad ที่ตายไป เขาได้ใช้เวลาหลังจากนั้นมองหาพันธมิตรจากแวมไพร์สายพันธุ์อื่นนอกเหนือจากสายพันธุ์ Von Carstein ด้วย
ศักราช IC ที่ 2130
o Mannfred von Carstein บุกโจมตี Empire แบบสายฟ้าแล่บก่อนที่ใครจะตั้งตัวทัน ทำให้เขาสามารถยึดเมือง Altdorf ได้สำเร็จ แต่หลังจากนั้นเขาก็ถูกกองทัพ Empire ไล่ต้อนไปทั่วจนเกิดสงครามชุลมุนนานนับสิบปี สุดท้ายเขาก็ยอมถอยทัพกลับ Sylvania ไป
1
ศักราช IC ที่ 2145
o กองทัพพันธมิตร Empire-คนแคระตัดสินใจบุกเข้าโจมตีแคว้น Sylvania เพื่อล้างบางแวมไพร์ทั้งหมด Mannfred von Carstein ได้ระดมกองทัพเข้าต่อสู้แต่ก็พ่ายแพ้และต้องหลบหนีไป แคว้น Sylvania กลับมาอยู่ใต้การปกครองของ Empire อีกครั้งนึง จากนั้น Empire ก็ได้ส่งหน่วย Witch Hunter ไล่เก็บกวาดพวกแวมไพร์หรือสาวกที่หลบซ่อนอยู่ แต่เพราะวิธีการตรวจสอบที่รุนแรงเกินไปทำให้ประชากรของ Sylvania ไม่พอใจเป็นอย่างมาก
1
ศักราช IC ที่ 2150
o Mannfred von Carstein หนีไปหลบอยู่ที่แคว้น Lahmia ของ Nehekhara และได้ปะทะกับ High Queen Khalida ที่คืนชีพขึ้นมาเพราะตรวจพบผู้บุกรุก ด้วยความเคียดแค้นที่มีต่อแวมไพร์อย่างลึกล้ำทำให้เธอโจมตีใส่ Mannfred ทันทีโดยไม่ถามไถ่อะไรทั้งสิ้น Mannfred เป็นฝ่ายพ่ายแพ้และได้รับบาดเจ็บจนต้องหลบหนีอีกครั้ง
o High Elves บางส่วนเริ่มเดินเรือกลับมายัง Old World เพื่อเปิดการค้ากับมนุษย์ ต่อมาพวกนี้ได้ถูกเรียกว่า Sea Elves
Tyrion และ Teclis สองฝาแฝดที่แตกต่างกันสุดขั้ว
ศักราช IC ที่ 2160
o Finubar the Seafarer ได้กลายเป็น Phoenix King คนใหม่ของ High Elves เขาเป็นหนึ่งในเอลฟ์หัวสมัยใหม่ที่ไม่ยึดขนบธรรมเนียมเดิมๆ ในอดีตเขาถูกพ่อส่งให้เดินทางไปสำรวจ Old World ทำให้เขามีโอกาสได้ผูกมิตรและทำการค้ากับทั้ง Empire Bretonnia และคนแคระ
ศักราช IC ที่ 2245
o Morghur the Shadowgrave ถูกฆ่ารอบที่ห้าโดย Araloth แม่ทัพ Wood Elves
7
ศักราช IC ที่ 2300
o Malekith ได้ร่วมมือ Chaos และประกาศสงครามล้างแค้นกับ High Elves เต็มรูปแบบ กองทัพเรือ Black Ark จำนวนมากได้บุกโจมตีเกาะ Ulthuan และขับไล่พวก High Elves จนต้องหนีเข้าไปอยู่ชั้นในของเกาะ สองฝาแฝด Tyrion และ Teclis ผู้สืบเชื้อสายของ Aenarion ได้ช่วยเหลือ Alarielle Everqueen องค์ปัจจุบันเอาไว้จากปีศาจ Greater Daemon ทั้งสามได้หนีไปรวมกลุ่มกับกองทัพ High Elves ที่ยังเหลือรอดที่ทุ่งหญ้า Finuval Plain และเตรียมพร้อมสำหรับศึกสุดท้าย
o ศึกที่ทุ่งหญ้า Finuval Plain หรือ Battle of Finuval Plain ปะทุขึ้น กองทัพของ High Elves และ Dark Elves งัดเอาทุกอย่างที่มีออกมาและเข้าปะทะกันอย่างรุนแรง แต่เพียงไม่นาน High Elves ก็ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบด้วยจำนวนที่น้อยกว่า Tyrion กับ Teclis ช่วยกันสู้กับ Malekith สุดท้าย Teclis ตัดสินใจร่ายเวทไพ่ตายออกมา ทำให้ Malekith ต้องหนีเข้าไปยังมิติ Chaos เพื่อเอาชีวิตรอด เมื่อเห็นผู้นำของตัวเองพ่ายแพ้กองทัพ Dark Elves ก็แตกทัพหนีไป หลังจากนั้น Tyrion ก็ได้นำกองทัพไล่บดขยี้ทหารที่เหลืออยู่ของ Dark Elves ทั้งหมด ในขณะเดียวกัน Teclis ก็แยกตัวออกไปทำภารกิจบางอย่าง
o เปิดฉาก Great War against Chaos หรือมหาสงครามกับ Chaos กองทัพ Chaos จำนวนมหาศาลภายใต้ผู้นำคนใหม่ Asavar Kul the Everchosen ได้ยกทัพลงมาจากทางเหนือและมุ่งหน้าสู่เมือง Pragg ของ Kislev กองทัพประกอบด้วยทั้งนักรบหุ้มเกราะของ Warriors of Chaos พวกครึ่งสัตว์ Beastmen หรือแม้แต่ปีศาจ Daemon of Chaos ทางด้าน Kislev ได้ร่วมมือกับกองทัพจากแคว้น Ostland ของ Empire และยกทัพเพื่อไปสะกัดศัตรูก่อนจะแม่น้ำตรงชายแดน แต่ก็ไม่สามารถต้านทานกองทัพ Chaos ที่เต็มไปด้วยอสูรกายได้เลย สุดท้ายกองทัพ Chaos ก็เข้าล้อมเมือง Pragg จนได้
o กองทัพที่ประจำอยู่ในเมือง Pragg สามารถยันกองทัพ Chaos ได้นานเกือบครึ่งปี แต่ทุกอย่างก็เป็นอันจบลงเมื่อเจ้า Kholek Suneater ใช้ค้อมขนาดมหึมาของมันทุบกำแพงเมือง Pragg จนแหลกเป็นเสี่ยง กองทัพ Chaos ได้กรูกันเข้าไปในเมือง Pragg และฆ่าทุกสิ่งที่ขวางหน้า พลังงาน Chaos Corruption มหาศาลได้พลั่งพรูเข้าสู่เมือง เปลี่ยนให้ชาวเมืองที่ยังรอดต้องกลายพันธุ์ไปเป็นสิ่งมีชีวิตประหลาด เสียงร้องโหยหวนระงมไปทั่วเมือง Pragg ราวกับนี่เป็นนรกบนดิน
o กษัตริย์ Kislev ได้ส่งสาสน์ขอความช่วยเหลือไปยัง Elector Counts ทุกแคว้นของ Empire แต่เนื่องจาก Empire ยังอยู่ในช่วงที่แตกออกเป็น 3 ก๊กทำให้ไม่มีใครอยากทุ่มกำลังไปช่วย หลายคนก็หวาดกลัวพวก Chaos จนยอมหันไปนับถือ Chaos เพื่อกะเอาตัวรอดก็มี แต่มีบุคคลผู้นึงที่หาได้หวั่นเกรงพวก Chaos เลยซักนิด เขาคือ Magnus the Pious ขุนนางและนักบวชแห่งเมือง Nuln ที่มีความฝันจะรวมแผ่นดิน Empire กลับเป็นหนึ่งอีกครั้ง ในขณะที่ทาง Kislev กำลังเข้าตาจนที่ Nuln ก็เจอการบุกของปีศาจ Chaos เช่นกัน เหล่านักบวชได้สวดอ้อนวอนต่อ Sigmar จนปรากฏเป็นดาวหางสองแฉกบินผ่านท้องฟ้า เมื่อ Magnus ได้เห็นดาวหางเขาก็รู้ว่าเวลาที่ Empire จะกลับมายิ่งใหญ่ได้มาถึงแล้ว เขาอาศัยอำนาจขุนนางของตัวเองปลุกระดมผู้คนจนเอาชนะกองทัพปีศาจมาได้ จากนั้นเขาก็เดินทางไปทั่วทุกแคว้นของ Empire และรวบรวมผู้คนที่ยังคงมีศรัทธาต่อจักรวรรดินี้อยู่ จนกลายเป็นกองทัพใหญ่ แคว้นสุดท้ายที่เขาไปคือ Middenland ที่นั่นเขาได้ลุยไฟศักดิ์สิทธิ์ของเทพ Ulric เพื่อพิสูจน์ตัวเองว่าไม่ใช่พวกปลิ้นปล้อน จนในที่สุดเขาก็ได้รับการยอมรับจากทุกแคว้นให้เป็นผู้นำกองทัพ Empire ไปช่วยเหลือ Kislev
Great War against Chaos สงครามตัดสินชะตาโลก
o หลังจาก Magnus the Pious รวม Empire เป็นหนึ่งเดียวได้ไม่นาน เขาก็ได้รับจดหมายจากกษัตริย์ Kislev ว่าตอนนี้กองทัพ Kislev เสียหายหนักมากจนไม่เหลือกำลังพอจะป้องกันแล้ว ทำให้ Magnus ได้สั่งให้กองทหารม้าทั้งหมดล่วงหน้าไปช่วยเหลือ Kislev ก่อน ส่วนตัวเขาจะคุมกองทัพหลักที่เป็นทหารราบตามไปอีกที ระหว่างทางเขาได้พบกับนักเวท High Elves สามคน นั่นคือ Teclis และผู้ติดตามอีกสองคน พวกเขามาเพื่อช่วยเหลือ Empire ทำศึกกับ Chaos
o ข่าวลือเรื่องกองทัพใหญ่ Chaos ที่นำโดย Asavar Kul the Everchosen บุกโจมตี Old World ลอยมาถึงเกาะ Ulthuan พวก High Elves ส่วนใหญ่มองว่านี่ไม่ใช่เรื่องของพวกตน แต่ Teclis รู้ดีว่าถ้าปล่อยให้ Old World พังพินาศ เกาะ Ulthuan ก็จะโดนกองทัพ Dark Elves และ Chaos กระหนาบจากทั้ง 2 ทาง เขาจึงอาสาตัวเองไปช่วยเหลือเผ่ามนุษย์พร้อมด้วยผู้ติดตามอีก 2 คน Teclis ยังได้สอนนักเวทของ Empire ถึงวิธีควบคุมกระแสพลังเวทแบบใหม่ที่จะไม่ถูกพลังด้านลบของ Chaos เข้าครอบงำด้วย ทำให้ Magnus the Pious รู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก เพราะกองทัพของ Empire ในตอนนี้ถ้าไม่มีนักเวทจะสู้กับพวกปีศาจ Daemon ได้ลำบากมาก
2
o เหล่าคนแคระแห่งปราการใหญ่ Karaz-a-Karak เมื่อรู้ว่าเมือง Pragg ถูกตีแตกแล้วก็ได้ส่งกองทัพคนแคระจำนวนนึงไปช่วยเหลือเมืองหลวง Kislev ด้วย
o กองทัพใหญ่ของ Chaos ได้มาถึงเมืองหลวง Kislev แล้ว กองทัพหน้าได้บุกเข้าโจมตีประตูเมืองอย่างหนัก แต่ว่าเพราะกำลังเสริมจากคนแคระจึงช่วยให้ยันกลับไปได้ ในขณะที่กองทัพหลักกำลังจะเข้าโจมตีต่อก็ถูกขัดขวางโดยกองทัพของ Empire ที่นำโดย Magnus และ Teclis จนในที่สุด Asavar Kul ต้องแบ่งกองทัพออกเป็นสองส่วน ส่วนนึงบุกเข้าโจมตีเมืองต่อ อีกส่วนก็หันกลับไปสู้กับกองทัพ Empire
o กองทัพ Empire ได้เปรียบในช่วงแรกเพราะเวทมนตร์ของ Teclis แต่ว่ากองทัพ Chaos นั้นมีจำนวนมากเกินไปจนกำจัดเท่าไหร่ก็ไม่หมดซักที จนในที่สุดกองทัพ Empire ต้องกลายเป็นฝ่ายตั้งรับแทน นักเวทผู้ติดตามของ Teclis คนนึงก็ถูกฆ่าโดนปีศาจ Greater Daemon ทำให้สถานการณ์ยิ่งเลวร้ายลงกว่าเดิม ทางด้านเมืองหลวง Kislev ก็เห็นว่ากองทัพพันธมิตรที่ยกมาช่วยกำลังเพลี่ยงพล้ำ คนแคระหลายร้อยคนเปิดประตูเมืองออกและพยายามตีฝ่าไปช่วย แต่ว่าศัตรูมีจำนวนมากเกินไปทำให้คนแคระกว่าครึ่งเสียชีวิตลงส่วนที่เหลือต้องถอยหนีกลับเข้าเมือง
o ในช่วงที่ความหวังเลือนลาง กองทัพม้าของ Empire ที่ล่วงหน้ามาก่อนก็ปรากฏตัวออกมาจากเส้นขอบฟ้าทิศเหนือ พวกเขาได้ยกทัพไปช่วยเหลือเมือง Pragg แต่ก็ช้าไปเสียแล้ว ทำให้พวกเขารีบยกทัพวกกลับมาที่เมืองหลวงทันที Magnus ที่เห็นทัพเสริมปรากฏตัวก็ตะโกนปลุกระดมทหารให้โต้กลับทันที ทางด้านเมืองหลวงกองทัพ Kislev กับคนแคระก็รวบรวมกำลังพลทั้งหมดตีฝ่าศัตรูที่ล้อมเมืองออกมา เมื่อถูกโจมตีจากทั้ง 3 ทางทำให้กองทัพ Chaos ตกอยู่ในความสับสนวุ่นวายและถูกทำลายจนหมด ส่วน Asavar Kul ก็เสียชีวิตลงจากการท้าดวลกับ Magnus
Thorgrim Grudgebearer มหาราชาคนแคระผู้ถือครองหนังสือแห่งความแค้น
ศักราช IC ที่ 2305
o Magnus the Pious ได้กลายเป็นวีรบุรุษของ Old World และถูกรับเลือกให้เป็นจักรพรรดิองค์ต่อไปของ Empire อย่างเป็นเอกฉันท์โดยไม่ต้องผ่านการโหวตคะแนน เป็นการสิ้นสุดยุคสามจักรพรรดิโดยสมบูรณ์ ตลอดรัชสมัยของพระองค์ได้ให้ความสำคัญกับการกำจัดพลังอันชั่วร้ายทั้งหมดใน Empire เป็นอย่างมาก พระองค์ยังสั่งให้ทำลายเมือง Mordheim ทิ้งจนเหลือแต่ซากด้วย
o Thorgrim Grudgebearer ได้กลายเป็น High Kings คนใหม่ของคนแคระ เขาได้ริเริ่มแผนการทวงคืนปราการทั้งหมดของคนแคระที่เสียให้กับ Greenskins และ Skaven กลับคืนมา
o Teclis ได้ก่อตั้งมหาลัยเวทมนตร์ Colleges of Magic ขึ้นมาที่เมือง Altdorf ของ Empire เป้าหมายเพื่อฝึกฝนนักเวทเผ่ามนุษย์ให้แข็งแกร่งเพื่อรับมือศัตรูในอนาคต
o Diederick Kastner หรือ Archaon ได้กำเนิดขึ้นมาในแคว้น Nordland ของ Empire เขาเป็นลูกครึ่งชาว Empire และ Norsca ที่เกิดขึ้นจากแม่ของเขาถูกข่มขืนในช่วง Great War against Chaos
ศักราช IC ที่ 2325
o Teclis ได้กลับมาถึงเกาะ Ulthuan และเข้ารับตำแหน่ง High Loremaster แห่งหอคอย Tower of Hoeth
ศักราช IC ที่ 2370
o Magnus the Pious เสียชีวิตลงอย่างสงบ เริ่มกลับมาใช้ระบบโหวตเลือกจักรพรรดิอีกครั้งนึง
คนแคระเป็นเผ่าที่ตระหนี่และแค้นฝังลึกเป็นที่สุด
ศักราช IC ที่ 2375
o Sigvald the Magnificent แชมเปี้ยนของเทพ Slaanesh ได้นำกองทัพ Chaos บุกโจมตีเกาะ Ulthuan ก่อนจะพ่ายแพ้และถูกไล่ตะเพิดออกมา
o หลังจากผ่านมาหลายพันปี อาณาเขตเวทมนตร์ที่สร้างไว้ทำให้สภาพแวดล้อมของ Lustria มีความอันตรายมาก ทั้งยังเต็มไปด้วยสัตว์เลื้อยคลานหลากหลายสายพันธุ์
o ราชาวานร Monkey King ได้ทำสัญญาพันธมิตรกับ Skaven และเริ่มก่อความวุ่นวายใน Cathay
ศักราช IC ที่ 2400
o Malekith กลับมาจากมิติ Chaos ได้สำเร็จ หลังจากติดอยู่ในนั้นร่วมร้อยปี
ศักราช IC ที่ 2410
o นายช่างคนแคระได้รับจ้างสร้างป้อมปราการให้แก่ Elector Count แห่งแคว้น Ostermark แต่เมื่อได้รับค่าจ้างปรากฏว่าเงินขาดไป 2 เหรียญทองกับครึ่งเพนนี หลังจากนั้นไม่นานได้มีกองทัพคนแคระยกพลไปเผาทำลายป้อมปราการดังกล่าวทิ้ง เพื่อตอบแทนที่จ่ายเงินไม่ครบตามข้อตกลง
6
Grom the Paunch ไอดอลของเหล่าก๊อบลินทั้งโลก
ศักราช IC ที่ 2420
o Grom the Paunch ก๊อบลินที่กินเนื้อโทรลเข้าไปจนกลายพันธุ์มีร่างกายใหญ่โต มันเริ่มขยายอำนาจมากขึ้นเรื่อยๆจนสามารถเรียก Waaagh ได้ กองทัพ Greenskins จำนวนมหาศาลไล่โจมตีปราการของคนแคระในเทือกเขา World’s Edge Mountains ลามไปจนถึง Empire จนวันหนึ่งก๊อบลินที่ปรึกษาของมันได้ยินเสียงกระซิบให้ไปทางตะวันตก มันจึงนำทัพมุ่งหน้าสู่ชายฝั่งทางตะวันตกของ Empire และต่อเรือออกทะเลไป หลังจากนั้นก็ไม่มีใครเห็น Grom ใน Old World อีกเลย
ศักราช IC ที่ 2425
o Grom the Paunch ได้ตามเสียงกระซิบของที่ปรึกษามันมาจนถึงเกาะ Ulthuan พวกมันได้ขึ้นฝั่งทางตะวันออกของเกาะและเข้าโจมตีเมือง Tor Yvresse เผาทำลายเมืองจนวอดวาย กองทัพ High Elves ที่ป้องกันเมืองอยู่นั้นมีจำนวนน้อยกว่ามากจึงไม่สามารถต้านทานไหว แต่ Eltharion the Grim ผู้พิทักษ์แห่ง Yvresse ได้ยกทัพเสริมมาช่วยได้ทันเวลา เมื่อเห็นสถานการณ์เริ่มเสียเปรียบพวกก๊อบลินก็เริ่มวิ่งหนีกัน Grom พยายามปลุกระดมกองทัพของตัวเองแต่ก็ไม่สำเร็จ สุดท้ายกองทัพ Waaagh ของ Grom ก็พ่ายแพ้ ไม่มีใครรู้ชะตากรรมของ Grom แต่หลายคนคิดว่ามันยังคงมีชีวิตอยู่ที่ไหนซักแห่ง
ศักราช IC ที่ 2430
o เมือง Marienburg และแคว้น Westerland ที่ร่ำรวยจากการค้าขายทางทะเลตัดสินใจจ่ายเงินจำนวนมากให้แก่จักรพรรดิ เพื่อขออิสรภาพแยกตัวออกจาก Empire จักรพรรดิองค์ปัจจุบันเห็นว่านี่คือการหยามหน้าจึงส่งกองทัพไปโจมตี Marienburg สุดท้ายกองทัพ Empire เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ ทำให้จักรพรรดิต้องยอมรับการประกาศแยกตัวของ Marienburg
Belegar Ironhammer ผู้ต้องการทวงบ้านเกิดคืน
ศักราช IC ที่ 2475
o Belegar Ironhammer คนแคระผู้สืบเชื้อสายมาจากกษัตริย์ Lunn ได้ขอกำลังเสริมจาก Thorgrim Grudgebearer และยกกองทัพของตนกลับไปทวงบ้านเกิด Karak Eight Peaks คืน พวกคนแคระสามารถยึดโถงชั้นบนสุดได้สำเร็จ แต่ก็ไม่สามารถรุกคืบต่อไปได้ เพราะจำนวนน้อยกว่ากองทัพก๊อบลินและ Skaven มาก จนเกิดเป็นสงคราม 3 ทางที่ไม่มีวี่แววจบสิ้น
ศักราช IC ที่ 2485
o Clan Mors ของ Skaven เริ่มมีอำนาจมากขึ้นเรื่อยๆ จนมีกำลังทหารเกือบเทียบเท่าสี่แคลนใหญ่แล้ว
o Greasus Goldtooth ได้แต่งตั้งตัวเองเป็น Overtyrant เทียบได้กับมหาราชาของเผ่า Ogre ทั้งปวง
ศักราช IC ที่ 2490
o Heinrich Kemmler เนโครแมนเซอร์ที่มีฉายา Lichemaster ได้ค้นพบที่ฝังศพของ Krell อดีตขุนศึกของ Nagash เขาจึงได้ร่ายเวทปลุกชีพมันขึ้นมาเป็นองครักษ์ส่วนตัว จากนั้นก็สร้างกองทัพ Undead ไปโจมตีอาณาจักร Bretonnia แต่ก็พ่ายแพ้จนต้องหนีไปกบดานในเทือกเขา Grey Mountains
Gotrek กับ Felix คู่หูมหาประลัยแห่งโลก Warhammer
ศักราช IC ที่ 2495
o นักรบชาวคนแคระ Gotrek และนักประพันธ์ชาวมนุษย์ Felix Jaeger ได้พบกันในระหว่างเหตุจราจลกลางเมือง Altdorf ทั้งคู่ได้กลายมาเป็นเพื่อนรักและออกผจญภัยไปด้วยกัน Gotrek นั้นต้องการหาคู่ต่อสู้ที่คู่ควรเพื่อให้ตนเองได้รับความตายอันทรงเกียรติตามวิถีลัทธิ Cult of Slayer ทำให้เขารับภารกิจเสี่ยงตายอยู่เสมอ ส่วน Felix ก็คอยจดบันทึกประวัติการผจญภัยมาแต่งเป็นหนังสือขาย ซึ่งตัวหนังสือก็ขายดีเอามากๆด้วย
5
o Skarsnik หัวหน้าเผ่าก๊อบลิน Crooked Moon ใน Karak Eight Peaks ได้ลอบโจมตีกองกำลังคนแคระของ Belegar จนเสียหายหนัก
Karl Franz และกริฟฟอนคู่ใจ Deathwings
ศักราช IC ที่ 2500
o Karl Franz Elector Counts แห่งแคว้น Reikland ได้ถูกโหวตเลือกเป็นจักรพรรดิองค์ใหม่ของ Empire คะแนนเฉือนคู่แข่งอย่าง Boris Todbringer Elector Counts แห่งแคว้น Middenland ไปเพียงนิดเดียว
o Gnashrak แม่ทัพออคได้รวบรวมไพร่พล Greenskins เพื่อบุกโจมตีปราการ Karaz-a-Karak ของคนแคระ แต่ถูกขัดขวางไว้โดยกองทัพของ Ungrim Ironfist กษัตริย์คนแคระจากปราการ Karak Kadrin
ศักราช IC ที่ 2505
o Empire ได้ร่วมมือกับ Wood Elves เพื่อช่วยกันปราบกองทัพใหญ่ Minotaur แต่ระหว่างการต่อสู้ Karl Franz พลาดท่าและได้รับบาดเจ็บหนัก Orion ได้เข้ามาช่วยชีวิต Karl Franz เอาไว้ หลังจบศึกทั้งสองฝ่ายได้ตกลงเป็นพันธมิตรกัน โดย Wood Elves จะส่งนักการทูตคนนึงไปประจำอยู่ที่ Altdorf และมอบไข่ใบนึงเป็นของขวัญให้ Karl Franz ด้วย ภายหลังไข่ได้ฟักออกมาเป็นลูกกริฟฟอนตัวนึง Karl Franz ได้ตั้งชื่อมันว่า Deathwings และใช้มันเป็นพาหนะประจำตัวนับแต่นั้นมา
3
Azhag the Slaughterer และไวเวิร์นคู่ใจ Skullmuncha
ศักราช IC ที่ 2515
o Azhag the Slaughterer แต่เดิมเป็นแค่หัวหน้าเผ่าออคปลายแถวในแดนเหนือ แต่มันได้ค้นพบมงกุฏ Crown of Sorcery ที่เป็นไอเท็มวิเศษของ Nagash โดยบังเอิญ เมื่อสวมใส่มงกุฏนี้ทำให้มันสามารถใช้เวทมนตร์ได้และมีสติปัญญามากขึ้น มันจึงเริ่มขยายอิทธิพลจนสามารถเรียก Waaagh ได้ มงกุฏมีเจตจำนงที่จะกลับไปหาเจ้านายเก่าของมันทางใต้ มันจึงกล่อมให้ Azhag ยกทัพบุกลงใต้อยู่เสมอ Azhag ได้สร้างความปั่นป่วนแก่ Kislev และแคว้นทางเหนือนานหลายปี ก่อนจะถูกสังหารลงโดยหัวหน้าภาคีอัศวิน Knights Panther
o Khazrak One-Eye ได้ขึ้นมาเป็นผู้นำสูงสุดของเหล่า Beastmen ในป่า Drakwald Forest
o Throgg ได้รวบรวมกองทัพโทรลและสัตว์ประหลาดจากแดนเหนือ จากนั้นก็เปิดศึกกับมนุษยชาติ
o Ogre จำนวนนึงที่ผันตัวเป็นทหารรับจ้างได้ถูกเรียกว่า Maneater ตามนามสกุลของ Golgfang Maneater ทหารรับจ้าง Ogre ที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก
Archaon the Everchosen ผู้นำพาวันอวสานโลกหรือ End Times
ศักราช IC ที่ 2520
o Boris Todbringer สูญเสียตาข้างนึงให้แก่ Khazrak One-Eye หลังจากนั้นทั้งคู่ก็กลายเป็นคู่แค้นกันชั่วฟ้าดินสลา
o Nyklaus von Carstein เบื่อเกมการเมืองภายในระหว่างแวมไพร์ด้วยกัน เขาจึงได้ใช้เวทเคลื่อนย้ายปราสาทของเขาไปอยู่ที่ Galleon's Graveyard หรือสุสานเรือแตกกลางมหาสมุทร จากนั้นเขาก็เปลี่ยนชื่อตัวเองเป็น Count Noctilus และควบคุมกองเรือผีสิง Dreadfleet
o Grimgor Ironhide แม่ทัพ Black Orc ได้เข้ายึดครองพื้นที่ทางเหนือของเทือกเขา World’s Edge Mountains และเริ่มไล่ฆ่าล้างบางทุกเผ่าพันธุ์ที่ขวางหน้า
o Settra the Imperishable เริ่มต้นแผนการยึดครองโลก
o หน่วยสืบข่าวของ Witch Hunter เริ่มได้ยินชื่อของ Nagash ตามเงามืดทั่วทั้ง Old World
o หลังจากผ่านมานานกว่า 200 ปี Archaon ก็ได้ทำภารกิจพิสูจน์ตนจากเทพ Chaos Gods สำเร็จหมดแล้ว เขาได้สวมมงกุฏ Crown of Domination และกลายมาเป็น Everchosen คนใหม่ จากนั้นเขาก็เริ่มรวบรวมกองทัพ Chaos ขึ้นมาใหม่อีกครั้งเพื่อบุกโจมตีโลก
o ดาวหางสองแฉกปรากฏขึ้นอีกครั้ง เป็นสัญญานบอกถึงเหตุการณ์สำคัญบางอย่างที่กำลังจะเกิดขึ้น
จบแล้วครับ ที่เหลือไปเล่นต่อในเกม Total War: Warhammer ทั้งสามภาคได้เลย ในเกมจะอยู่ในช่วงศักราช IC ที่ 2520+ นี่แหละ แต่เนื้อเรื่องมันจะดัดแปลงไปหลายอย่าง เช่น ตัวละครที่ตายไปแล้วอย่าง Vlad หรือ Azhag ก็ยังคงมีให้เล่นในเกมอยู่
ส่วนเหตุการณ์ในอีเวนท์ End Times ผมจะไม่ยกมาเล่านะครับ เพราะมันไม่ได้เกี่ยวข้องกับเกมเลยแม้แต่น้อย เนื้อเรื่องก็เละสุดๆด้วย
โฆษณา