26 พ.ค. 2021 เวลา 10:50 • ธุรกิจ
Edward O. Thorp จากเซียนไพ่ สู่ผู้จัดการกองทุนไร้พ่าย
1
โลกแห่งการพนัน เป็นโลกที่ดึงดูดให้ผู้คนมากมาย
เข้ามามีส่วนร่วมเพื่อแสวงหาผลตอบแทนมหาศาล
แต่หลายคนก็ต้องพบกับการสูญเสีย
เพราะผู้ที่กุมความได้เปรียบมากที่สุดในระยะยาว ก็คือ “เจ้ามือ”
3
แต่ไม่ใช่กับผู้ชายที่ชื่อว่า Edward O. Thorp
ผู้ที่เห็นช่องโหว่ในการทำกำไรจากการพนัน
และได้ใช้หลักการทางสถิติควบคู่ในการเล่น
จนทำให้กาสิโนหลายแห่ง ต่างห้ามไม่ให้เขาเข้ามาเล่นอีก
ซึ่งนั่นก็ทำให้เขาผันตัวกลายมาเป็นผู้จัดการกองทุนของ Princeton Newport Partners
ที่สามารถสร้างผลตอบแทนเฉลี่ย 15.1% ต่อปี เป็นระยะเวลาถึง 19 ปี
ที่สำคัญก็คือไม่มีปีไหนเลยที่ผลตอบแทนติดลบ
แล้วเรื่องราวของ Edward O. Thorp น่าสนใจอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
1
Edward O. Thorp เป็นชาวอเมริกัน
เกิดเมื่อปี 1932 ปัจจุบันมีอายุ 89 ปี
3
Thorp สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกสาขาคณิตศาสตร์ในปี 1958
หลังจากนั้นเขาก็เริ่มทำงานเป็นศาสตราจารย์ที่ MIT ในปีต่อมา
1
ขณะที่สอนอยู่ที่มหาวิทยาลัย Thorp หลงใหลในการใช้คณิตศาสตร์เพื่อไขความลับของการพนัน
เพื่อโต้แย้งแนวคิดที่ว่า ในโลกแห่งเกมการพนัน ไม่มีใครสามารถเอาชนะเจ้าของบ่อนได้ในระยะยาว
เขาจึงใช้เวลาหลายชั่วโมงในการสังเกตเกมต่าง ๆ เพื่อหารูปแบบของมัน เช่น เกมรูเล็ตต์
2
เขาสังเกตว่า การหมุนแต่ละครั้งจะเป็นอิสระต่อกัน
หมายความว่าอัตราต่อรองจะเท่าเดิมทุกตา
ไม่ว่าจะเล่นเมื่อใดหรือที่ใดก็ตาม
1
เกมไพ่แบล็กแจ็กเอง ก็เป็นหนึ่งในเกมการพนันที่เขาสนใจ
3
เกมไพ่แบล็กแจ็ก คือ เกมไพ่ชนิดหนึ่งที่ผู้เล่นแต่ละคน ต้องสร้างผลรวมของไพ่ให้ใกล้เคียงกับ 21 หรือให้มากกว่าเจ้ามือเพื่อเอาชนะ แต่หากเราทบไปจนผลรวมเกินกว่า 21 ก็จะถือว่าเราแพ้ทันที
Cr. eMoneySpace
จากกลไกตรงนี้ทำให้ Thorp พบว่าเกมไพ่แบล็กแจ็กนั้นต่างออกไป
เพราะความน่าจะเป็นจะแตกต่างกันไปตามไพ่ที่ถูกแจก
ต่อมา Thorp อ่านบทความเกี่ยวกับกลยุทธ์แบล็กแจ็กในวารสารทางสถิติ
บทความดังกล่าวดึงดูดให้เขาสนใจมากขึ้น
ถึงขนาดที่ว่าเขานำสถิติไปทดลองเพื่อเอาชนะในการพนัน
ต่อมาเขาก็ได้สร้างเครื่องคำนวณแบบพกพา
เพื่อนำไปใช้ทำนายความน่าจะเป็นของเกมไพ่แบล็กแจ็ก
ซึ่งพัฒนามาจากเครื่องคอมพิวเตอร์ IBM 704
2
และใช้เกณฑ์ของ Kelly ควบคู่ เพื่อกำหนดขนาดที่เหมาะสมของการเดิมพัน
โดยสูตร Kelly คือผลรวมของความน่าจะเป็นคูณผลตอบแทนหรือผลขาดทุน
หารด้วยผลตอบแทนสูงสุดที่จะได้รับจากการชนะเดิมพัน
ตัวอย่างเช่น หากเดิมพันด้วยการโยนเหรียญ
ถ้าออกหัว เราได้เงิน 10 บาท ถ้าออกก้อย เสียเงิน 5 บาท
ขนาดที่เหมาะสมของการเดิมพัน = [ (10 x 0.5) + (-5 x 0.5) ] / 10 = 25%
ดังนั้นเราควรนำเงินเพียง 25% มาเดิมพันในแต่ละครั้ง
4
โดยเกณฑ์ของ Kelly ถูกพัฒนาขึ้นในปี 1956 โดย J.L. Kelly, Jr.
และเกณฑ์ดังกล่าวก็ได้กลายเป็นสิ่งที่ผู้บริหารกองทุนเฮดจ์ฟันด์มักใช้ในการบริหารเงินทุน
หลังจากประดิษฐ์อุปกรณ์พกพาเรียบร้อยแล้ว
เขาก็นำไปทดสอบตามกาสิโนต่าง ๆ และก็พบว่ากลยุทธ์นี้ประสบความสำเร็จอย่างมาก
ทำให้สัปดาห์แรก เขามีกำไรอยู่ที่ 11,000 ดอลลาร์สหรัฐ
จากเงินตั้งต้นเพียง 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ
คิดผลตอบแทนเป็น 110% ในสัปดาห์เดียว
4
ต่อมาเขาจึงประดิษฐ์อุปกรณ์พกพาไว้ใช้สำหรับการเล่นเกมรูเล็ตต์
ซึ่งก็ประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลาย เช่นเดียวกับไพ่แบล็กแจ็ก
1
Cr. Engadget
ทำให้ชื่อเสียงของ Thorp เริ่มเป็นที่โด่งดังในวงการกาสิโน
มีผู้คนมากมายขอให้เขาสอนเคล็ดลับวิธีการเล่น
ปกติแล้ว Thorp เป็นคนที่สนใจการเผยแพร่ความรู้
มากกว่าการนำไปใช้เพื่อหาผลประโยชน์ส่วนตัว
ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะนำงานวิจัยและวิธีการคำนวณความน่าจะเป็นจากการนับไพ่
มารวมไว้ในรูปแบบหนังสือ เพื่อให้ทุกคนที่สนใจสามารถศึกษากันได้
ภายใต้ชื่อหนังสือ “Beat the Dealer”
หลังจากตีพิมพ์หนังสือออกไป
Beat the Dealer ก็ดังเป็นพลุแตกตามคาด
โดยยอดขายของหนังสือเล่มนี้ พุ่งไปถึง 700,000 เล่ม จนติด Best Seller
Cr. Amazon.com
และต่อมา Thorp พบว่าตัวเองโดนเหล่ากาสิโนทั่วประเทศ
สั่งแบนไม่ให้เขาเข้าไปเล่นอีกเลย
เรื่องนี้โด่งดังจนขนาดที่ว่าคณะกรรมการกลางของรัฐต้องเปลี่ยนกฎการแจกไพ่ใหม่
เพื่อป้องกันกลยุทธ์ดังกล่าว ที่จะสร้างผลกระทบให้กับธุรกิจกาสิโนทั่วประเทศ
2
และนั่นจึงทำให้ Thorp หยุดพักจากโลกการพนันเข้ามาสู่โลกการลงทุนแทน
Thorp เข้ามาทำงานร่วมกับ Sheen Kassouf นักเศรษฐศาสตร์ชาวอเมริกัน
โดยใช้ความรู้ด้านสถิติและการวิเคราะห์เพื่อค้นหาความผิดปกติของราคาหลักทรัพย์
3
ซึ่งสิ่งนี้นำไปสู่รากฐานของสิ่งที่ปัจจุบันเรียกว่าสูตร Black-Scholes
ที่สำหรับไว้ใช้บริหารความเสี่ยงของพอร์ตของพวกเหล่ากองทุน
3
ต่อมา Thorp เปิดตัวกองทุนเฮดจ์ฟันด์ที่ชื่อว่า Princeton Newport Partners
ซึ่งเป็นกองทุนสายควอนต์ หรือกองทุนที่ใช้ข้อมูลเชิงตัวเลข
นำมาคำนวณด้วยระบบทางคณิตศาสตร์เพื่อหาโอกาสในการลงทุน
2
โดยเขาได้เลือกใช้กลยุทธ์แบบ Market Neutral หรือการถือทั้ง 2 สถานะ
ทั้งฝั่งซื้อ (Long) และฝั่งขาย (Short) เพื่อลดความผันผวนของการลงทุนให้น้อยกว่าตลาด
ผสมเข้ากับหลักเกณฑ์ของ Kelly ในการหาขนาดการลงทุนที่เขาเคยนำไปปรับใช้กับการพนัน
4
นั่นทำให้ Thorp กลายเป็นผู้ที่มีอิทธิพลต่อแวดวงกองทุนเฮดจ์ฟันด์
จากการนำเกณฑ์ของ Kelly มาประยุกต์ใช้ในวงการลงทุนได้สำเร็จ
2
ซึ่งกองทุนของเขาก็สามารถสร้างผลตอบแทนเฉลี่ยหลังหักค่าธรรมเนียม
ได้มากถึง 15.1% ต่อปี เป็นระยะเวลายาวนานถึง 19 ปี และไม่มีปีใดเลยที่ขาดทุน
2
Cr. Engadget
ผลงานนอกจากการพนันและการลงทุน
4
Thorp เป็นผู้คิดค้นวิธีทางสถิติในการระบุว่ากองทุนของ Bernie Madoff เป็นการฉ้อโกง
หลายทศวรรษก่อนที่แชร์ลูกโซ่ของเขาจะล่มสลายในปี 2009
1
และเขาเป็นผู้ให้เงินทุนกับกองทุนเฮดจ์ฟันด์ Citadel กองทุนที่สามารถสร้างผลตอบแทนเฉลี่ย 19% ต่อปี เป็นเวลาติดต่อกัน 30 ปี
จนกลายมาเป็นกองทุนเฮดจ์ฟันด์ที่ใหญ่ติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก
ปิดท้ายด้วยคำกล่าวของ Thorp
“The surest way to get rich is to play only those gambling games or make those investments where I have an edge.”
4
แปลเป็นไทยคือ หนทางในการรวยก็คือการเล่นในเกมพนันหรือลงทุนในที่ที่เรามีความได้เปรียบ
คำกล่าวนี้สะท้อนให้เห็นว่า
ไม่ว่าสไตล์การลงทุนของเราจะเป็นแบบไหน
เราก็สามารถประสบความสำเร็จได้ไม่ต่างกัน
หากเรามีความเข้าใจในสิ่งนั้นจริง ๆ และรู้ว่าตัวเองอยู่ในฝั่งที่ได้เปรียบ..
4
โฆษณา