26 พ.ค. 2021 เวลา 11:20 • บันเทิง
อุทิศแด่ "คุณต้อ"...ศิลปินผู้มากฝีมือ
R.I.P. ครับ "คุณต้อ" (กุลวัฒน์ พรหมสถิต)
ขอกล่าวแสดงความเสียใจกับครอบครัว "พรหมสถิต"
ในการสูญเสีย "คุณกุลวัฒน์" ไป
..แม้จะกล่าวถึงล้าช้าไปบ้าง แต่ก็เสียใจ จริงๆครับ
"คุณต้อ" คือสุดยอดมือเบสคนแรกที่ผมสัมผัสได้ เมื่อกว่า 40 ปีที่แล้ว
ผมนำ EP.12 ที่ได้กล่าวถึงคุณต้อเอาไว้ มาเสนออีกครั้ง เพื่อแสดง
ความไว้อาลัยครับ...
ขอเชิญทบทวนเรื่องเล่าครั้งนั้นกันนะครับ...
EP.12 : “จเร..เพื่อนผู้พลีแล้วเพื่อการเล่นดนตรี”
ที่โรงเรียนวัดชิโนรส ตอน ม.ศ.1 ในห้องเรียน “จเร” นั่งกลุ่มเพื่อนหลังห้อง, ส่วนผมนั่งหน้าห้อง ด้วยความที่ปีนั่นผมยังขะมักเขม้น กับการเล่นฟุตบอลโรงเรียนอยู่ จึงไม่ได้สนิทสนมกับเพื่อนๆในห้องเรียนมากนัก
พอขึ้น ม.ศ.2 ผมกับจเร ถูกจัดให้นั่งคู่กัน ปีนั้นผมไม่ได้เล่นฟุตบอลโรงเรียนแล้ว และกำลังมีจิตใจฝักใฝ่ในเรื่องดนตรีอย่างมาก ขนาดว่าระหว่างเรียนพอมีเวลาเมื่อไหร่ผมก็จะวาดรูปลงในสมุดเป็นนักดนตรีผมยาวเล่นดนตรีกันทันที..
..แล้วจเร เขาก็เห็น
เขาเริ่มชวนคุยเรื่องเพลง, เรื่องวงดนตรี แล้วเราก็กลายเป็นเพื่อนที่มีเรื่องพูดคุยแลกเปลี่ยนกันอย่างออกรสมากขึ้นทุกวันๆ บางวันถึงขั้นชวนเพื่อนๆเคาะโต๊ะร้องเพลงกันอย่างสนุกสนาน
“จเร” เพิ่งจะได้เป็นสมาชิกใหม่ตำแหน่ง คีย์บอร์ด ของคณะ “Granite” วงดนตรีในถิ่นวัดสุวรรณาราม บ้านเขาอยู่ในชุมชน “บ้านบุ” ละแวกเดียวกัน, วง “แกรนิต” ใช้ห้องซ้อมของเฮีย “บุ๊ง” แถวปากซอยบางขุนนนท์ ..ผมได้ไปดูเขาซ้อม 2-3 ครั้ง ทำให้เห็นถึงพรสวรรค์ทางดนตรีของ “ต้อ” มือเบส (เรียนที่ ทวีธาภิเศก) และ “ป้อม” นักร้องนำ (เรียนที่ วัดสุวรรณาราม)
ยุคนั้นมีการจัดงานที่เรียกว่า “งานดิ้น” หรือ “งานปาร์ตี้” กันอยู่บ่อยๆ งานที่ว่าคือการ หาสถานที่กว้างพอสำหรับตั้งเวที และมีลานเป็นฟลอร์เต้นได้, เช่าเครื่องเสียง, จ้างวงดนตรีในราคาที่ลดหลั่นกันไป ถ้าวงดังเรียกคนมางานได้มากก็แพงหน่อย จนไปถึงวงน้องใหม่ที่แค่ต้องการให้คนรู้จักก็อาจจะไม่ต้องจ่าย มีการพิมพ์บัตรขายล่วงหน้า ราคาบัตรก็ขึ้นอยู่กับชื่อเสียงและจำนวนวงของงาน..
ผมกับวง “เดอะ พาร์ค” และเพื่อนๆเด็กสะพานยาว ก็ยังเคยจัดกัน
“Granite” นั้นยึดแนวดนตรีสำหรับเต้นรำเป็นหลัก จึงเสริม คีย์บอร์ด เข้ามา เพราะเป็นเครื่องที่สามารถเลียนเสียงเครื่องเป่าได้ด้วย และ “จเร” ก็ต้องใช้ความพยายามอย่างหนัก
ผมเห็นเขาท่องโน้ตบางเพลงที่เขาต้องเล่น ในห้องเรียนอยู่บ่อยๆ ซึ่งหากตอนนั้นพวกเขาเล่นดนตรีกันโดยใช้โน้ตเป็นหลัก นั่นหมายความว่าพวกเขาล้ำหน้าวงในวัยเดียวกันแถวฝั่งธนฯไปมากแล้ว
พรสวรรค์ของ “ต้อ” ที่นอกจากมีลีลาการเดินเบสจัดจ้าน, เสียงคมชัดแล้ว เขายังสามารถร้องเพลงได้ดีด้วย โดยเฉพาะเสียงหลบ อย่างเสียงของนักร้องอังกฤษที่ชื่อ “Leo Sayer” กับเพลง “You Make Me Feel Like Dancing”
...ลองฟังนะครับ
พวกเขามีเพลงที่โชว์เสียงร้องของ “ป้อม” อย่างหลาย เพลงของคณะ “Smokie” , “Sherbet” ฯลฯ
เพลง “Shadow Dancing” ของ “Andy Gibb” นักร้องผู้ล่วงลับ นั้นทำให้เสียงคีย์บอร์ดของ จเร โดดเด่นขึ้นมาก และทุกคนในวงก็ทำหน้าที่ได้อย่างดี โดยเฉพาะการร้องของ “ป้อม” ส่วนสำคัญที่ทำให้เป็นการแสดงที่ลงตัว..
...ผมหยิบเพลงนี้มาให้ฟังกันอีกครั้งครับ
ระยะหลัง เขาไม่มาโรงเรียนบ่อยขึ้น, บางวิชาไม่ได้สอบย่อย บางวิชาไม่ได้ทำงานส่ง...บ้านเขานั้นผมเคยไป อยู่ที่
“ชุมชนบ้านบุ” ผมจึงตัดสินใจไปตาม เห็นแต่แม่เขานั่งตอก
“ขันลงหิน” อาชีพหลักของคนในชุมชน ถามแม่แก บอกก็ไม่รู้ไปไหนเหมือนกัน ไม่เข้าบ้านมา 2-3 วันแล้ว
เปิดเทอม ม.ศ. 3 ผมไม่เห็น “จเร” มาเรียน..ตอนนั้นได้ข่าวว่าวง “Granite” ของเขาประสบความสำเร็จ ได้เล่นประจำที่
“โคลีเซียม สเก็ต” และมีงานเล่นกลางคืนอีกด้วย
ผมกับ “จเร” ไม่ได้เจอกันอีกเลย..จนถึงวันนี้
ส่วน “ต้อ” มือเบส เวลาผ่านไปประมาณ 20 ปี เรามีโอกาสได้พบกันโดยบังเอิญ ผมถามถึง "จเร" เขาก็ไม่ได้เจอนานมากแล้ว ตัวเขาเองขณะนั้นทำงานอยู่เบื้องหลังศิลปินหลายคนในค่ายเพลงเบอร์หนึ่งของเมืองไทย
ชื่อจริงเขาคือ "กุลวัฒน์ พรหมสถิต" เจ้าของเพลงไพเราะ "ไม่บังเอิญ"
มีเพลงหนึ่งที่ผมฟังทีไร ภาพของวง “แกรนิต” มักจะปรากฏขึ้นมา โดยเฉพาะลีลาการเดินเบสที่จัดจ้าน ของ “ต้อ” (กุลวัฒน์ พรหมสถิต)
นั่นคือเพลง..
“Ain’t Gonna Bump No More [with no Big Fat Woman]” ของ “Joe Tex” นักร้องอเมริกันผิวสี ที่เพลงแนวโซลและฟังกี้ ของเขาโด่งดังมากในช่วงระหว่าง ต้น 60 ถึงปลาย 70
R.I.P ครับ "คุณต้อ"
โฆษณา