ตำนานสุนัขสวรรค์กินจันทร์(天狗食月传说)
.
ในสมัยโบราณมีบุตรชายคนหนึ่งนามว่า “มหาโมคคัลลานะ(目犍连)” เขาเป็นคนที่มีความกตัญญูและจิตใจดีต่อมารดาเป็นอย่างมาก แต่มารดาของเขากลับเป็นคนที่ค่อนข้างดุร้ายและไม่ค่อยทำบุญมากนะ
.
มีครั้งหนึ่ง มารดาของโมคคัลลานะเกิดความคิดที่ไม่ดีขึ้นคือ นางได้สั่งซื้อหมั่นโถวใส่สุนัข 360 ลูกเพื่อนำไปตักบาตรที่วัดใกล้บ้าน โดยนางอ้างว่านี่คือหมั่นโถวเจ เมื่อโมคคัลลานะรู้เรื่องเข้า เขาจึงรีบเกลี้ยกล่อมมารดาและให้ไปตามใครสักคนไปบอกกับเจ้าอาวาส ฝ่ายเจ้าอาวาสก็นำหมั่นโถวเหล่านี้แจกจ่ายให้กับพระในวัด
.
หลังจากนั้นไม่นานเรื่องนี้ก็แดงไปถึงหูของเง็กเซียนฮ่องเต้(玉皇上帝)จนทำให้พระองค์รู้สึกโกรธเป็นอย่างมาก พระองค์ลงโทษโดยการนำแม่ของโมคคัลลานะไปโบยในนรกทั้ง 18 ขุนและต้องชดใช้กรรมโดยการเป็นสุนัขที่ดุร้ายและจะไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดอีกเลย เมื่อเป็นเช่นนี้โมคคัลลานะก็ได้รับบทเรียนแล้วว่าการทำชั่วย่อมตกนรกเช่นแม่ของตัวเอง ดังนั้นเขาจึงเริ่มศึกษาธรรมะอย่างขยันขันแข็งตั้งแต่เช้าจรดค่ำ ในที่สุดเขาก็บรรลุเป็น “พระกษิติครรภโพธิสัตว์(地藏王菩萨)” เพื่อไปช่วยเหลือมารดา ท่านจึงตามลงไปยังนรกด้วย
.
มารดาของพระโพธิสัตว์ที่ซึ่งขณะนี้ยังเป็นสุนัขร้ายนั้นได้ทำการหลบหนีออกจากขุมนรกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เนื่องมาจากนางเกลียดเง็กเซียนฮ่องเต้เป็นอย่างมาก นางจึงรีบขึ้นสวรรค์เพื่อคิดบัญชีกับพระองค์
.
เมื่อนางไล่ตามหาเง็กเซียนฮ่องเต้ไม่เจอ นางจึงเปลี่ยนมาไล่กลืนกินดวงอาทิตย์และดวงจันทร์เพื่อเปลี่ยนสวรรค์และโลกมนุษย์ให้กลายเป็นดินแดนที่ไร้ซึ่งแสงสว่าง
.
สุนัขร้ายตัวนี้เห่าหอนทั้งวันทั้งคืน เมื่อไล่ตามดวงจันทร์ได้ก็กลืนเข้าไปด้วยการงับเพียงครั้งเดียวและเมื่อตามดวงอาทิตย์ได้ก็กลืนเข้าไปด้วยเช่นเดียวกันจนทำให้ทั้งสามโลกถูกครอบงำด้วยความมืดมิด
.
แต่ทว่าสุนัขร้ายตัวนี้กลับกลัวเสียงฆ้องและกลองเป็นอย่างมาก เมื่อเป็นดังนี้ผู้คนบนโลกมนุษย์ถึงนำฝา กระทะ กลอง ฆ้องและประทัดมาจุดมาตีให้เกิดเสียงดังไปถึงสวรรค์เพื่อให้มันคายพระอาทิตย์และพระจันทร์ออกมา เมื่อมันได้ยินเสียงอึกทึกครึกโครมเช่นนี้ ด้วยความหวาดกลัวมันจึงยอมคายพระอาทิตย์และพระจันทร์ออกมาและทั้งสามโลกจึงกลับสู่แสงสว่างอีกครั้ง
.
ทว่าสุนัขตัวนี้กลับไม่ยอมแพ้เพียงเท่านี้ มันจึงไล่กลืนกินพระอาทิตย์และจันทร์อีกครั้ง เป็นเช่นนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนเป็นที่มาของปรากฏการณ์สุริยุปราคา(日食)และจันทรุปราคา(月食)นั่นเอง