Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
โกออน must Go On
•
ติดตาม
26 พ.ค. 2021 เวลา 15:49 • หนังสือ
Stephen King กล่าวว่า เท่าที่เขารู้ไม่มีอะไรแทน 2 สิ่งนี้ได้และไม่มีทางลัดอื่น คือ “อ่านให้เยอะ เขียนให้เยอะ” เท่านั้น
EP. WRITE
The Power of Output
ไม่ว่าคุณจะอยากพัฒนาตนเอง เพื่อใช้ในการทำงาน การเรียน หรือการใช้ชีวิตประจำวันก็ตามแต่ แต่ยังไม่รู้จะเริ่มจากสิ่งใด ทักษะหนึ่งที่ช่วยคุณในการดึงศักยภาพออกมาได้มากที่สุดคือ ทักษะด้านการเขียน จะว่าไปแล้ว ทางผู้เขียนมีวิธีมากทายหลายวิธีในการฝึก ซึ่งล้วนเป็นเรื่องใกล้ตัวที่ทำได้ง่ายค่ะ
• ยิ่งเขียนสมองยิ่งทำงาน ยิ่งอยากจำหรือสำคัญมากต้องยิ่งเขียนออกมาเพื่อกระตุ้น ที่เรียกว่า Cocktail Party Effect คือการระมัดระวังคัดกรองเอาสิ่งที่สำคัญมากไว้เหมือนเวลาอยู่ในงาน Party มีเสียงดังและสิ่งเร้ามากมาย หากมีเรื่องสำคัญสมองจะรับรู้สิ่งนั้นอย่างรวดเร็วและระมัดระวัง
• เขียนด้วยมือดีกว่าการพิมพ์มาก
• พยายามจดแทรกในหนังสือที่เราอ่าน หากมีความเห็นอื่น ๆ สามารถเขียนแย้งได้เลย ทำให้จดจำดีขึ้น
• หากมีเรื่องในหัว ให้นำมาเขียน สมองเราจัดการข้อมูลต่าง ๆ พร้อม ๆ กันได้ 3 เรื่อง เป็นการเคลียร์เอกสารออกจากถาดสมอง
• เมื่อทำ Input แล้วควรทำ Output ตอนไหน ตอนที่สมองจำดีที่สุด คือหลัง Input ทันที เขียนมาทันทีเลยค่ะ
• วาดรูปเล่นเป็นการใช้ความคิดนะคะ และสร้างความจำด้วย
• หากคุณเป็นคนที่ต้องการจะเป็นนักเขียนที่เก่ง Stephen King กล่าวว่า เท่าที่เขารู้ไม่มีอะไรแทน 2 สิ่งนี้ได้และไม่มีทางลัดอื่น คือ “อ่านให้เยอะ เขียนให้เยอะ” เท่านั้น
• เขียนบทความให้เร็ว โดยการกำหนดเวลาในการเขียน ภายในเวลาที่กำหนด
• ร่างเนื้อหาแล้วค่อยเขียน ทำให้เขียนเร็วขึ้น 3-4 เท่า คนส่วนใหญ่มักคิดไปเขียนไป
o รูปแบบพื้นฐานของการร่างบทความ
• หลังจากเขียนแล้วคราวนี้ก็พิมพ์ค่ะ พิมพ์ให้เร็ว ควรใช้สภาพแวดล้อมเดิม เช่น คอมพิวเตอร์ แป้นพิมพ์ เมาส์ ตัวเดิม และการใช้ Shortcut key เพื่อช่วยให้พิมพ์ได้เร็วขึ้น
• ทำ TO DO LIST ใช้เวลาเขียนเพียง 3 นาที เป็นพิมพ์เขียวสำหรับการทำงานใน 1 วัน อย่างไม่เสียสมาธิและลดความผิดพลาด ควรทำแล้ววางบนโต๊ะ ที่เราจะสามารถขีดฆ่าสิ่งที่อยู่ในรายการออกไปได้ง่าย เมื่อทำเสร็จ
• หากค้นพบไอเดียให้รีบเขียนโน้ตภายใน 30 วินาที เพราะพอผ่านไป 3 นาที เราก็มีโอกาสลืมแล้ว เหมือนกับความฝันเมื่อตื่นขึ้นผ่านไป 10 นาทีจะจำอะไรไม่ได้เลย หากอยากลองสร้างไอเดียลอง 4 ขั้นตอนนี้ดูก็ได้นะคะ
o เตรียมการ คือ อ่านหนังสือเอกสารต่างๆ จดโน้ต
o ระดมสมอง สู้กับประเด็นต่าง ๆ อย่างเต็มกำลัง
o การฟักไข่ คือการหยุดพักไม่ต้องคิดอะไร รอโดยไม่ต้องทำอะไรเลย ภายในช่วงนี้อาจเกิดไอเดียกะทันหัน
o ตรวจสอบ ขั้นตอนสุดท้ายว่าไอเดียที่ได้มานั้นถูกต้องหรือไม่
• สภาพภายในสมองตอนคิดไอเดียออกมีสภาพใกล้เคียงกับเวลาที่ เหม่อลอย อย่างมากและสถานที่เกิดไอเดียคือ 4B ได้แก่ Bathroom, Bus, Bed และ Bar สรุปได้ว่าไอเดียจะเกิดขึ้นเวลาที่ผ่อนคลายนั่นเอง ลองนั่งเหม่อๆดูบ้างก็ได้นะคะ
• การจดความคิดทั้งหมดให้บันทึกไว้ในสมุด 1 เล่ม แล้วจดให้หาเจอ อย่าจดโน้ตลงบนเอกสารที่ได้รับแจกอาจต้องค้นหานาน และอย่าจดละเอียดเกินไป เนื้อหา 1 ชั่วโมงต่อ 1 หน้าเพียงพอแล้ว จดเรื่องที่ “ค้นพบ” กับ “TO DO” ก็เพียงพอแล้ว
• การทำงานแบบอานาล็อก คือการเขียนลงบนกระดาษ เหมาะกับการร่างไอเดียต่าง ๆ ที่เป็นนามธรรมออกมาให้เป็นรูปร่าง ส่วนการทำงานแบบดิจิทัลเหมาะกับการเอาไอเดียทำมาให้เห็นเป็นรูปธรรม ลงรายละเอียดอย่างไรการทำงานต่าง ๆ ควรต้องมีทั้งสองส่วนผสมผสานกันเพื่อให้งานสมบูรณ์
• สามารถทำ 90 Slide ได้ภายใน 2 วัน โดยเริ่มจากศูนย์ ทำอย่างไร
o เขียนไอเดียออกมาคร่าว ๆ ประมาณ 2 หน้า กระดาษ A4 จะได้เนื้อหาสำหรับการพูด 90 นาที ลองสรุปทุกอย่างลงบน A4 หน้าคู่ได้ไหม
o กำหนดโครงสร้างโดยใช้ Outline แบ่ง Session ของเรื่องราวต่าง ๆ ที่ต้องการนำเสนอ
o นำเอา Outline มาทำ Slide อย่าทำไปคิดไป เสียเวลาสุดๆ
• Brainstorm โดยใช้ write board ทำให้คนมีส่วนร่วมและเป็นการใช้ output ร่วมกันอีกด้วย
• คอยรวบรวมข้อมูลอ้างอิงอยู่เสมอ เก็บบันทึกเผื่อใช้ในอนาคต
• การเขียนหากว่าคุณต้องการที่จะสนับสนุนข้อมูลการเขียนให้ดูมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น คุณสามารถที่จะลองเข้าไปใช้บริการของทั้ง 3 เวบไซด์นี้ได้
o Google Scholar เป็นงานค้นคว้าวิจัย วิทยานิพนธ์
o Google Books รวบรวมหนังสือต่างประเทศที่น่าสนใจไว้อย่างมากมาย
o Pubmed งานวิชาการทางด้านการแพทย์
• หากได้ข้อมูลต่าง ๆที่ต้องการเขียนแล้ว มาลองย่อความที่น่าสนใจกันดูก็ได้ โดยลองทำใน Twitter ซึ่งสามารถสรุปความได้เพียง 140 ตัวอักษร โดยใช้เวลาไม่เกิน 5 นาที เพื่อเป็นการฝึกฝนการเขียน
• มาลองตั้งเป้าหมายที่ทำให้ Output ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตามสำเร็จและไม่ลืมที่จะกำหนดระยะเวลาด้วย โดยมีวิธีดังนี้
• อย่าลืมบอกเป้าหมายในหัวให้คนอื่นรู้ เพื่อเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่น และตั้งใจทำเพื่อให้บรรลุความสำเร็จ เช่นต้องการยอดขาย 1 ล้านบาทต่อเดือน บอกให้กับผู้อื่นได้รู้ แล้วกลับมา Feedback ประเมินความสำเร็จทุกสิ้นเดือนเป็นต้น
• ระหว่างทางของการทำงาน เราสามารถรวมรวมข้อมูลต่าง ๆได้ทุกวันเมื่อเก็บได้ประมาณ 70-80% แล้ว เราสามารถรวบรวมไอเดีย เพื่อทำงานได้แล้ว ดังนั้นการทุ่มเทหาข้อมูลจึงเป็นเรื่องที่สำคัญยิ่ง
• จงสนุกกับการเขียน โดยการหาอุปกรณ์ที่เพื่อให้เราสนุกกับการเขียน
• อย่าลืมที่จะทำแบบฝึกหัดกับทุกอย่างที่คุณต้องการ เพราะ อัตราส่วนของการ Input และ Output อยู่ที่ 3 ต่อ 7 ใช้เวลาอ่านให้เร็วและจงใช้เวลาในการทำแบบฝึกหัดอีกเป็นเท่าตัว
เป็นอย่างไรบ้างคะ ในส่วนนี้เป็นเพียงส่วนของการเขียนที่มีประโยชน์มาก หากชอบหนังสือเล่มนี้สามารถติตตามตอนสุดท้ายคือ DO ได้ในเร็ว ๆ นี้ค่ะ หากต้องการส่วนขยายของแต่ละตอน สามารถหาอ่านได้เป็นตอนๆ ได้อีกค่ะ
1 บันทึก
3
1
3
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย