27 พ.ค. 2021 เวลา 03:27 • ดนตรี เพลง
The Smiths - The Smiths (1984)
หลังจากเซ็นสัญญากับสังกัดอินดี้ Rough Trade วง The Smiths ก็เริ่มเตรียมตัวสำหรับบันทึกเสียงอัลบั้มแรกของพวกเค้าในช่วงกลางปี 1983 ทางวงเลือก Troy Tate (อดีตมือกีต้าร์ของ The Teardrop Explodes) มาเป็นโปรดิวเซอร์จากคำแนะนำของ Geoff Travis เจ้าของสังกัด โดยบันทึกเสียงกันที่ Elephant studios ในย่าน Wapping กรุงลอนดอน ทางวงบันทึกเสียงไป 14 เพลงสำหรับเซสชั่นนี้
มือกีต้าร์ Johnny Marr บอกว่าเขาชอบการทำงานกับ Troy "มุมมองของ Troy คือเขาพยายามจะเก็บบรรยากาศเหมือนตอนวงเล่นสด เขาคิดว่ามันเป็นสิ่งสำคัญที่อัลบั้มจะนำเสนอในสิ่งที่เหมือนกับตอนเราเล่นในคลับ และแสดงให้เห็นถึงสิ่งวงเป็น เขาทำงานอย่างหนักเพื่อเก็บอารมณ์เหล่านั้นจากสิ่งที่เราเล่น และเขาก็ดูแลผมดีมากๆด้วย" แต่ในเซสชั่นนี้ก็มีอุปสรรคมากมาย เนื่องจากอากาศที่ร้อนจัดของกรุงลอนดอนในขณะนั้น The Smiths อัดเสียงกันในสตูดิโอใต้ดินอันแสนอบอ้าว Marr บอกว่านอกเหนือจากความไม่สบายตัวเนื่องด้วยอากาศที่ร้อนแล้ว มันยังส่งผลให้เครื่องดนตรีอย่างกีต้าร์และเบสนั้นเสียงเพี้ยนง่ายขึ้นด้วย
หลังจากได้ฟัง Rough Mix ของเซสชั่นนี้ Travis เจ้าของสังกัดยังไม่ค่อยประทับใจกับมันนัก เขาส่งเทปนี้ให้กับ John Porter ที่เป็นโปรดิวเซอร์ของ BBC session เพื่อขอความคิดเห็นและคาดหวังให้เขารีมิกซ์มันใหม่ แต่ Porter นั้นเสนอให้อัดมันใหม่ทั้งหมดเนื่องจาก "มีหลายเพลงที่เสียงเพี้ยนและเล่นกันไม่ค่อยตรงจังหวะ"
ด้วยงบประมาณที่มีจำกัด Porter พา The Smiths ไปบันทึกเสียงกันที่ สตูดิโอ Pluto ในเมืองแมนเชสเตอร์ โดยพวกเขาจะเริ่มงานกันในตอนเย็น เนื่องจากช่วงกลางวันสตูดิโอถูกจองสำหรับอัดงานโฆษณาทั้งของโทรทัศน์และวิทยุ ในห้องคอนโทรลรูมนั้นใช้บอร์ดคอนโซลของ Trident Series 80 และเครื่องอัดเทปของ Studer A800 แบบ 24 แทร็ค พวกเขาอัดเบสิคแทร็กกันที่นี่ โดยเล่นพร้อมกันหมด เอนจิเนียร์ Phil Bush บอกว่าเขาตั้งไมค์แบบมาตรฐานทั่วไป โดยกลองชุดใช้ไมค์ Shure SM57 หรือ SM58 จ่อที่สแนร์, Sennheiser MD441 ที่กลองทอม, Neumann KM 84 ที่ไฮแฮท และ AKG D12 หรือ D24 ที่เบสดรัม โดย Bush นั้นบอกว่าที่เขาจำได้ดีคือคอลเลคชั่นกีต้าร์ทั้งของ Johnny Marr และ John Porter ที่เตรียมมาใช้บันทึกเสียง "มันเหมือนสวรรค์ของคนเล่นกีต้าร์เลย โดยเฉพาะ Telecaster ปี 54 ตัวนั้น เสียงมันสุดยอดมาก"
หลังจากใช้เวลาร่วมสัปดาห์ที่สตูดิโอ Pluto พวกเขาย้ายไปที่สตูดิโอ Eden ในกรุงลอนดอนเพื่อทำการโอเวอร์ดับและมิกซ์บนบอร์ดคอนโซลของ SSL 4000 ในหลายๆเพลงนั้น Porter มีส่วนร่วมในการเรียบเรียงอย่างเช่นเพลง "What Difference Does It Make?" โดย Porter เล่าว่า "มันเป็นเพลงที่ยาวและราบเรียบ มันเป็นชุดคอร์ดแบบ 30 ห้องที่วนไปวนมาในแบบที่ไม่ปรกติ ไม่มีท่อนเวิร์ส เหมือนกับมีท่อนเริ่มต้นและท่อนต่อไป พวกเขาจะเริ่มเล่นและ Morrissey ก็จะร้อง เมื่อเขาหยุดร้อง วงก็จะเล่นไปเรื่อยๆจนเขากลับมาร้องอีกครั้ง สำหรับการทำเพลงแล้วไม่ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีเท่าไหร่ เพราะมันยังไม่มีโครงสร้างเพียงพอ สิ่งที่ผมทำอย่างแรกเลยคือเพิ่มท่อนอินโทร"
อินโทรของ Porter คือการให้ Marr เล่นท่อนริฟฟ์ที่เป็นเอกลักษณ์ของเพลงนี้ ก่อนที่กลองจะเข้ามาและตามด้วยเสียงร้องของ Morrissey ซึ่งยังมีริฟฟ์กีต้าร์เล่นควบคู่ไปด้วยแต่ใช้แค่กีต้าร์ตัวเดียวเพื่อสร้างความแตกต่าง "ทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนท่อนจะมีการเพิ่มบางอย่างเข้าไป" Porter อธิบาย "ในท่อน A รอบที่สองเราเพิ่มฮาร์โมนี่เข้าไปในลิคกีต้าร์ ในท่อน B รอบที่สองผมก็เพิ่มพาร์ทฮาร์โมนี่แบบอื่นเข้าไป ในรอบสุดท้ายเราเพิ่มเสียงเอฟเฟคเหมือนกำลังเล่นกันอยู่ในโรงเรียนเข้าไป ในตอนแรกที่พวกเขาเล่นเพลงนี้ให้ผมฟังนั้น มีแค่ลิคกีต้าร์ที่วนแบบเดิมตลอดสี่นาทีโดยไม่มีไดนามิคอะไรเลย แต่ในตอนนี้มันเริ่มต้นด้วยกีต้าร์ไลน์เดียว และจบด้วยกีต้าร์ 15-16ไลน์"
"เรายังใส่เสียงเปียโนที่เล่นกลับหลังลงไปด้วย" Porter บอก "พวกเขาดูสนใจและตื่นเต้นกับมันมาก ซึ่งเสียงรีเวิร์สเอฟเฟคพวกนี้ต่อมาถูกเพิ่มเข้าไปในหลายๆเพลงของพวกเขา ตอนที่เราสร้างเสียงเอฟเฟคนี้ Johnny ดูจะสนใจมากถึงกระบวนการทำ ซึ่งเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยม"
Neill King เอนจิเนียร์ประจำสตูดิโอบอกว่า "ส่วนสำคัญของซาวด์กีต้าร์นั้นมาจากการเล่นของ Johnny เขาเป็นมือกีต้าร์ที่เก่งและมีคอลเลคชั่นกีต้าร์มากมายทั้งแบบ Semi-acoustic และ Solid body ทำให้เราสามารถทดลองหาซาวด์ที่แตกต่างได้"
King เล่าถึงตอนที่ Morrissey อัดร้องว่า "เขาอนุญาตให้มีแค่ผมกับ John Porter สองคนเท่านั้นในห้องคอนโทรลรูม ส่วนเขาจะอยู่ในห้อง live รูม ที่หรี่ไฟจนเกือบมืด เขาจะนั่งบนเก้าอี้และหันหลังให้กับห้องคอนโทรลรูม เขาต้องการความเป็นส่วนตัวมากๆ" Morrissey นั้นไม่ชอบการใส่เสียงเอฟเฟคกับเสียงร้องของเขา Porter บอกว่า "ถ้าคุณได้ยินเสียงเอฟเฟคกับเสียงร้องของเขานั่นแปลว่ามันเกิดการต่อรองมาพอสมควรแล้ว ผมใช้ดีเลย์รีเวิร์บของ EMT 250 แต่เปิดไว้แค่เป็นแบ็คกราวด์เท่านั้น"
สำหรับไมค์ที่ใช้ในสตูดิโอ Eden สำหรับอัดร้องคือ Neumann FET47 ส่วนไมค์จ่อตู้กีต้าร์คือ Shure SM57 และ Neumann U87 สำหรับเก็บรูม และใช้ปรีไมค์บนบอร์ด SSL โดย Johnny Marr จะเล่นกีต้าร์ในห้องคอนโทรลรูมส่วนแอมป์จะตั้งไว้ในห้อง live รูม
หลังจากฟังอัลบั้มมิกซ์เสร็จแล้วในเดือนต่อมา Morrissey บอกกับ Porter และ Travis เจ้าของสังกัดว่าตัวอัลบั้มนั้นยังออกมาไม่ดีเท่าที่ควร แต่เนื่องจากหมดเงินไปกว่า 6,000 ปอนด์สำหรับการทำอัลบั้ม พวกเขาเลยบอกว่า "มันถึงเวลาต้องปล่อยแล้วล่ะ เราถอยกลับไม่ได้อีกแล้ว"
...
#สตูดิโอแลนด์
#TheSmiths
โฆษณา