คุณดารา (นามสมมติ) ได้อยู่กินกับสามีโดยไม่จดทะเบียนสมรส คุณดาราติดเครดิตบูโร ทำให้ทำธุรกรรมยาก คุณดาราและสามีต้องการจะซื้อบ้านร่วมกัน จึงได้ใช้วิธีใช้ชื่อสามีและน้องสาวของสามีเป็นผู้กู้ แต่เวลาผ่อนสามีและคุณดาราผ่อนร่วมกันคนละครึ่ง ต่อมาคุณดารามีปัญหาเลิกรากับสามีแต่ตนเองไม่มีชื่อเป็นผู้มีสิทธิในบ้านหลังนี้ทั้งที่ตนเองร่วมกันผ่อนมาตลอด อีกทั้งเวลาจ่ายเงินค่างวดคุณดาราก็ส่งเงินสดให้สามีเป็นผู้จ่าย
คุณเพียงพร (นามสมมติ) อยู่กินกับสามีโดยไม่จดทะเบียนสมรส มีลูกสาว ๑ คน อายุ ๕ ขวบ สามีไปจดทะเบียนสมรสกับหญิงคนใหม่และออกจากบ้านคุณเพียงพรไป โดยไม่ได้ส่งเสียเลี้ยงดูลูกอีกเลย คุณเพียงพรพยายามติดต่อให้อดีตสามีส่งเสียเลี้ยงดูลูก ไม่นานภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายก็ให้ทนายส่งโนติสเตือนไม่ให้คุณเพียงพรมายุ่งกับสามีอีก
คุณสุชาติ มีบุตรผู้เยาว์สามคนที่เกิดจากภริยาที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส และคุณสุชาติยังไม่ได้จดทะเบียนรับรองบุตร (เท่ากับว่าคุณสุชาติไม่ได้เป็นบิดาโดยชอบด้วยกฎหมาย) ต่อมาเลิกรากันกับมารดาของเด็ก โดยมารดาเด็กสั่งห้ามไม่ให้คุณสุชาติมาพบกับลูกอีกและปฏิเสธว่าคุณสุชาติไม่ใช่บิดาของเด็กทั้งสามคน
คุณจินตนา (นามสมมติ) อยู่กินกับสามีโดยไม่จดทะเบียนสมรส สามีออกรถยนต์โดยคุณจิตนาเป็นผู้ค้ำประกัน ระหว่างที่ยังผ่อนรถอยู่นั้น คุณจินตนาได้เลิกกับสามีและแยกย้ายกันไปโดยสามีนำรถไปด้วย ต่อมามีหมายศาลมาถึงคุณจินตนาโดยเธอถูกฟ้องให้ชำระหนี้ในฐานะผู้ค้ำประกัน
คุณนภาพร (นามสมมติ) อยู่กินกับสามีโดยไม่ได้จดทะเบียนสมรส สามีเธอมีปัญหเครดิตบูโร ไม่สามารถซื้อรถได้ เธอจึงออกรเป็นชื่อของเธอให้สามีใช้ ต่อมามีปัญหาทะเลาะเลิกรากัน จึงตกลงแบ่งทรัพย์สินที่ทำมาหาได้ร่วมกัน โดยสามีขอรถไว้ใช้และตกลงว่าจะผ่อนเองจนหมด ต่อมาไม่นานคุณนภาพรถูกฟ้องคืนรถและชำระหนี้ค้าง แต่คุณจินตนาไม่สามารถติดต่อสามีได้และไม่ทราบว่าเขาไปอยู่ที่ไหน
คุณดำรงธรรม (นามสมมติ) ได้เลิกรากับภรรยาที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส ระหว่างอยู่กินกันมีบุตรสี่คน โดยคุณดำรงธรรมเป็นผู้ปกครองเลี้ยงดูบุตรฝ่ายเดียวตลอดมา ต่อมาประสงค์จะจดทะเบียนรับรองบุตร แต่ไม่สามารถกระทำได้เนื่องจากต้องได้รับความยินยอมจากมารดา และมารดาก็ไม่ประสงค์จะมาให้ความยินยอม