29 พ.ค. 2021 เวลา 00:49 • สุขภาพ
มีแต่คนอ่อนแอเท่านั้น ที่ชอบบูลลี่คนอื่น
1
สิ่งที่ต้องรู้คือ ไม่ใช่เขาทำอะไร
แต่ทำไมเขาจึงทำแบบนั้นต่างหาก❓
..
2
Bully บูลลี่ ถูกพูดถึงมากขึ้นในระยะหลัง ทั้งที่การบูลลี่มีมานานแล้ว
นับตั้งแต่มนุษย์อยู่ร่วมกันเป็นสังคม
3
ในอดีตที่คนยังไม่ใช้คำว่าบูลลี่กันถี่แบบเดี๋ยวนี้
การบูลลี่ ถูกเข้าใจว่าคือการกลั่นแกล้ง การล้อเล่นกันตามวัย ตามธรรมชาติ ไม่มีอะไรต้องน่ากังวล
2
จนมาระยะหลัง มีการศึกษาผล
กระทบจากการถูกกลั่นแกล้ง
ถูกรังเกียจทางสังคมมากขึ้น
พบว่าการถูกบูลลี่มีผลต่อพฤติกรรมในอนาคตของคนที่ถูกบูลลี่สูงมาก
1
นักจิตวิทยาแบ่งการบูลลี่ออกเป็น
4 รูปแบบ คือ
1).การบูลลี่ทางคำพูด
การบูลลี่ด้วยวาจา เรียกว่าเป็น
การบูลลี่ด้วยการพูดจาถากถาง ดูถูก การใช้ถ้อยคำหยาบคาย
การพูดในเชิงรังเกียจ เย้ยหยัน
2).การบูลลี่ทางสังคม
การบูลลี่ทางสังคม ก็คือการแสดงออกทางสังคมในเชิงกดดัน การทำเสมือนคนถูกบูลลี่แปลกแยกจากคนอื่น
3).การบูลลี่ทางร่างกาย
พูดง่าย ๆ ก็คือการทำร้าย กลั่นแกล้งด้วยกำลัง เช่นการตบหัว ทุบตี เอาน้ำสาด เดินขัดขา เหล่านี้เป็นต้น
1
4).การบูลลี่ผ่านสื่อออนไลน์
การบูลลี่ผ่านสื่อออนไลน์หรือที่เรียกว่า cyber bully นับว่าเป็นการบูลลี่ที่เกิดขึ้นสูงมากในปัจจุบัน
ไม่ว่าจะเป็นการข่มขู่ คุกคามทางเพศ การหลอกลวง การด่าทอ ดูหมิ่น เหยียดหยามผ่านสื่อโซเชี่ยลต่าง ๆ
..
มีการสำรวจจากองค์กรเพื่อความร่วมมือและพัฒนาทางเศรษฐกิจ(OCED)พบว่าผู้หญิงจะเป็นเหยื่อของการถูกบูลลี่มากกว่าผู้ชายและเรื่องที่ถูกบูลลี่มากเป็นอันดับหนึ่งคือ รูปลักษณ์ภายนอก เรื่องของรูปร่างหน้าตา สีผิวและเชื้อชาติ
..
จากการศึกษาด้านจิตวิทยาของมหาวิทยาลัย Sinai ในนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา
พบว่ากลไกในสมองของคนที่ชอบบูลลี่คนอื่น จะหลั่งโดปามีนออกมาทำให้เกิดความพึงพอใจเสมือนการให้รางวัล เมื่อคน ๆ นั้นทำการบูลลี่ผู้อื่นสำเร็จ
และเมื่อทำการศึกษาต่อไปยังข้อมูลด้านพฤติกรรมและประสบการณ์ชีวิตจะพบลักษณะความเหมือนที่น่าสนใจของคนที่ชอบบูลลี่คนอื่นดังนี้
2
1).เคยถูกแกล้งมาก่อน
1
คนที่ชอบบูลลี่คนอื่นจำนวนไม่น้อย เคยเป็นเป้าของการบูลลี่มาก่อน เช่นตอนเป็นเด็กปี 1 ถูกรุ่นพี่กลั่นแกล้ง เมื่อตนเองมาเป็นรุ่นพี่ ก็มีพฤติกรรมชอบกลั่นแกล้งรุ่นน้องแบบเดียวกับที่ตนเองเคยโดนกระทำ
3
2).มีความรู้สึกโดดเดี่ยว
1
หลายคนเป็นคนที่ครอบครัวไม่ให้ความสนใจเท่าที่ควร รู้สึกว่าตัวเองถูกทอดทิ้ง จึงระบายออกมาด้วยการทำให้คนอื่นถูกรังเกียจ เพื่อที่จะให้ได้รับความรู้สึกเดียวกับตน
3).ไม่พึงพอใจในตัวเอง
1
คนมีจุดอ่อนด้านร่างกาย เช่นหน้าตาไม่หล่อ ไม่สวย ผิวขาวไป คล้ำไป อ้วนหรือตัวเตี้ย คนเหล่านี้มีโอกาสเป็นคนที่ชอบบูลลี่คนอื่นได้เช่นกัน หากไม่อาจยอมรับความเป็นตัวเองได้
4).มีอีโก้สูง
เหตุผลข้อนี้ ตรงกันข้ามกับข้อเมื่อสักครู่เลยครับ
คือคนบางคนชอบบูลลี่คนอื่นเพราะมีความยึดมั่น ถือมั่นในตัวเองมากเกินไป จนมองคนอื่นต่ำต้อย ด้อยค่า
ความเชื่อใด ๆ ที่ไม่ตรงกับตน
คนเหล่านี้จะยอมรับไม่ได้และทนที่จะอยู่นิ่งเฉยได้ลำบาก
5).เราแตกต่างกัน
หลายครั้งการบูลลี่ก็เกิดจากความไม่เข้าพวก ไม่ว่าจะมาจากเชื้อชาติ ภาษา สีผิว
สิ่งเหล่านี้กลายเป็นเหตุผลง่าย ๆของการบูลลี่กัน
โดยที่ไม่ได้สนใจนิสัยใจคอที่แท้จริงของแต่ละบุคคลเลย
1
..
หากพิจารณาดูจะพบว่า คนที่มีนิสัยชอบบูลลี่คนอื่น ล้วนมาจากคนที่มีพื้นฐานความอ่อนแอทางจิตใจทั้งสิ้น
เพราะคนที่มีความเข้มแข็งทางจิตใจ จะรู้จักยับยั้ง แยกแยะ ก่อนที่จะแสดงพฤติกรรมแย่ ๆ ออกมา
..
1
ในประเทศไทยเอง ก็ไม่น้อยหน้าใครเรื่องการบูลลี่
ในปี 2020 เราเคยติดอันดับสองของโลกเรื่องสถิติการบูลลี่กันในสังคม โดยเป็นรองแค่ญี่ปุ่นประเทศเดียว
1
เรื่องที่คนไทยชอบบูลลี่กันมากที่สุดก็คือรูปร่างหน้าตาและเพศ ฯ
คำบูลลี่ยอดนิยมของคนไทยก็คือคำว่า ไม่สวย, ไม่หล่อ, หน้าเบี้ยว, ขี้เหร่, หน้าหัก, หน้าปลอม, เหยิน, เหม่ง, ตุ๊ด, สายเหลือง, ขุดทอง, กะเทย, โสเภณี, กะหรี่, แมงดา, ชะนี, แรด,ผอม, เตี้ย, สิว, ดำ, ขาใหญ่, จอแบน, , หากระโปรงมาใส่, โง่, สลิ่ม, ตลาดล่าง, ปัญญาอ่อน, ต่ำตม, ไดโนเสาร์ เป็นต้น
การบูลลี่ แก้ไขได้ โดยเริ่มจากตัวเราเองต้องไม่แสดงพฤติกรรมบูลลี่คนอื่น ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม
2
รวมทั้งไม่ส่งเสริม สนับสนุนคนที่ชอบบูลลี่ ในทุก ๆ ช่องทาง
..
1
จำไว้นะครับ
ถ้าคุณเป็นคนเข้มแข็ง คุณจะไม่บูลลี่ใคร
เพราะมีแต่คนอ่อนแอเท่านั้น ที่บูลลี่คนอื่น
..
ติดตามอ่านบทความได้ที่
1

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา