27 พ.ค. 2021 เวลา 22:59 • นิยาย เรื่องสั้น
[เล่าผีEP.30] สยองขวัญผีนางรำมารำด้วย
เรื่องนี้เกิดขึ้นตอนเราม.5 เราได้ถูกอาจารย์คัดเลือกให้รำเปิดพิธีเปิดตึกเรียนใหม่
การแสดงมีหลายชุด ชุดแรกเป็นรำอวยพร ชุดที่สองเป็นรำสุโขทัย
ส่วนเรารำระบำกฤษดาภินิหารคู่กับตัวพระซึ่งเป็นกระเทยเพื่อนเราเอง
ปกติรำกฤษดาภินิหารจะนิยมรำ2คู่ คือตัวพระ2 ตัวนาง2 แต่ด้วยความที่
ตัวพระของโรงเรียนเรานั้นหายาก จึงรำแค่คู่เดียวคือเรากับเพื่อน ทุกครั้งที่ซ้อม
เราจะไหว้พ่อแก่ทุกครั้ง และกล่าวขอโทษทุกครั้งหากรำผิดพลาดตรงไหน
เรารู้สึกใจหวิวๆตั้งแต่ตอนซ้อมก่อนวันงาน2อาทิตย์แล้ว แต่เราก็คิดซะว่าเราคงคิดมากไปเอง
เพราะกระเทยเพื่อนเรานางก็พอมีเซ้นแต่นางไม่ได้พูดหรือทักอะไร เราจึงไม่คิดอะไรมาก
ทุกวันตอนเรารอซ้อมรำพร้อมเพื่อน เราจะซ้อมท่าต่างๆรอก่อน
ห้องซ้อมรำจะเป็นห้องกระจกนะคะกระจกรอบห้องเลย ด้านหลังบนสุดจะเป็นพ่อแก่
ถัดมาจะเป็นพวกชฎา เกี้ยวหัว และชุดไทย เครื่องประดับต่างๆ ตรงเหนือกระจกกลางห้อง
จะมีหุ่นนางรำตัวพระกับตัวนางวางอยู่ข้างบน ทุกครั้งที่รอเพื่อนมา เราก็จะทบทวนท่ารำ
เพื่อให้ซ้อมไวขึ้นจะได้กลับบ้านเร็ว น้องๆที่รำชุดอื่นก็จะทยอยกลับบ้านแล้ว
เพราะเวลาเลิกเรียนของม.5คือ 5โมงเย็นกว่าเราจะลงมาซ้อมรำ เด็กๆก็กลับกันเกือบหมดแล้ว
วันนั้นเราซ้อมรำอยู่คนเดียวแต่ความรู้สึกเหมือนมีคนมองอยู่ตลอด เวลาเอียงหัวรำท่าต่างๆ
หางตาจะมองเห็นเหมือนมีคนมารำด้วย ตอนนั้นเรากลัวมากเหงื่อแตกเต็มไปหมด
ทั้งๆที่ห้องซ้อมรำเป็นห้องแอร์
“แกร๊ก” กระเทยเพื่อนเราเปิดประตูเข้ามา มันทำหน้างงๆแล้วถามเราว่า
“เมื่อกี้ครูออกมาดูท่าให้หรอ เห็นยืนรำท่าเดียวกันเลย” เราเงียบไม่พูดจนเพื่อนสังเกตุได้ว่า
เราหน้าซีด จึงให้พักก่อนแล้วค่อยมาซ้อมกันก่อนจะกลับบ้าน
คืนก่อนวันจริงเรารีบเข้านอนตั้งแต่หัวค่ำเพราะต้องรีบไปโรงเรียนแต่เช้า
ช่วงที่เรากำลังเคลิ้มจะหลับเราเห็นเงาจากแสงที่ลอดมาจากหน้าต่างตรงกลางห้อง
เราเห็นเหมือนผู้หญิงกำลังร่ายรำอย่างอ่อนช้อย เรารีบข่มตาแล้วท่องนะโมตัสสะจนเผลอหลับไป
พอตื่นนอนเรารีบออกจากบ้านตั้งแต่ตี5เพื่อไปแต่งหน้าทำผม ตั้งแต่ก้าวออกจากบ้าน
หมาก็หอนทันที เหมือนกับมันนัดกันหมาในซอยหอนดังลั่น
จนพ่อเราขี่รถมอไซด์ออกมาเพื่อไปส่งเรา พอมาถึงโรงเรียนเราก็มาแต่งหน้าทำผมทันที
การแต่งกายของระบำกฤษดาภินิหารเป็นชุดเครื่องใหญ่หากนึกไม่ออกให้นึกถึง
ชุดนางสีดาในเรื่องรามเกียรติ์ไว้นะคะ ชุดแบบนั้นเลย พอแต่งตัวเสร็จเรารู้สึกอึดอัดมาก
จะว่าเพราะชุดมันแน่นไปก็ไม่ใช่แน่ อึดอัดอยู่ในอก พอเราแต่งตัวเสร็จสักพัก
กระเทยเพื่อนเราก็เดินมาหา นางแต่งตัวเสร็จแล้วเหมือนกัน นางพูดออกมาว่า
“จะเกิดไรขึ้นก็รำให้จบเพลงนะ มีสติไว้มากๆ” เราแทบอยากจะร้องไห้
เพราะคำพูดของมันเราทำได้แค่พยักหน้ารับเท่านั้น
จนเวลาใกล้9โมงที่พิธีเปิดงานจะเริ่ม การแสดงชุดต่างๆก็ไปแสตนบายที่หลังเวที
ในสนามหน้าเสาธง การแสดงชุดแรกและชุดสองผ่านไป จนถึงการแสดงของเรา
เราและเพื่อนร่ายรำตามแบบที่ซ้อมกันมา ใบหน้ายิ้มแย้ม ทั้งๆที่ในใจเรากลัวเหลือเกิน
ความรู้สึกอึดอัดก็ทวีเพิ่มขึ้น จากรำแค่2คนเราสัมผัสได้ถึงนางรำตัวนางอีกคน
ที่ยืนรำอยู่ข้างหลังเรา เสียงดนตรีดังขนาดไหน แต่เราได้ยินเสียงหายใจฟืดฟาดอยู่ข้างหลัง
เราอยากจะวิ่งหนีให้รู้แล้วรู้รอด แต่เพื่อนเราบอกเราไว้ให่รำให้จบเพลง
จนถึงช่วงสุดท้ายของเพลงเราเอียงหัวไปทางซ้าย เราได้ยินเสียงผู้หญิงพูดว่า “ตั้งใจรำสิ”
พร้อมกับความรู้สึกเหมือนโดนมือจับหัวเราให้เอียงอย่างช้าๆตามจังหวะเพลง
เราเริ่มน้ำตาคลอ เหมือนมือเย็นเฉียบทั้งๆที่อากาศร้อนมาก ในใจอยากเร่งให้เพลงจบไวๆ
จนอีกอึดใจการแสดงของเราก็สิ้นสุดลง เราตัวสั่นเทิ้ม จนต้องมีคนพยุงเราออกจากตรงนั้น
อาจารย์พามานั่งพัก กระเทยเพื่อนเราวิ่งตามมา
อาจารย์ถามว่าเกิดอะไรขึ้น เรายังไม่ทันพูดอะไร เพื่อนเราพูดว่า
“มีคนมารำกับพวกหนู เป็นตัวนางมายืนรำอยู่ข้างหลัง..(ชื่อเรา)”
เราหันไปมองหน้าเพื่อน เราถามมันว่ารู้ได้ยังไง คำตอบที่ได้คือ
“ก็กูเห็นเงาใส่ชุดไทยเดินตามตั้งแต่ตอนแต่งตัวเสร็จแล้ว พอตอนรำ
กูก็เห็นเค้ายืนรำอยู่ข้างหลัง บางทีเขาก็ประคองมือรำ”
วันนั้นทั้งวันเราอยู่ในอาการหวาดกลัวจนต้องโทรบอกให้แม่มารับกลับบ้าน
วันถัดมาเรามาโรงเรียนตามปกติ แต่มีอาจารย์ท่านหนึ่งทักเราว่า
“กฤษดาภินิหารมันต้องรำเป็นคู่ไม่ใช่เหรอ ทำไมเมื่อวานรำกัน3คน?”
หลังจากวันนั้นเรารีบชวนกระเทยเพื่อนเราไปทำบุญ อุทิศส่วนกุศลให้แก่สิ่งที่เรามองไม่เห็นนั้น
จากนั้นเราก็ทำใจอยู่นานกว่าจะเข้าห้องนาฎศิลป์ได้ แต่ตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงตอนนี้เวลารำอะไร
ก็ไม่เคยมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกเลย อาจารย์และคนอื่นๆเชื่อว่าวิญญาณตนนั้น
คงอยากให้การแสดงของเราออกมาอย่างไม่ผิดพลาดจึงมาคอยช่วยเหลือ
โฆษณา