28 พ.ค. 2021 เวลา 16:27 • ประวัติศาสตร์
เรื่องผีที่ทำเนียบขาว
ด้วยอายุที่มากถึง 220 ปี ผ่านประธานาธิบดีสหรัฐฯ มาแล้วทุกคนตั้งแต่ John Adams ซึ่งเป็นประธานาธิบดีคนที่ 2 แต่เป็นประธานาธิบดีคนแรกที่เข้ามาพำนักอยู่ (ส่วน George Washington ไม่ได้ย้ายเข้ามาอยู่เพราะยังสร้างไม่เสร็จ) ทำเนียบขาวจึงเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และเรื่องราวมากมาย ผู้คนจำนวนไม่น้อยเสียชีวิตที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นอดีตประธานาธิบดี สมาชิกในครอบครัว เจ้าหน้าที่ หรือแม้กระทั่งสัตว์เลี้ยง และเรื่องเล่าที่สร้างความบันเทิงได้เป็นอย่างดีเกี่ยวกับที่นี่คือเรื่องผี ๆ
ทำเนียบขาวมีผีไหม คำตอบคือมี เพราะมีผู้พบเห็นวิญญาณต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก ณ สถานที่แห่งนี้ ต่อไปนี้คือประสบการณ์เรื่องการพบเห็นผีหรือวิญญาณที่น่าสนใจในทำเนียบขาวซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นสถานที่หนึ่งในสหรัฐฯ ที่มีผีหลอกวิญญาณหลอนมากที่สุด
(Photo: Americanhauntingsink.com)
ประธานาธิบดีโอบาม่าและภรรยาเคยตื่นขึ้นมากลางดึกเพราะได้ยินเสียงประหลาดในโถง ทั้งสองคนจึงออกไปดู แต่ไม่พบกับอะไร แถมคนในครอบครัวของทั้งคู่ยังเคยสัมผัสถึงบางสิ่งที่มางับและเคี้ยวเท้าซึ่งให้ความรู้สึกเหมือนสิ่งนั้นกำลังจะกินเท้าเข้าไป มีคนวิเคราะห์ว่าน่าจะเป็นวิญญาณสัตว์เลี้ยงที่ตายในทำเนียบขาวที่มาแทะเท้า
ก่อนหน้าครอบครัวโอบาม่า ลูกสาวฝาแฝดของประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช เจอประสบการณ์น่ากลัวในทำเนียบขาว เจนน่าเป็นคนเจอก่อน เธอตื่นขึ้นมาเพราะได้ยินเสียงดนตรีดังมาจากทางฝั่งเตาผิงในห้องนอนของเธอ เธอตกใจตื่นจึงวิ่งออกจากห้องไปบอกเรื่องนี้ให้บาร์บาร่าฟัง แต่บาร์บาร่าไม่เชื่อ เจนน่าเลยท้าให้บาร์บาร่ามานอนในห้องนั้นด้วยกันในคืนต่อมา ทั้งคู่ได้ยินเสียงเพลงโอเปร่าดังแสบแก้วหูมาจากฝั่งเตาผิงเช่นเดิม พอสว่างพวกเธอจึงได้รู้จากเจ้าหน้าที่ประจำทำเนียบขาวว่าพวกเขาได้ยินเสียงเหล่านี้อยู่เป็นประจำ
1
ลูก ๆ ประธานาธิบดีคนอื่น ๆ ต่างก็เคยเจอผีในทำเนียบขาวเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นลูกสาวของฟอร์ดและเรแกนที่เจอผีประธานาธิบดีลิงคอล์น ลินดาลูกสาวของลินดอน บี. จอห์นสัน เคยเจอและเคยได้คุยกับผีลูกชายลิงคอล์น
มิเชล โอบาม่า เป็นคนเล่าประสบการณ์นี้ให้กับคณะเด็ก ๆ ที่มาเยี่ยมชมทำเนียบขาวฟังเมื่อปี 2009 (Photo: Los Angeles Times)
คืนหนึ่งตอน 3 ทุ่มในปี 1946 ประธานาธิบดีแฮร์รี เอส. ทรูแมนเข้านอนในห้องนอนของเขาในทำเนียบขาว ประมาณ 6 ชั่วโมงต่อมาเขาตื่นขึ้นมาเพราะได้ยินเสียงเคาะประตู ก๊อก ก๊อก ก๊อก เขาเด้งขึ้นจากเตียง สวมชุดคลุม แล้วไปเปิดประตู แต่ไม่พบว่ามีใคร เขาจึงเปิดประตูทิ้งไว้แล้วเดินออกไปหาจนทั่วทั้งในห้องของภรรยาและห้องของลูกสาวเขา แต่ก็ไม่เจอคน
เขากลับมาที่ห้องนอนล็อคประตู แล้วกลับมานอนต่อ แต่แล้วเขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าคนเดินในห้อง จึงกระเด้งตื่นขึ้นมาแล้วก็ไม่มีคน เขารู้ตัวแล้วว่าโดนผีหลอก
1
เรื่องราวนี้ปรากฏในจดหมายที่ทรูแมนเขียนถึงภริยาและถูกรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์และห้องสมุดของประธานาธิบดี ในจดหมายนั้นทรูแมนยังขอให้ภรรยากับลูกรีบมาหาเขา ลูกสาวของเขาตอบจดหมายกลับอย่างไม่ค่อยเชื่อว่ามีผีในทำเนียบขาว
1
ทรูแมนเขียนจดหมายตอบยืนยันไปว่ามีผีอยู่ที่ทำเนียบขาวจริง ๆ แถมยังบอกลูกสาวอีกว่าเขามั่นใจว่าวิญญาณแอนดรูว์ แจ็คสัน จะให้คำแนะนำที่ดีแถมอาจจะสอนให้เขาสบถบางคำได้ ส่วนวิญญาณของโกรเวอร์ คลีฟแลนด์ อาจจะช่วยเขาเลือกคำกล่าวดี ๆ กับบรรดาผู้นำการเมืองบางคนได้ ดังนั้นเขาบอกลูกสาวว่าเขาจะไม่ล็อกประตูห้องหรือห้ามมิให้ผีของเหล่าประธานาธิบดีที่อยู่ในรูปออกมาหากพวกเขาอยากจะมาเสวนาอย่างเป็นมิตรด้วย
เหตุที่ทรูแมนเชื่อว่ามีผีประธานาธิบดีอยู่ในทำเนียบขาวเพราะเขาไม่ได้เจอแต่เฉพาะเหตุการณ์ในวันนั้น เขาเขียนจดหมายเล่าให้ภรรยาอ่านว่าเขาเจออะไรแปลก ๆ ในขณะที่นั่งทำงานอยู่ เพราะเขาได้ยินเสียงผีเดินไปเดินมาที่ระเบียงและในห้องที่เขาทำงานอยู่ เขาได้ยินเสียงพื้นลั่นและเห็นผ้าม่านขยับไปมาได้เอง ซึ่งลูกสาวของเขาในเวลาต่อมาก็ประสบเหตุการณ์ที่คล้ายกันนี้ แต่แถมด้วยการได้ยินเสียงคนเคาะประตู
หน้าแรกของจดหมายที่ทรูแมนเขียนถึงภรรยาที่พาลูกสาวกลับไปเยี่ยมญาติ ซึ่งในจดหมายนี้เขาเล่าว่าเขาเจอผีในทำเนียบขาว (The National Archives)
ประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกน ซึ่งดำรงตำแหน่งช่วงปี 1981-1989 เล่าว่า Rex สุนัขของเขาเห่าอย่างบ้าคลั่งตรงหน้าประตูทางเข้าห้อง Lincoln Bedroom แล้วไม่ยอมเข้าไปข้างใน เจ้า Rex จะเข้า ๆ ออก ๆ ทุกห้องในทำเนียบขาว ยกเว้นห้องนี้ห้องเดียวที่มันไม่ยอมเข้าไปข้างใน ซึ่งลูกสาวกับลูกเขยของเรแกนก็เคยเจอผีในห้องนั้นด้วย
ห้องนี้สมัยที่ลิงคอล์นยังมีชีวิตอยู่เขาไม่เคยใช้สำหรับนอนแต่ใช้เป็นที่สำหรับทำงาน เขาไม่ได้ตายในทำเนียบขาวแต่ตายเพราะถูกลอบสังหารเมื่อปี 1865 แต่เนื่องจากในห้องดังกล่าวมีเตียงนอนหลังหนึ่งที่ซื้อเข้ามาโดยแมรี่ ท็อดด์ ลิงคอล์น ภรรยาของเขา ห้องนี้จึงถูกเรียกว่า Lincoln Bedroom
เชื่อกันว่าการถูกลอบสังหารทำให้วิญญาณลิงคอล์นไม่ไปสู่สุคติ เขามีภารกิจที่ยังทำไม่เสร็จสิ้นจึงยังคงเป็นวิญญาณสิงสู่ในห้องทำงานของเขาที่ทำเนียบขาว ถ้าเป็นคนในบ้านเราคงบวกความเชื่ออีกเรื่องเข้าไป คือ คนที่ตายโหงจะกลายเป็นวิญญาณที่เฮี้ยนมากที่จะคอยมาตามหลอกหลอนคน
แถมยังมีเรื่องเล่าลือกันว่าลิงคอล์นจะมาปรากฏตัวให้เห็นเมื่อตอนประเทศนี้มีภยันตรายหรือประสบวิกฤต ซึ่งลิงคอล์นจะมาเดินไปเดินมาตรงระเบียงของชั้นสอง เคาะประตู และยืนอยู่ข้างหน้าต่าง
2
Rex คือสุนัขของเรแกนที่เห่าอยู่หน้าห้อง Lincoln Bedroom เชื่อกันว่ามันน่าจะเห็นอะไรบางอย่าง (Photo: Ronald Reagan Presidential Library)
สำหรับห้อง Lincoln Bedroom นี้ บรรดาผู้พำนักอาศัย เจ้าหน้าที่ประจำทำเนียบขาว และอาคันตุกะที่เคยมาเยือนที่นี่ก็เคยเจอผีหลอกกันถ้วนหน้า ผีที่ว่านั้นเป็นผีประธานาธิบดีที่ดังที่สุดและว่ากันว่าเฮี้ยนที่สุดในทำเนียบขาว คือ ผีประธานาธิบดีอับราฮัม ลิงคอล์น
คนแรกที่ออกมาเล่าว่าเจอวิญญาณของเขาคือสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง เกรซ คูลลิจด์ ที่เล่ารายละเอียดในนิตยสารว่าเธอเคยเห็นวิญญาณผอมโย่งของลิงคอล์นชะโงกหน้าออกมาจากหน้าต่างห้องทำงานรูปไข่ ภรรยาของประธานาธิบดีลินดอน บี. จอห์นสัน ยังรู้สึกว่ามีวิญญาณของลิงคอล์นอยู่ในห้องด้วยตอนที่เธอดูทีวีเรื่องการตายของเขาในคืนหนึ่ง
2
อีลีนอร์ รูสเวลท์ สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งอีกคนเคยรู้สึกว่ามีบางสิ่งอยู่กับเธอด้วยเวลาที่เธอใช้ห้องนั้นทำงานจนดึกดื่น ซึ่งผู้ช่วยของเธอก็เคยเจอผีของลิงคอล์นเข้าจัง ๆ ตรงเตียงในห้อง Lincoln Bedroom โดยเห็นเขากำลังถอดรองเท้าอยู่ เธอตกใจจนกรีดร้องออกมาจนเจ้าหน้าที่หน่วยสืบราชการลับวิ่งมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น
มีอาคันตุกะผู้พบเห็นวิญญาณของเขาในหลายวาระ เช่น วินสตัน เชอร์ชิลล์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เคยเห็นผีของลิงคอล์นในตอนที่เขามาพักอยู่ที่ห้องรับรอง Lincoln Bedroom มีเรื่องเล่าว่าตอนนั้นเชอร์ชิลล์เพิ่งอาบน้ำร้อนเสร็จแล้วออกจากอ่างอาบน้ำมาโดยที่ไม่สวมอะไรยกเว้นคาบซิการ์อยู่ที่ปาก แล้วเขาก็ไปเจอวิญญาณของประธานาธิบดีลิงคอล์นนั่งข้าง ๆ เตาผิง เชอร์ชิลล์จึงทักวิญญาณลิงคอล์นไปว่า “สายันต์สวัสดิ์ครับท่านประธานาธิบดี ดูเหมือนว่าคุณทำให้ผมเสียเปรียบอยู่นะ”
1
แม้กระทั่งราชินีวิลเฮมมินาของเนเธอร์แลนด์ก็ยังเคยเห็นในตอนที่เสด็จมาเยือนและพักในห้องรับรองดังกล่าวเมื่อปี 1942 โดยพระองค์บรรทมอยู่แล้วได้ยินเสียงเคาะประตูจึงลุกไปเปิด พระองค์ทอดพระเนตรเห็นวิญญาณของลิงคอล์นที่มีหนวดเคราและสวมหมวกทรงสูงจึงตกพระทัยจนเป็นลม
1
ห้องที่เรียกว่า Lincoln Bedroom (Photos: White House Historical Association, Peter Waddell for the WHHA)
ห้องปีกตะวันออก (East Room) คืออีกที่หนึ่งที่มีข่าวว่าทั้งเจ้าหน้าที่ประจำทำเนียบขาวและแขกภายนอกที่มาเยือนมักได้ประสบกับอะไรแปลก ๆ ในห้องนั้น สิ่งที่ว่านั้นคือกลิ่น คนมักจะได้กลิ่นผ้าที่ซักใหม่ ๆ และกลิ่นลาเวนเดอร์ในห้องนั้น ซึ่งในอดีต ที่ตรงนี้เคยเป็นห้องที่อบิเกล อดัมส์ สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งใช้เป็นที่ตากเสื้อผ้าให้แห้ง และมีบางคนเคยเห็นวิญญาณของเธอในห้องนี้ด้วย
อบิเกล อดัมส์ เป็นสุภาพตรีหมายเลขหนึ่งคนแรกที่เข้ามาพำนักในทำเนียบขาว ตั้งแต่ที่เธอเสียชีวิตจะมีคนพบเห็นวิญญาณของเธอเดินไปเดินมาในห้องนั้น บ้างก็เห็นวิญญาณเธอใส่หมวกและผ้าคลุมไหล่มุ่งหน้าตรงไปยังห้องปีกตะวันออก และแขนของเธอก็ยื่นออกมาเหมือนกำลังถือผ้าอยู่
วิญญาณสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งอีกคนดูเหมือนว่าจะเลือกงานอดิเรกทำหลังจากที่ตายแล้วได้ดีกว่า คือดอลลี่ แมดิสัน เพราะมีคนเห็นวิญญาณของเธอคอยปกปักรักษาสวนในทำเนียบขาว เล่ากันว่าเจ้าหน้าที่ประจำทำเนียบขาวสมัยประธานาธิบดีวู้ดโรว์ วิลสันมีแผนที่จะย้ายสวนที่ชื่อว่า Rose Garden แต่พอมีคนเห็นวิญญาณของเธอที่นั่นเลยเปลี่ยนแผนและทิ้งทุกอย่างไว้เช่นเดิมตามที่เธอต้องการ
ห้องปีกตะวันออกของทำเนียบขาวเป็นอีกแห่งที่พบเห็นผีและกลิ่นต่าง ๆ (Photos: White House Historical Association)
เจ้าหน้าที่ประจำทำเนียบขาวที่สามารถระบุตัวตนได้ว่าเคยเจอผีคือ เจเรเมียห์ สมิธ ซึ่งทำงานที่นี่นานถึง 30 กว่าปี โดยเริ่มทำงานตั้งแต่สมัยประธานาธิบดียูลีซิส เอส. แกรนท์ เมื่อราวทศวรรษที่ 1860 ชายผู้นี้เล่าว่าเขาเจอผีนับไม่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นผีประธานาธิบดีลิงคอล์น, แกรนท์ และ วิลเลียม แมคคินลีย์ แถมยังเจอผีของสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งหลายคนด้วย ซึ่งเขานี่เองที่เป็นคนนำเรื่องเหล่านี้มาเล่าให้คนภายนอกได้รับรู้
ในปี 1911 ประธานาธิบดีวิลเลียม ทัฟท์ ได้เตือนผู้ช่วยทหารคนหนึ่งชื่อว่าอาชิบาล์ด บัตต์ ที่เขียนเรื่องเกี่ยวกับเรื่องผีในทำเนียบขาวไปเล่าให้น้องสาวของเขาที่ชื่อคลาร่าฟัง ทัฟท์ยังขู่ว่าจะไล่เจ้าหน้าที่คนใดก็ตามที่นำเรื่องนี้ไปเล่าต่อ ผีตัวที่ว่านั้นเชื่อกันว่าเป็นวิญญาณของเด็กผู้ชายอายุประมาณ 15 ปีที่คนในทำเนียบขาวเรียกว่า “สิ่งนั้น” ซึ่งมาหลอกหลอนจนทำให้เจ้าหน้าที่ในทำเนียบขาวของทัฟท์ตื่นกลัวกันมาก ซึ่งมักจะมาในรูปแบบเหมือนมีอะไรมาแตะไหล่เบา ๆ ตอนที่คนอยู่เพื่อเป็นการบอกให้รู้ว่ามีวิญญาณอยู่ตรงนั้น ซึ่งให้ความรู้สึกเหมือนมีคนอยู่ข้างหลังแล้วเอียงตัวชะโงกมาดูว่าเราทำอะไรอยู่ใกล้ ๆ
“the Thing” หรือสิ่งนั้นที่มาหลอกเจ้าหน้าที่ของประธานาธิบดีทัฟท์เชื่อกันว่าเป็นวิลลี ลิงคอล์น ลูกชายของประธานาธิบดีลิงคอล์นที่ป่วยตายในทำเนียบขาว ซึ่งตอนที่วิลลีตายใหม่ ๆ แมรี่เจอวิญญาณของลูกชายคนนี้มายืนอยู่ที่ปลายเตียงหรือมาให้ประธานาธิบดีลิงคอล์นเจออยู่เป็นประจำ (แล้วพอลิงคอล์นตายเขาก็กลายมาเป็นผีหลอกคนอื่นต่อ)
รูปของวิลลี ลูกชายของประธานาธิบดีลิงคอล์นที่ตายในทำเนียบขาวด้วยไข้ไทฟอยด์เมื่อปี 1862 (Photo: Library of Congress)
นอกจากผีประธานาธิบดีลิงคอล์นแล้ว ผู้คนยังได้ประสบพบเจอกับผีของประธานาธิบดีคนอื่น ๆ อีกด้วย เช่น
•แอนดรูว์ แจ็คสัน สมัยยังมีชีวิตมีห้องนอนที่ห้อง Queens Bedroom หรือที่เรียกว่า Rose Room เมื่อเขาเสียชีวิต มีคนได้ยินเสียงและเห็นประธานาธิบดีคนนี้นอนหัวเราะในลำคออยู่บนเตียงในห้องนั้นมาตั้งแต่ทศวรรษที่ 1890 แม้กระทั่งแมรี่ภรรยาของลิงคอล์นยังเคยเล่าให้เพื่อนฟังว่าเธอเคยได้ยินวิญญาณของแจ็คสันกระทืบเท้าและสบถด้วย
•โธมัส เจฟเฟอร์สัน มีคนได้ยินเสียงเขาเล่นไวโอลินอยู่ที่ห้อง Oval Room (เขาเล่นไวโอลินเป็น)
•จอห์น ไทเลอร์ มีคนเจอวิญญาณของเขาคอยหลอกคนอยู่ที่ห้อง Blue Room ที่เขาขอจูเลีย การ์ดเนอร์ ภรรยาคนที่สองแต่งงาน
•วิลเลียม เฮนรี แฮร์ริสัน หลอกหลอนคนอยู่ที่ห้องใต้หลังคา เขาคือประธานาธิบดีคนแรกที่เสียชีวิตในทำเนียบขาว
ประธานาธิบดีทั้ง 4 คนที่เชื่อว่าเป็นผีในทำเนียบขาว (Photos: Wikipedia)
นอกจากวิญญาณประธานาธิบดีแล้ว ยังมีผู้พบเห็นวิญญาณของคนอื่น ๆ อีก เช่น
•ทหารอังกฤษที่ไร้ชื่อคนหนึ่ง เขาตายในช่วงสงครามปี 1812 และเกิดเหตุการณ์ที่ทำเนียบขาวถูกเผา ทหารคนนี้กลายเป็นวิญญาณเร่ร่อนในทำเนียบขาวโดยจะถือไฟฉายเดินไปรอบ ๆ
•เดวิด เบิร์นส์ เคยเป็นเจ้าของที่ดินที่ทำเนียบขาวตั้งอยู่ในปัจจุบัน เขาขายที่ดินส่วนใหญ่ที่เป็นวอชิงตัน ดี.ซี. และตรงที่เป็นทำเนียบขาวในปัจจุบันให้กับรัฐบาล มีคนพบเห็นวิญญาณและได้ยินเสียงของเขาที่ห้องทำงานประธานาธิบดีคือห้อง Oval Room ผู้รับใช้ชายของประธานาธิบดีรูสเวลท์เคยได้ยินเสียงของวิญญาณดังมาจากห้องนั้นว่า “I’m Mr. Buuuuurnes” (ไม่แปลให้เพราะผีมิสเตอร์เบิร์นส์พูดภาษาไทยไม่ได้) ในสมัยที่ทรูแมนเป็นประธานาธิบดีก็มียามได้ยินเสียงนี้ จึงเข้าใจผิดคิดว่าเป็นเสียงของเจมส์ ไบร์นส์ ซึ่งเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศในเวลานั้น เขาจึงเดินไปหาแต่ก็ไม่เจอ แถมพบว่าไบร์นส์ไม่ได้อยู่ที่ทำเนียบขาวในวันนั้น
1
•แอนนา เซอร์แรตต์ เป็นผีที่คอยมาทุบประตูหน้าทำเนียบขาวเพื่ออ้อนวอนขอพบประธานาธิบดีแอนดรูว์ จอห์นสัน เนื่องจากมาขอร้องให้ประธานาธิบดีอภัยโทษแมร์รี่ เซอร์แรตต์ แม่ของเธอที่สมคบคิดในการลอบสังหารประธานาธิบดีลิงคอล์นและถูกจับกุม แต่สุดท้ายแม่ของเธอก็ถูกประหารชีวิตด้วยการแขวนคอ (กลายเป็นผู้หญิงคนแรกที่ถูกสั่งให้ประหารชีวิตโดยรัฐบาลอเมริกัน) เมื่อครบรอบวันประหารชีวิตแม่ของเธอในแต่ละปี วิญญาณแอนนาจะมาเดินไปเดินมาตรงบันไดหน้าทำเนียบขาว เหมือนมารอประธานาธิบดีจอห์นสัน และจะมาทุบประตูทำเนียบขาวอยู่เรื่อย ๆ
1
ภาพการประหารชีวิตบุคคลที่มีส่วนในการลอบสังหารประธานาธิบดีลิงคอล์นด้วยการแขวนคอ ซึ่งหนึ่งในนั้นมีแมร์รี่ เซอร์แรตต์ ที่ Fort McNair เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม ปี 1865 (Photo: Alexander Gardner/Library of Congress)
จากที่อ่าน ๆ มาแล้วเอามาเล่าต่อ ผู้เขียนคิดว่าผีที่น่ากลัวที่สุดในทำเนียบขาวคือวิลลี ผีผู้ลูก แค่นึกว่ามีใครสักคนที่มองไม่เห็นมาหายใจรดต้นคอก็สยองแล้ว ส่วนผีที่น่าสงสารมากที่สุดคือลิงคอล์นผีผู้พ่อ ที่ยังแบกภาระเป็นห่วงประเทศชาติจนไม่ได้ไปผุดไปเกิด น่าอัญเชิญพระไปทำบุญส่งวิญญาณให้ท่านจะได้ไปสู่สุขคติเสียที
1
อีกคนที่น่าสงสารคือ อบิเกล อดัมส์ สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง เพราะเมื่อตายไปแล้วก็ยังไม่สามารถละหน้าที่แม่บ้านได้ ยังต้องมาซักผ้าอยู่ชั่วกัปชั่วกัลป์ในทำเนียบขาว

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา