29 พ.ค. 2021 เวลา 00:07 • หนังสือ
สรุปหนังสือเจาะอนาคตโลกมองหา Start up บอกเลยว่าหนังสือดีมากๆแนะนำครับ
สืบเนื่องจากที่ผมสรุปหนังสือ Great Reset ของ อ ทวีสุขแล้วมาอ่านเล่มนี้ต่อจะละเอียดมากกว่า
หนังสือเล่มนี้จะเน้นบอกเหตุและผลรวมทั้งการมองหาโอกาสในการลงทุนหรือทำธุรกิจและปรับตัวหลังจากการปฎิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4
1
1. อย่างที่รู้กันการปฎิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 ต่อไปนี้ บริษัทเก่าๆหรือพนักงานปัจจุบัน ถ้าไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลงปรับตัวและเรียนรู้เพิ่มทักษะใหม่ในโลกอนาคตก็จะโดนกลืน บริษัทหรือธุรกิจจะกลายเป็น Zombie Company ที่ตีความหมายได้ว่า บริษัทจะไม่มีทางเติบโต ยอดขาย กำไรจะทรงๆทรุดๆ จนขาดทุนและรอวันล้มหายตายจาก พนักงานที่ทำงานก็ตกงานจะไปเริ่มงานใหม่ก็ลำบากเพราะทักษะที่ใช้ในอนาคตก็ไม่มี ทุกคนเคยชินการทำงานทำธุรกิจในอุตสาหกรรมปัจจุบันที่เริ่มเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง ทุกคนยึดติดความเคยชินในอุตสาาหกรรมเก่ามาานานเกินไป ต่อไปถ้ามีการโละระบบทุกอย่าง เราจึงต้องเริ่มเปลี่ยน พร้อมหาโอกาส เรียนรู้สิ่งใหม่ๆเสมอ
2. ปัจจุบันเราเจอปัญหาสังคมผู้สูงอายุมากเกินไป มากเกินระดับที่ต้องการ เนื่องจากเทคโนโลยีการแพทย์ดีขึ้น รวมถึงความเหลื่อมล้ำระหว่างคนรวยคนจนถ่างออกเรื่อยๆ และการทำงานที่ไม่ประสิทธิภาพมากเพียงพอที่จะรองรับอนาคต
1
3. การปฏิวัติโลกอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 จะเน้นทางเทคโนโลยีโดยผ่านทางบริษัทใหญ่ๆและบริษัท start up โดยจะเน้นเทคโนโลยีมาช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตเราให้ดีขึ้นไม่ว่าจะเป็น รถไร้คนขับ smart city การเงิน เทคโนโลยีสำหรับผู้สูงอายุพวกรักษาสุขต่างนานา มีเยอะมากในหนังสือที่ยกตัวอย่าง ใครสนใจอยากให้หาอ่าน เรียกว่า Great reset โละระบบเก่าทั้งหมดและเปลี่ยนไปในสิ่งที่ดีกว่าเดิม อย่าคิดว่ามันไกลตัวนะครับ หลายๆประเทศใหญ่ๆ อเมริกา ยุโรป จีน เหมือนจะอยากให้การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งนี้เสร็จภายในปี 2030 หรืออีก 9 ปีแค่นั้นเอง
4. หลังจากนี้เป็นความเห็นส่วนตัวของผมหลังจากอ่านหนังสือแล้วนะครับ เทคโนโลยีที่จะมาปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 เรียกว่าทำให้คนตกงานเกิน 70% แน่นอนครับ เรามีสองทางเลือกที่จะทำให้ชีวิตการทำงานหรือการเงินเรารอด คือ ตามเทรนปรับตัวเองให้ทันโลกที่เปลี่ยนไปใช้เทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์อย่าฝืนและอีกข้อคือหาบริษัทใหญ่และ startup ที่อนาคตสดใสเข้าไปร่วมลงทุน ต่อต้านไม่ได้ก็เข้าร่วมไปเลย
5. ยิ่งอ่านหนังสือแล้วรู้สึกโศกนาฏกรรมทางธุรกิจและการตกงานครั้งใหญ่ในประวัติศาตร์รอบ 100 ปีมาแน่ ถ้ารัฐคุมไม่ดีการประท้วง สงครามมาแน่นอน
6. ถ้าถามว่าถ้าเราอายุเยอะตามเทคโนโลยีไม่ทันละ อาชีพตอนนี้มีอะไรน่าสนใจที่ไม่น่าโดน disrupt ภายใน 10–30 ปีนี้ครับ ส่วนตัวผมมองว่าอาชีพรับดูแลผู้สูงอายุครับ ตรงนี้ ai หุ่นยนต์ไม่สามารถทดแทนแน่นอนเพราะเราเป็นมนุษย์ เราอยู่กับสิ่งของทื่อๆนานๆเราจะเบื่อและซึมเศร้า เราคือมนุษย์ยังไงก็ชอบปฏิสัมพันธ์กับคนและสัตว์ที่มีชีวิตจิตใจมากกว่าวัตถุที่ไม่มีชีวิต ถึงแต่หุ่นยนต์โต้ตอบได้ก็เถอะ แต่มันไม่มีชีวิตจิตใจ ไม่งั้นเราจะเลี้ยงหมาหรือแมวไว้เป็นเพื่อนหรอครับ ส่วนอาชีพช่างก็น่าสนใจเหมือนกันครับถ้ายังไม่มี smart home ทุกหลังซึ่งน่าจะยังไม่มีอีก 10 ปีในไทย
1
7. ธุรกิจ SMEs แบบผมน่าห่วงมากถึงเข้าขั้นวิกฤตเลยละครับ เราต้องใช้เทคโนโลยีให้ได้ให้เป็นทั้งหมด มีการใช้ omi channel Data Analytics มีการเก็บรวบรวม data มาวิเคราะห์ให้ได้ ไม่งั้นแย่แน่นอน เพราะต่อไปนี้ทุกบริษัทจะใช้ data มาตัดสินใจในการทำธุรกิจเพราะ data มันไม่หลอกลวง แม่นยำสูง
8. น่าเป็นห่วงอนาคตเด็กไทยที่อายุ 10–24 ปีในตอนนี้ เพราะระบบการศึกษาเรายังเรียนแบบเดิม แบบอุตสาหกรรมครั้งที่ 3 เรียนไปก็ไม่สามารถเอาไปใช้ในโลกอนาคตอีก 10 ปีได้ แต่ที่จีน เมกาเขาปลูกฝังเด็กไว้ตั้งนานแล้วพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
9. แต่ถ้าเรามีลูกวัย 1–3 ปีในตอนนี้เป็นโอกาสที่ดีที่เราจะสอนการศึกษาใหม่ ระบบใหม่ที่ไม่ใช่แบบเดิมให้แก่ลูกเราเอง เพราะกว่าเด็กจะโตอีก 20 ปี ตอนนั้นการเปลี่ยนผ่านยุคก็จบลงแล้ว อาชีพเก่าและอาชีพใหม่จะเริ่มนิ่ง (ปล.แอดมินก็เขียนไปงั้นแหละครับ ยังโสด ยังคิดว่าถ้ามีลูกจะสอนยังไงดี ไม่รู้เหมือนกัน 555 แต่ที่แน่ๆให้เน้นการเขียน code มากกว่าภาษาอังกฤษและจีน เพราะภาษา code คอมเป็นภาษาสากลมากกว่าอังกฤษและจีน ถึงตอนนั้นเราน่าจะมีวุ้นแปลภาษาเรียบร้อย ภาษาจะไม่เป็นพรมแดนระหว่างมนุษย์เหมือนตอนนี้
1
แนะนำอีกครั้งหนังสือเล่มนี้ดีมาก คุ้ม ซื้ออ่านเถอะครับ
โฆษณา