ซีรีย์ซึ้งๆ ที่ทุกคนควรดู🎧
เนื่องจากช่วงนี้ ถูกโควิค มัดมือมัดเท้า ทำให้ชีวิตเป็นปกติสุขไม่ได้ แต่ชีวิตจำต้องดำเนินต่อไป จึงต้องพยายามควานหา สิ่งต่างๆมาเยียวยาจิตใจ
การนั่ง หรือนอนดูซีรีย์ อยู่กับบ้าน จึงเป็นทางเลือกในช่วงนี้ เรียกกันว่าจ่ายเงินให้ Netflix แล้วได้ใช้กันอย่างคุ้มค่าเลยทีเดียว
มีโอกาสเลือกดูซีรี่ย์เรื่อง Move to Heaven ซึ่งบอกตรงๆ ตั้งแต่ดูซีรีย์มา เรื่องนี้เรียกน้ำตาได้เป็นถัง เพราะเป็นซีรีย์ ที่ไม่ดราม่า แต่เป็นการถ่ายทอดถึง ชีวิต หลายๆชีวิต ที่ต้องมาประสบพบเจอ กันด้วยหน้าที่ ไม่อยากสปอยมาก เลยขอเล่าภาพกว้างๆ ให้ทราบ จะได้ไม่เสียอรรถรส ในการชม
เนื้อเรื่องเน้นถึงตัวเอก เป็นเด็กหนุ่ม อายุ 20 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคเอสเพอร์เกอร์ ( Asperger’s disorder) ที่ต้องมีผู้ปกครองคนใหม่ ซึ่งเป็นอา ที่เพิ่งพ้นโทษจากเรือนจำ มาดูแลแทนพ่อที่เสียชีวิต โดยทั้งสอง ต้องมาทำงานร่วมกันที่บริษัท Move to Heaven
ก่อนดูซีรีย์เรื่องนี้ ผู้เขียนเคยเห็น ผู้คนที่ป่วยด้วยโรคแบบนี้ แต่เข้าใจว่าเขา เป็นโรคบกพร่องทางสมอง และเหมารวมแบบไม่เข้าใจไปในอดีต แต่พอมาดูซีรี่ย์เรื่องนี้แล้ว จึงพยายามค้นหา ข้อมูลเชิงลึก จนเข้าใจ
โรคเอสเพอร์เกอร์ ไม่ใช่โรคปัญญาอ่อน อย่างที่คนไทยชอบเรียกกันแบบจิกกัด แต่โรคนี้ ผู้ป่วยบางราย มีความฉลาด ไอคิวสูง มีความจำเป็นเลิศ และสามารถ นำเหตุการณ์มาประมวลผลกันได้อย่างน่าทึ่ง และในประวัติของโรคนี้ยังบันทึกไว้ว่า อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ก็ป่วยเป็นโรคนี้เช่นกัน
เพียงแต่ เขาเหล่านั้น มีปัญหาบกพร่องหลักๆ ใหญ่ๆ 3 ประการคือ ปัญหาด้านภาษา ด้านพฤติกรรม และด้านสังคม อาทิเช่น
ด้านภาษา
- คนกลุ่มนี้ มักใช้ภาษาซ้ำๆ พูดซ้ำๆ และจะพูดแต่เรื่องที่ตัวเองสนใจ และเรื่องของตัวเองเท่านั้น
- ไม่สามารถเข้าใจ คำเปรียบเปรย หรือคำที่มีความซับซ้อน
- อยากพูดอะไร ก็จะพูดออกมาทันที ไม่สนใจใคร
ด้านพฤติกรรม
- ชอบทำอะไรที่ซ้ำๆ เฉพาะเรื่องที่เขาสนใจ จนเรียกได้ว่า อัจฉริยะเรื่องนั้นๆไปเลย
- เดินช้า ทำอะไรช้าๆมีสีหน้าเรียบเฉย ไร้การแสดงอารมณ์
- มีความไว กับสิ่งรอบตัว และชอบสนใจ ใคร่รู้ ในทุกเรื่องที่เขาอยากทราบ
- บางครั้งมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม เช่น กินอาหารไม่อร่อย ก็จะพูดตรงๆออกมาทันทีว่าไม่อร่อยในร้านอาหารที่นั่งกินอยู่
- มักทำร้ายตัวเอง หากทำอะไรไม่ได้ดั่งใจ เช่น เอาศรีษะโขกกับผนัง
ด้านสังคม
- ชอบอยู่คนเดียว ไม่สนใจคนรอบข้าง
- เข้ากับคนอื่นได้ยาก เพราะหากคนรอบข้างไม่เข้าใจ จะคิดว่าบุคคนคนนี้ไม่มีมารยาท ไม่มีกาละเทศะ
- เวลาพูดคุย จะไม่มองหน้า ไม่สบตา
- มีความอ่อนไหวสูงกว่าคนปกติ
ตัวละครในเรื่องนี้สื่อสารออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้เข้าใจว่า พ่อแม่ ที่ต้องเลี้ยงดูลูกๆ ที่มีอาการป่วยชนิดนี้ ต้องใส่ใจ ทั้งร่างกาย และจิตใจ ของลูกเป็นอย่างมาก จึงจะสามารถเลี้ยงดู ผู้ป่วยด้วยโรคนี้ ให้สามารถ ช่วยเหลือตัวเอง และมีชีวิตอยู่ในโลกนี้ต่อไปได้
สำหรับตัวเอง ดูซีรี่ย์เรื่องนี้แล้ว ให้คะแนน 10/10 เลย เพราะเป็นเรื่องราว ที่มีการผูกเรื่องมาได้พอดี กลมกลืน และเป็นโลกแห่งความจริง หากใครยังไม่ได้มีโอกาสดู ให้ลองหาดูกันน๊ะ รับรองไม่ผิดหวัง ได้เสียน้ำตา พร้อมอมยิ้ม แน่ๆเลยค่ะ
“ คนดี ที่น่าสับสน” เป็นข้อสรุป ของ กือรู หนุ่มน้อยที่ป่วยโรคเอสเพอร์เกอร์ ได้ให้คะแนนอาหนุ่ม ที่จะมาเป็นผู้ดูแลเขาแทนพ่อที่เสียชีวิต ฟังแล้วอมยิ้มแบบเอ็นดู ❤️
ขอบคุณภาพประกอบจาก🙏🙏🙏
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
