Scrubb - SSSSS..! (2003)
"ตอนนั้นเราไม่คิดว่าจะมีโอกาสได้ทำอัลบั้มชุดต่อไปเลยครับ ทำชุดนี้จบแล้วก็คงจะแยกย้ายไปตามทางของแต่ละคน" พี่เมื่อย ธวัชพนธ์ วงศ์บุญศิริ นักร้องนำเล่าถึงช่วงที่ Scrubb ได้มีโอกาสทำอัลบั้มกับ Blacksheep สังกัดย่อยของ Sony Music Thailand ในขณะนั้น
จากความคุ้นเคยสนิทสนมด้วยการเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องที่มหาวิทยาลัยศิลปากร พี่บอล ต่อพงศ์ จันทบุบผา ซึ่งในขณะนั้นเป็นศิลปินฝึกหัดที่สังกัด GMM Grammy ในนามวง "มาริลีน" ก็มักจะมาขลุกอยู่กับพี่เมื่อยและรุ่นน้องคนอื่นๆเมื่อเดินทางกลับบ้านที่จังหวัดนครปฐม "ตอนนั้นเมื่อยยังเรียนไม่จบ แต่ก็มีเพลงที่แต่งเก็บไว้บ้าง และช่วงนั้นพี่เริ่มหัดทำเพลงโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ก็เลยเอาเพลงที่เมื่อยแต่งมาลองทำดู" เพลงที่ว่านั้นคือเพลง "เธอ" แทร็คแรกในอัลบั้ม SSSSS..!
ในช่วงที่เป็นศิลปินฝึกหัดพี่บอลได้รู้จักกับพี่ฟั่น โกมล บุญเพียรผล โปรดิวเซอร์ซึ่งรับหน้าที่ดูแลวงมาริลีน "ศิลปินฝึกหัดที่แกรมมี่ในตอนนั้นจะมีโปรดิวเซอร์มาคอยดูแลทิศทางและพัฒนาการของวง พี่ฟั่นถูกเลือกให้มาดูแลวงพี่พอดี" นอกจากทำเดโมไปส่งแล้ว พี่บอลใช้โอกาสนี้เรียนรู้การใช้โปรแกรมทำเพลงซึ่งถือเป็นเรื่องใหม่มากๆในขณะนั้นจากพี่ฟั่นไปด้วย นอกจากนี้ยังได้ไปฝึกงานกับพี่ต้น สุวัธชัย สุทธิรัตน์ โปรดิวเซอร์ในสังกัด Green Beans ที่เคยทำงานกับพี่เบิร์ด ธงชัย แมคอินไตย์ "พี่ฟั่นส่งพี่ไปฝึกงานกับพี่ต้น เพราะเค้ามีห้องอัดที่บ้านซึ่งขนาดใหญ่กว่า พี่ไปขลุกอยู่ที่นั่น ช่วยเค้าพันสายแจ็ค ฝึกงานเป็นเอนจิเนียร์ นั่งดูเค้ามิกซ์ มาสเตอริ่งจนได้วิชามาพอสมควรและเริ่มอยากลองของ เลยเอาเพลง 'เธอ'ที่เมื่อยแต่งไว้มาลองทำดนตรีใส่เข้าไป ซึ่งทำให้รู้สึกว่าเคมีเริ่มเข้ากัน สำหรับพี่ตอนนั้นมันเหมือนเป็นไซด์โปรเจคที่มีเมื่อยแต่งเพลง พี่ทำดนตรี แล้วมีพี่ฟั่นเป็นพี่เลี้ยง"
หลังจากที่วงมาริลีนแยกย้าย พี่บอลชวนพี่เมื่อยทำวง EYE มาเสนอกับพี่นิค วิเชียร ฤกษ์ไพศาล เพื่อขอร่วมอยู่ในโปรเจค Intro 2000 โดยมีเพลง "วันนี้ดีจัง" รวมอยู่ในอัลบั้ม พี่บอลเล่าว่า "จริงๆตอนแรกเมื่อยเป็นคนร้องนำ แต่พี่เป๋า (กมลศักดิ์ สุนทานนท์) คนแต่งเนื้อเพลงเค้ารีเควสท์ให้พี่เป็นคนร้อง หลายคนเลยเข้าใจผิดว่าพี่เป็นนักร้องนำซึ่งจริงๆแล้วไม่ใช่" แต่วง EYE ก็ไม่ได้ทำผลงานต่อจากนั้น สมาชิกแต่ละคนก็แยกย้าย โดยพี่บอลยังทำงานอยู่ที่แกรมมี่ในตำแหน่ง Artist Management และยังไปมาหาสู่กับพี่ฟั่นอยู่จึงได้นำเพลงบางส่วนที่ทำกับพี่เมื่อยให้พี่ฟั่นช่วยดูแล
หลังจากนั้นโปรเจค Scrubb ก็เริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นโดยเพลงที่ทั้งคู่แต่งเก็บไว้ในช่วงแรกนั้นถูกนำมารวมอยู่ในอัลบั้มใต้ดินที่ทำร่วมกับวง Soundabout โดยเพลงของ Scrubb ในชุดนั้นประกอบด้วยเพลง ตื่น, หมอน, ชู บี ดู บี ดั้บ, Scrub2 และ สี่คอร์ด นอกจากนี้ยังมีเพลงอีกบางส่วนที่ส่งให้พี่ฟั่นช่วยขัดเกลาให้ เช่น เพลงเธอ, โรงเรียน, Art Bar, พอ และ ทุกอย่าง (ตอนนั้นเป็นเวอร์ชั่นอิเล็กทรอนิคส์ที่ทำโดยพี่เมื่อย หลังจากไปเรียนทำเพลงที่ Gen X Academy) ในตอนนั้นยังไม่ได้วางแผนจะทำเป็นอัลบั้ม
นอกจากจะทำเดโมไปส่งให้พี่ฟั่นแล้ว ทางวงก็ส่งเดโมไปตามค่ายต่างๆ แต่ก็ไม่มีค่ายไหนให้ความสนใจจนวงเริ่มท้อและวางแผนจะแยกย้ายกันไปทำอย่างอื่น พี่บอลเล่าว่า "ตอนนั้นพี่ทำงานที่แกรมมี่มาสามปีก็เริ่มคิดว่าจะลาออกแล้วอาจไปเรียนต่อหรือทำอะไรอย่างอื่น ส่วนเมื่อยก็วางแผนจะไปทำธุรกิจที่ภูเก็ต" จน Scrubb ได้มีโอกาสได้ขึ้นเล่นในงาน Fat Festival ครั้งที่ 2 ที่อิมพีเรียลเวิร์ล ลาดพร้าวในปี 2002 ซึ่งมีกระแสตอบรับที่ดีพอสมควรจากแฟนเพลง หลังจากนั้นพวกเขาก็ได้รับการติดต่อจากสังกัด Blacksheep สังกัดย่อยของ Sony Music ที่เพิ่งเริ่มเปิดตัวโดยในขณะนั้นมีศิลปินในสังกัดอย่าง Street Funk Rollers, The Wanderer และ The Peach Band ผ่านทางป๋าเต็ด ยุทธนา บุญอ้อม "ตอนนั้นไม่ตื่นเต้นเลยนะ" พี่บอลเล่า "เพราะเค้ายังเป็นค่ายใหม่ และคิดว่าเค้าไม่น่าจะชอบเพลงแบบเรา พอไปถึงแนะนำตัวกันเสร็จเค้าก็ถามคำถามแรกว่า 'พร้อมทำอัลบั้มกันเมื่อไหร่' "
สำหรับเพลง "ทุกอย่าง" ที่ทำให้หลายคนได้รู้จักกับ Scrubb นั้น พี่เมื่อยเล่าว่า "ตอนนั้นผมไปเรียนกีต้าร์แจ็ส ที่โรงเรียนอานนท์การดนตรี แต่ไปเรียนได้แค่ 2 ครั้งก็ชิ่ง เลยพอได้วิชามาบ้างอย่างทางคอร์ดแบบ II - V - I ที่เอามาใช้ในเพลง "ทุกอย่าง" ในขณะนั้นพี่ฟั่นซึ่งเป็นโปรดิวเซอร์อยู่ที่แกรมมี่มาหลายปีก็เริ่มเบื่อกับการทำงานตามสูตรมาตรฐานเพลงป็อบทั่วไป ในอัลบั้มของ Scrubb จึงเหมือนเป็นการปล่อยของไปในตัว "ตอนแรกคอร์ดที่เมื่อยแต่งมาไม่ได้ออกเป็นแจ็สเลยนะ" พี่ฟั่นบอก "พี่ก็เลยเติมพวกเทนชั่นเข้าไป อย่างอินโทรเพลงทุกอย่าง ก็ใช้โน็ตที่เป็นเทนชั่น มีความเป็นอัลเตอร์ที่มีกีต้าร์แรงๆในท่อนฮุค มีจังหวะแบบแทงโก้ในท่อนเวิร์ส และท่อนโซโล่เป็นแจ็สเหมือนเอาสิ่งที่เราอยากทำมาใส่ในเพลงนี้" ซึ่งสมาชิกของ Scrubb ก็เห็นดีเห็นงามไปด้วย "เหมือนเราไม่มีอะไรจะเสีย เพราะตอนทำเพลงนี้ยังไม่มีค่ายและคิดว่าจะทำขายกันเองพอเสร็จก็แยกย้ายกันแบบที่ตั้งใจกันไว้ตอนแรก" พี่บอลเล่า
สำหรับเพลง "เธอ" พี่เมื่อยเล่าว่า "ตอนนั้นผมชอบเพลงของโยคีเพลย์บอยมาก ชอบถึงขนาดเอาทางคอร์ดเค้ามาใช้(เพลง 'คำตอบ')แล้วผมก็ฮัมเมโลดี้และเขียนเนื้อลงไป ตอนนั้นไม่มีความรู้เรื่องทฤษฎีอะไรเลย ไม่รู้เลยว่าเพลงมันต้องมีท่อน A ท่อน B ท่อนฮุค ก็ส่งให้พี่บอลฟัง พี่บอลก็ปรับเมโลดี้ให้ท่อนฮุคให้พุ่งขึ้น แล้วทดลองทำดนตรีใส่เข้าไป เพลงนี้เลยเป็นเหมือนหมุดแรกของ Scrubb ทำให้ผมเกิดความเชื่อใจที่จะทำงานร่วมกับพี่บอล"
้พี่เมื่อยรับหน้าที่เขียนเนื้อเพลงในอัลบั้มชุดนี้ทั้งหมด โดยบอกที่มาที่ไปว่า "ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรเลยครับ ด้วยความที่เราไม่ได้วางคอนเซปต์ก่อนแต่งมันเลยออกมาเหมือนเป็นสิ่งที่เราคิดอยู่ในขณะนั้น แล้วโดยเฉพาะในอัลบั้มนี้ที่ตอนนั้นอยู่ในวัยที่พลุ่งพล่านไม่ค่อยสนเหตุสนผล อย่างในเพลง 'เธอ' ก็จะโดนพี่ฟั่นด่าอยู่บ่อยๆ ว่า 'มึงเก่งมาจากไหนถึงกล้ามาแต่งเพลงสอนคนอื่น' (555) ซึ่งตอนนั้นเราอายุน้อยยังไม่มีประสบการณ์ชีวิตมากพอที่จะเขียนเพลงในรูปแบบนี้ อีกอย่างนึงก็คือเวลาแต่งเมโลดี้ถ้ามีเนื้อเพลงอยู่ด้วยผมจะจำเมโลดี้ได้ง่ายกว่า"
อัลบั้มชุดนี้บันทึกเสียงกันที่บ้านพี่ฟั่นในซอยลาซาลชื่อสตูดิโอฝันเฟื่องฟาร์ม บันทึกเสียงโดยใช้โปรแกรม Pro Tools ซึ่งถือเป็นโฮมสตูดิโอในยุคแรกๆ ในขณะนั้นโปรดิวเซอร์หลายคนเริ่มทำงานที่บ้านกันมากขึ้นเนื่องจากเทคโนโลยีการทำเพลงโดยใช้คอมพิวเตอร์ที่เริ่มแพร่หลาย มีความสะดวกสบายและประหยัดค่าใช้จ่าย ในยุคนั้นเริ่มมีการใช้งานแซมปลิ้งที่มีความละเอียดสูงและได้คุณภาพเหมือนกับสตูดิโอใหญ่ๆ โดยพี่บอลบอกว่าพี่ฟั่นเป็นคนนึงที่ปั้นไดนามิกของแซมปลิ้งให้เหมือนกับคนเล่นจริงได้มากที่สุด ในอัลบั้มชุดนี้ของ Scrubb จึงมีเพลงที่อัดกลองสดเพียงแค่ 3 เพลงเท่านั้นคือ "ทุกอย่าง", "เธอ" และ "ลอย" ส่วนที่เหลือจะใช้แซมปลิ้ง โดยคนที่มาอัดกลองให้คือ เส็ง สมศักดิ์ กุลโรจน์ปัญญา ที่เคยเป็นสมาชิกของวงบาร์บี้ส์ และ Area51
เสียงเบสทั้งหมดในอัลบั้มชุดนี้เล่นโดยพี่ฟั่น ใช้เบส Fender Jazz Bass ปี 69 อัดผ่านปรีแอมป์ของ TL Audio Duo Valve รวมถึงเสียงเครื่องดนตรีอื่นๆอย่างเครื่องเป่าเครื่องสายต่างๆก็โปรแกรมโดยพี่ฟั่นเช่นเดียวกัน
ส่วนตอนอัดกีต้าร์นั้นพี่บอลเล่าว่า "ตอนแรกพี่มั่นใจมากเลยนะก่อนจะอัด พอพี่ฟั่น Bounce track ออกมาให้ฟังเท่านั้นแหละ พี่พูดออกมาเลย 'กูทำเชี่ยอะไรลงไปวะเนี่ย' (555) พี่ฟั่นบอกว่า 'อ่ะ มึงลองเอาไปฟัง แล้วคิดดูว่าจะเอายังไงกันต่อ' คือหมายความว่าถ้าพี่อยากจะอัดเองต้องทำการบ้านมากกว่านี้ หนักเบา สั้นยาว มันได้ยินหมด เพราะตอนพี่ซ้อมก็จะซ้อมกับวงหรือเล่นบนเวที มันจะคนละเรื่องกับในสตูดิโอเลย" ในชุดนี้พี่ฟั่นช่วยอัดกีต้าร์ร่วมกับพี่บอลด้วย โดยพี่ฟั่นใช้ Ibanez AM200 สำหรับพาวเวอร์คอร์ดหนักๆ ส่วนพี่บอลใช้ Fender Jazzmaster MIJ โดยจะอัดผ่าน Line6 POD รุ่นแรก
เสียงร้องของพี่เมื่อยใช้ไมค์ Neumann TLM103 ใช้ปรีไมค์ของ TL Audio ใช้คอนเวอร์เตอร์ของ Apogee Rosetta ก่อนจะเข้า Pro Tools
อัลบั้มชุดนี้มิกซ์และมาสเตอริ่งโดยพี่ฟั่น ซึ่งเป็นการทำมาสเตอริ่งเองครั้งแรกของพี่ฟั่นด้วย ในอัลบั้มนี้จึงเหมือนเป็นการได้ทดลองอะไรใหม่ๆทั้งของ Scrubb และพี่ฟั่นซึ่งเป็นโปรดิวเซอร์ แม้กระทั่งในเวอร์ชั่นซีดีของอัลบั้มนี้ หลังจากจบเพลง A Day(11) จะมี Hidden Track ซ่อนอยู่ โดยจะเป็นแทร็คสั้นๆที่เป็นเสียงแอมเบียนต์ประหลาดๆเกือบร้อยแทร็คและมีเพลงอย่าง "ชู บี ดู บี ดั้บ", "สุสานเมียเก่า", "ทุกอย่าง" เวอร์ชั่นที่พี่เมื่อยทำสมัยเรียนที่ Gen X Academy และเดโมที่มีแต่เสียงดนตรีเปล่าๆ
...
บทสัมภาษณ์กับพี่บอล, พี่เมื่อย และพี่ฟั่นในคืนวันที่ 16 มิ.ย. 2020 โดยเพจสตูดิโอแลนด์
#สตูดิโอแลนด์
#Scrubb
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
