29 พ.ค. 2021 เวลา 20:23 • ปรัชญา
ใครๆ ก็อยากเป็นผู้ชนะ
ผมเชื่อว่าใครๆ ก็อยากเป็นผู้ชนะ แต่การได้มาซึ่งชัยชนะมักจะได้มาพร้อมกับคราบน้ำตาของผู้แพ้เสมอๆ การแพ้-ชนะ ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะวงการกีฬาเท่านั้นครับ แต่เกิดขึ้นกับทุกวงการ ตลอดที่คุณยังมีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้
คนทุกคนอยากเป็นผู้ชนะทั้งนั้น อยากเป็นผู้ชนะมากจนลืมความยุติธรรม ลืมความถูกต้อง ลืมความเป็นมนุษย์ ลืมทุกสิ่งทุกอย่าง เพราะต้องการเป็นผู้ชนะ แค่นั้นเป็นพอ ... เคยคิดไหมครับ? การที่คุณมุ่งมั่นจะเอาชนะอยู่เรื่อยไปนั้น คุณกำลังสร้างศัตรูขึ้นโดยไม่รู้ตัว ทั้งๆ ที่คุณก็คิดว่าคุณไม่ได้ทำอะไรผิด แล้วคุณจะมีศัตรูได้ยังไง?
ผู้คนที่เป็นผู้ชนะโดยส่วนใหญ่ มักจะลืมจุดนี้ คุณคงเคยเห็นพาดหัวข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์เกี่ยวกับการฆาตกรรมหรือลอบสังหารนักธุรกิจหรือเจ้าพ่อวงการ จากผลลัพธ์สุดท้ายก็มาจบลงที่ผลประโยชน์ขัดแย้งกัน
นี่แหละครับ! เขาไม่ได้ทำอะไรผิด แต่เขาไปขัดผลประโยชน์ หรือไปขัดขวางเงินทอง หรือช่องทางทำมาหากินของคนอื่น จนผู้แพ้ทนไม่ไหว ต้องหาทางจัดการทางใดทางหนึ่ง การเอาชนะแบบนี้ จะมีประโยชน์อะไรกับคุณและครอบครัวคุณล่ะครับ
ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริง มีแนวทางสร้างสรรค์และถูกต้องมากมายที่จะทำให้คุณเป็นผู้ชนะอย่างแท้จริง คนอื่นรอบตัวคุณที่ต้องพบปะหรือรู้จักคุณ หรือคุยธุรกิจกับคุณก็ยังรู้สึกว่าเขาคือผู้ชนะด้วยเช่นกัน!
แน่ล่ะครับ! สิ่งที่ผมบอก มันอาจจะเป็นไปไม่ได้ในทางตรรกะหรือเหตุและผล เพราะการแข่งขันย่อมมีผู้ชนะหรือผู้แพ้ แต่ตรรกะทางความรู้สึก คุณไม่สามารถตัดสินได้ว่าใครจะแพ้ ใครจะชนะ คนที่จะตัดสินว่าแพ้หรือชนะ คือคนที่อยู่ในสถานการณ์ตรงนั้น ได้รับรู้เหตุการณ์นั้นด้วยตัวเอง เขาจึงสรุปว่า เขาชนะ-คุณแพ้ หรือ คุณชนะ-เขาแพ้
เมื่อต่างคน ต่างเกิดความคิด “เป็นผู้ชนะ” ภายในใจ ไม่ได้แสดงออกหรือพูดออกมา นี่ต่างหาก คือ สิ่งที่ทำให้เกิดผู้ชนะทั้งสองฝ่าย หรือทุกๆ ฝ่าย ตามภาษาการตลาดที่เรียกว่า Win All และเมื่อทุกคนเกิดความรู้สึกว่า “ฉันเป็นผู้ชนะ” ก็จะหยุดคิดเรื่องความอาฆาตแค้นหรือผลประโยชน์ที่เสียไปโดยสิ้นเชิง
พัฒน์ พัฒนะพิชิตชัย
โฆษณา