ความอิจฉา ริษยา เป็นภัยร้ายแรงอีกชนิดหนึ่งที่ยากจะกำจัด หากคนเรารู้ไม่เท่าทันความอิจฉาริษยา มันจะบั่นทอนความเป็นมนุษย์ลงไป การที่เห็นคนอื่นได้ดีแล้วทนไม่ได้ หรือไม่อยากเห็นใครได้ดี การริษยาเขาก็คือการจุดไฟเผาตนเอง การจะลดทอนและให้ไฟที่รอนแรงนั้น เบาบางลง ด้วยการใช้พรหมวิหารธรรม คือ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้
1. การเอามานะมาละริษยาหรือเอากิเลสมาล้างกิเลส ใช้ได้ผลชะงัดมากคือ เวลาริษยาคน ก็คิดเสียว่า เขาทำได้ เราก็ต้องทำได้ แต่ควรพัฒนาให้อยู่ในรูปแบบที่เราถนัดจะดีกว่าไม่ต้องเลียนแบบใคร
2. คลายริษยาด้วยวิธีเอาผู้ที่เราริษยามาเป็นมิตร ความอิจฉาจะพลันแปรเปลี่ยนไปเป็นมิตรภาพที่อาทร
3. หัดวางตนด้วยการโมทนาผู้ที่สำเร็จด้วยใจจริง เมื่อเห็นผู้อื่นมีความสุขด้วยการฝึกหัดในการถ่อมตน
4. ฝึกหยุดนิ่งและปล่อยวาง ด้วยการหมั่นเจริญสติ ตื่นรู้ ดูใจในทุกๆ อิริยาบถ อย่าให้ตัวริษยาเข้ามาในใจได้ ด้วยการเจริญวิปัสสนากรรมฐาน นับเป็นวิธีการบริหารความริษยาขั้นเบ็ดเสร็จและเด็ดขาด
สรุปบทส่งท้าย เรื่องกลวิธีและอุบายในการบริหารจัดการกิเลส (Passion Management)
การเจริญวิปัสสนากรรมฐานและฝึกปฏิบัติตามแนวอริยมรรคมีองค์ 8 หรือหนทางสู่การดับทุกข์ ประกอบด้วย สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ เพราะการบริหารจัดการกิเลสตามที่กล่าวมานั้น เป็นเพียงเปลือกผิวภายนอกของการปฏิบัติ จึงได้เสนอไว้เพียงเป็นแนวทางปฏิบัติเพื่อให้ง่ายขึ้นเท่านั้น หากปฏิบัติได้ตามแนวทางของมรรคมีองค์ 8 แล้ว ก็จะสามารถหลุดพ้นจากสภาวะกิเลสได้อย่างสิ้นเชิง
1. พระเมธีวชิโรดม (ว.วชิรเมธี) ,กิเลสแมนเนจเม้นท์, --นนทบุรี : ปราณ , 2558.
2. พระเมธีวชิโรดม (ว.วชิรเมธี) ; “จัดการกับกิเลสได้ ชีวิตก็ง่ายขึ้น” ; Youtube.