31 พ.ค. 2021 เวลา 11:37 • หนังสือ
เขียนเมื่อ 30 ปีที่แล้ว
แต่หลักการยังคงใช้ได้ดียันทุกวันนี้
นี่คือ 100 หลักคิดเด็ด ๆ ที่ผมได้จากการอ่าน
"คิดใหญ่ ไม่คิดเล็ก"
"The Magic of Thinking Big“
โดย David J. Schwartz
ไปลุยกันเลย
1. ทางแห่งความสำเร็จที่ชัวร์ที่สุดคือ “ความเชื่อ” ที่ว่าเราจะทำได้สำเร็จ
2. วิธีการหรือหนทาง มักจะเกิดขึ้นกับคนที่เชื่อว่าเค้าทำได้ ถ้าคุณไม่เชื่อว่าคุณทำได้ วิธีการก็ไม่มา
3. ความศรัทธาอย่างแรงกล้าจะกระตุ้นจิตใจให้หาหนทางและวิธีการที่จะทำ
4. เช่น ถ้าไม่มีความเชื่อว่ามนุษย์สามารถเดินทางไปในอวกาศได้ นักวิทยาศาสตร์ก็คงไม่มีความกล้า ความสนใจ หรือความกระตือรือร้นที่จะทำ และวิธีการก็ไม่เกิด
5. ยิ่งคุณเชื่อมั่นในตัวเอง จะยิ่งทำให้คนอื่นเชื่อมั่นในตัวคุณ
6. คำพูดประเภท “ตกลง ผมจะพยายาม แต่ผมคิดว่ามันทำไม่ได้หรอก” เป็นทัศนคติที่จะนำไปสู่ความล้มเหลว
7. ความเชื่อเปรียบเสมือนตัวควบคุมอุณหภูมิที่ควบคุมสิ่งที่เราจะทำได้สำเร็จในชีวิต คนที่ตั้งอุณหภูมิความเชื่อไว้ต่ำ ความสำเร็จก็จะต่ำตามด้วย
8. ใครก็ตามที่เชื่อว่า “ฉันไม่มีความสำคัญ“ ทุกสิ่งที่เค้าทำ จะเป็นสิ่งที่ไม่มีความสำคัญ แล้วผลลัพธ์ก็จะออกมาไม่ดี
9. การขาดความเชื่อมั่นในตนเองจะแสดงออกผ่านวิธีการพูด การเดิน และท่าทางของของเรา
10. ทุก ๆ คนล้วนเป็นผลผลิตของความคิดตัวเอง ถ้าคุณเชื่อในสิ่งใหญ่ คุณจะเติบใหญ่ขึ้นตามความเชื่อของคุณ
11. จิตใจของคุณคือโรงงานความคิด ที่ผลิตความคิดไม่หยุดหย่อน ทุก ๆ ชั่วโมงความคิดถูกผลิตออกมานับไม่ถ้วน
12. เจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิต คือ นายชนะ/นายแพ้
นายชนะมีหน้าที่ผลิตความคิดที่เป็นบวก
เค้าเชี่ยวชาญในการผลิตเหตุผลที่จะสนับสนุนว่าทำไมคุณถึงสามารถทำได้
13. เจ้าหน้าที่อีกคนหนึ่งคือนายแพ้ เค้าจะผลิตความคิดที่เป็นลบหรือความคิดที่ล้มเหลว เค้าชำนาญในการหาเหตุผลว่าทำไมคุณถึงไม่สามารถทำได้
14. ถ้าพูดว่า “วันนี้แย่มาก” สัญญาณนี้จะเรียกนายแพ้ออกมาทำงาน
ถ้าพูดว่า “วันนี้เป็นวันที่ดีมาก” นายชนะจะรีบออกมาหาเราทันที
15. นายสำเร็จเวลาพ่ายแพ้ล้มเหลวเขาจะเรียนรู้และเอาชนะในที่สุด แต่นายแพ้ เวลาแพ้ เขาไม่รู้จักจำ
16. หน้าที่เราคือ ใช้งานนายชนะให้บ่อยที่สุด แล้วไล่นายแพ้ออกไป
17. แทนที่จะบ่นแนว ๆ “ฉันรู้สึกแย่” คุณควรจะดีใจที่สุขภาพของคุณดีเท่าที่เป็นอยู่
18. โลกไม่เคยสน ว่าเราจะฉลาดแค่ไหน มันอยู่ที่ว่าเราจะใช้สิ่งที่มีอยู่ยังไงต่างหาก
19. ทัศนคติสำคัญกว่าความเก่งกาจ
20. ความสามารถที่จะคิดมีค่ามากกว่าความสามารถในการจำข้อมูลตัวเลขมาก
21. อายุ ไม่เกี่ยวอะไรกับความสำเร็จ มันอยู่ที่ความคิด
22. เลิกคิดว่า “เราควรจะเริ่มมานานแล้ว” เพราะนั่นเป็นความคิดแห่งความล้มเหลว แต่คิดว่า “เราจะเริ่มทำเดี๋ยวนี้ อนาคตที่สดใสรออยู่ข้างหน้า” นี่คือสิ่งที่คนประสบความสำเร็จคิด
23. ข้ออ้างเรื่องโชค คือ “แต่กรณีของผมไม่เหมือนของคนอื่น ผมโชคไม่ดี”
24. มีหลัก 2 ประการที่เอาชนะข้ออ้างเรื่องโชค
ข้อแรก ยอมรับกฎของเหตุและผล ไม่ใช่เป็นเรื่องของดวง แต่เป็นเรื่องของการเตรียมการ การวางแผน และความคิดที่มุ่งสู่ความสำเร็จ
25. ข้อสอง อย่าเป็นคนเพ้อฝัน ความสำเร็จมาจากการกระทำและการเรียนรู้อย่างลึกซึ้งถึงหลักการต่างๆที่ทำให้เกิดความสำเร็จ
26. อย่าพึ่งดวงเพื่อความก้าวหน้าในตำแหน่งงาน หรือให้ได้สิ่งดีๆในชีวิต ตรงกันข้าม เน้นการพัฒนาคุณสมบัติต่างๆในตัวเองที่จะทำให้คุณเป็นผู้ชนะ
27. ถ้าอยากสร้างความเชื่อมั่นในตนเองและทำลายความหวาดกลัว
ต้องยอมรับว่า ความกลัว เป็นสิ่งที่มีตัวตนอยู่จริงก่อน
28. ไม่มีคนที่เกิดมาพร้อมความมั่นใจ
คนที่มีความมั่นใจสูง คนที่ดูเหมือนไม่วิตกกังวล ได้ความมั่นใจมาจากการฝึกฝนเองทั้งสิ้น
29. การไม่ตัดสินใจ การเลื่อน การผัดวันประกันพรุ่ง ทำให้ความกลัวเติบโต
30. 2 ขั้นพิชิตความกลัว
หนึ่ง พิจารณาให้แน่ชัดว่าคุณกลัวอะไร
31. สอง ลงมือทำ จำไว้ว่าการลังเลมีแต่จะทำให้ความกลัวขยายใหญ่ขึ้น ลงมือทำทันที ตัดสินใจให้เด็ดขาด
32. สมองคุณมีอะไรหลายอย่างเหมือนธนาคาร ทุก ๆ วันคุณฝากความคิดไว้ในธนาคารจิตใจของคุณ ความคิดที่คุณฝากไว้จะโตขึ้นและกลายเป็นความจำของคุณ
33. ทุกคืนก่อนเข้านอน ฝากความคิดที่ดีทั้งหลายไว้ในธนาคารความจำของคุณ ด้วยการนับสิ่งดี ๆ ที่เกิดขึ้น อะไรที่ทำให้คุณดีใจ อย่างน้อยควรดีใจกับการที่มีชีวิตอยู่
34. เมื่อคุณจะระลึกถึงเหตุการณ์ใดก็ตาม เน้นตรงส่วนที่ดีของประสบการณ์ ลืมส่วนที่แย่ ฝังมันไว้ ครั้งใดที่รู้สึกว่ากำลังคิดถึงด้านที่เป็นลบ รีบเปลี่ยนไปคิดอย่างอื่นทันที
35. มีหลัก 2 ประการในการมองคนอื่น คือ
หนึ่ง มองคนอื่นด้วยภาพที่เท่าเทียมกับตนเอง
ไม่ว่าเค้าจะดูยิ่งใหญ่ขนาดไหน เค้าก็ยังเป็นมนุษย์เดินดินที่ยังมีความสนใจ มีกิเลส และมีปัญหาเช่นเดียวกับคุณ
36. สอง สร้างทัศนคติในการเข้าใจคนอื่น
ท่องไว้ “ลึกๆแล้วเขาคงจะเป็นคนดี คนส่วนมากเป็นคนดี คนส่วนมากเป็นคนดี”
37. การทำสิ่งที่ถูกต้องจะทำให้คุณมีความอิ่มเอิบใจ และช่วยสร้างความรู้สึกมั่นใจในตนเอง
38. เมื่อคุณทำสิ่งที่คุณรู้ว่าเป็นความผิด จะเกิดสิ่งที่เป็นลบ 2 ประการคือ ประการแรก คุณรู้สึกเป็นความผิดและความผิดนี้กัดกร่อนความมั่นใจในตัวคุณเอง
39. ประการที่สอง ไม่ช้าหรือเร็วคนอื่นจะค้นพบและเลิกเชื่อถือในตัวคุณ
40. ทำในสิ่งที่ถูกต้องและรักษาความมั่นใจในตนเอง นั่นคือการคิดที่ทำให้ตนเองประสบผลสำเร็จ
41. ใส่เฉพาะความคิดที่เป็นบวกลงในความทรงจำ ปฎิเสธที่จะฟื้นความหลังที่ขมขื่นทุกประการ
42. จำไว้ว่า คนเรามีความเหมือนกันมากกว่าที่จะแตกต่างกัน เค้าก็เป็นเพียงมนุษย์อีกคนหนึ่งเหมือน ๆ กับเรา
43. เทคนิคเล็กๆน้อยๆที่คุณควรฝึก เพื่อเพิ่มความมั่นใจ
คือ หนึ่ง เป็นคนนั่งแถวหน้าเวลาเรียนหรือสัมมนา
สอง สบตา
สาม เดินเร็วขึ้น25%
สี่ พูดแสดงความเห็น
ห้า ยิ้มอย่างเปิดเผย
44. ยิ่งคิดใหญ่ คู่แข่งยิ่งน้อย เพราะคนส่วนใหญ่ คิดเล็ก
45. ใช้คำหรือวลีที่ใหญ่ เป็นบวก ในการอธิบายความรู้สึก ทุกครั้งถ้ามีคนถามคุณว่า “เป็นยังไงบ้าง” ตอบไปเลยว่า “เยี่ยมมาก ขอบคุณ แล้วคุณล่ะ”
46. ใช้คำที่สดใส รื่นเริง และนิยมชมชอบในการพูดถึงคนอื่น เมื่อคุณคุยกับคนอื่นถึงบุคคลที่ 3 ให้แน่ใจว่าคุณพูดถึงเค้าในทางที่ดี
47. ใช้คำพูดที่เป็นบวก ให้กำลังใจคนอื่น ชื่นชมคนอื่นทุกโอกาสที่เป็นไปได้ เพราะ การชื่นชมอย่างจริงใจเป็นเครื่องมือแห่งความสำเร็จ
48. อย่ามองสิ่งต่าง ๆ แค่ตามที่มันเป็นอยู่
ให้มองว่ามันจะเป็นอะไรได้บ้าง
49. การมีวิสัยทัศน์ที่ยาวไกล ช่วยเพิ่มคุณค่าให้กับทุกสิ่ง นักคิดที่ยิ่งใหญ่มองว่าจะทำอะไรได้ในอนาคต และไม่ติดอยู่กับสิ่งที่เป็นอยู่
50. สิ่งที่ทำกำไรให้กับธุรกิจทุกแห่งก็คือ ลูกค้าที่กลับมาใช้บริการอีก บ่อยครั้งที่การขายครั้งแรกมักจะไม่ได้กำไร
51. กำลังซื้อของลูกค้าในอนาคตจะต้องถูกนำมาพิจารณาด้วย ไม่ใช่ดูเฉพาะสิ่งที่เขาซื้อในวันนี้
52. มูลค่าที่โลกจะให้กับเรานั้น ถูกกำหนดโดยราคาที่เราติดไว้บนตัวของเราเอง
53. คนที่คิดใหญ่ มองตัวเองไม่ใช่แค่ในฐานะของบุคคลแต่ละคนเท่านั้น แต่มองในฐานะที่ตนเป็นส่วนหนึ่งของทีม มีส่วนชนะหรือแพ้กับทีม
54. เมื่อคุณกำลังคิดอยากจะทำสิ่งที่เป็นลบ ไม่ว่าจะ เดือดร้อนตัวเอง หรือเดือดร้อนคนอื่น ให้ถามตัวเองว่า “มันเป็นเรื่องสำคัญจริง ๆ เหรอ?”
55. ถามตัวเองว่า “ผมจะทำได้ดีขึ้นได้อย่างไร?”พลังความคิดสร้างสรรค์ของคุณจะถูกเปิดออกมา และวิธีการที่จะทำสิ่งต่าง ๆ ให้ดีขึ้นก็จะตามมา
56. วิธีกระตุ้นจิตใจ ให้อยากลุกออกไปทำงาน คือ
หนึ่ง เข้าร่วมและพบปะอย่างสม่ำเสมอกับกลุ่มคนที่อยู่ในวิชาชีพเดียวกันอย่างน้อยหนึ่งกลุ่ม สิ่งนี้จะช่วยกระตุ้นให้คุณตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา
57. สอง เข้าร่วมกับกลุ่มคนที่อยู่นอกสายงานของคุณเองอย่างน้อยหนึ่งกลุ่ม
58. คนที่รู้สึกว่าเขาไม่มีความสำคัญ ย่อมเป็นคนที่ไม่สำคัญในสายตาคนอื่น
59. สิ่งที่คุณคิด กำหนดสิ่งที่คุณทำ
สิ่งที่คุณทำ กำหนดสิ่งที่คนอื่นจะมีปฏิกิริยากับคุณ
60. การกระทำ พฤติกรรมที่แสดงออกมา กำหนดว่าคนอื่นจะคิดถึงคุณอย่างไร
61. ในเรื่องเกี่ยวกับการแต่งตัว หรือดูแลตัวเอง คุณภาพเป็นสิ่งที่สำคัญมากกว่าปริมาณมาก
ซื้อเสื้อผ้า หรือเครื่องประดับน้อยชิ้น แต่ซื้อให้ดีไปเลย
62. แสดงทัศนคติทางด้านบวกเสมอเกี่ยวกับงานของคุณ
63. ถามตัวคุณเองว่า “ฉันมีค่าในทุกด้าน ที่สมควรแก่การเลียนแบบหรือไม่”
64. คุณถูกตีค่าตามลักษณะของเพื่อนที่คุณคบ เปรียบเช่นนกประเภทเดียวกันบินเกาะกลุ่มกัน
65. การหาเพื่อนใหม่ๆร่วมกับองค์กรใหม่ๆจะช่วยขยายวงสังคมของคุณ
66. ศึกษาให้ลึกลงไปแล้วคุณจะเกิดความกระตือรือร้น ใช้หลักการนี้ช่วยคุณในคราวต่อไปที่คุณพบว่าตัวเองเริ่มเบื่องาน เพียงแค่ขุดคุ้ยให้ลึกลงไปแล้วคุณจะพบความน่าสนใจ
67. เวลาที่ขอบคุณใคร คุณควรให้คำว่า “ขอบคุณ” ของคุณ มีความหมายว่า “ขอบคุณมากๆ”
68. คำพูดที่พูดอย่างกระตือรือร้น อาจจะได้รับการจดจำเป็นเดือนหรือแม้แต่เป็นปี แต่คำพูดที่ปราศจากความกระตือรือร้น จะถูกลืมก่อนที่วันอาทิตย์หน้าจะมาถึงซะอีก
69. เล่าสิ่งที่สนุกสนานรื่นเริงที่คุณประสบ และปล่อยให้สิ่งที่ไม่รื่นรมย์ทั้งหลายถูกเก็บเข้ากรุหรือฝังไว้
70. เมื่อใดก็ตามที่คุณกล่าวลาคนที่คุณได้พูดคุยด้วย ให้ถามตัวเองว่า “คนคนนี้รู้สึกดีขึ้นเพราะว่าการที่ได้พูดคุยกับผมหรือไม่
71. “ให้โลกที่สดใสแก่เขา หรือไม่ก็อย่าให้อะไรเลย”
72. ความต้องการที่จะเป็นคนสำคัญเป็นความต้องการที่แรงกล้าของมนุษย์
73. คนทำงานให้คุณมากขึ้นเมื่อคุณทำให้เขารู้สึกว่าเป็นคนสำคัญ
74. การช่วยให้คนอื่นรู้สึกสำคัญได้รับผลตอบแทน เพราะว่ามันทำให้คุณรู้สึกสำคัญยิ่งขึ้น
75. คนที่มีทัศนคติว่าเงินคือพระเจ้า จะห่วงแต่การหาเงินมากจนกระทั่งเขาลืมไปว่าเงินนั้นไม่สามรถจะเก็บเกี่ยวได้
76. ยกเว้นแต่ว่าเขาจะได้หว่านเมล็ดที่จะเติบโตเป็นเงินเสียก่อน และเมล็ดของเงินก็คือ บริการ
77. นั่นคือเหตุผลว่าทำไมทัศนคติ “บริการเหนือสิ่งอื่นใด” จึงสร้างความมั่งคั่ง
78. ดังนั้น ให้บริการก่อนและเงินจะตามมาเอง
79. คุณไม่ได้เงินเดือนเพิ่มจากคำสัญญาที่จะทำให้ดีขึ้นในอนาคต คุณได้เงินเดือนเพิ่มต่อเมื่อคุณแสดงถึงผลงานที่ดีกว่า
80. ถ้าอยากให้คนชอย การให้ของขวัญหรือของฝาก เป็นสิ่งที่ดีมาก
แต่ต้องจริงใจ และตรงกับความชอบของผู้รับ
81. ถ้าไม่มีความจริงใจ
ของขวัญนั้นก็ไม่มีความหมายมากไปกว่าสินบนชิ้นหนึ่ง
82. ความเป็นเพื่อนไม่สามารถที่จะซื้อได้ ถ้าคุณพยายามที่จะทำ คุณจะเสียใน 2 สิ่งคือ
หนึ่ง เสียเงิน
สอง โดนดูถูก
83. ควรเป็นผู้ริเริ่มในการพูดคุยกับคนอื่น
คนทั่วไปไม่เคยริเริ่มในการแนะนำตัว เขารอให้คนอื่นเริ่มก่อน
84. หลักในการอยู่ร่วมกับคนอื่น 3 ข้อ คือ
หนึ่ง ยอมรับความจริงว่าไม่มีใครสมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์
สอง ยอมรับว่าคนอื่นมีสิทธิที่จะแตกต่าง
สาม อย่าเป็นคนชอบแย้ง แต่เพิ่มความคิดประเภท “ต่างคนต่างก็ดี” ลงในหลักปรัชญาของคุณ
85. ถ้าทุกคนในโลกนี้เหมือนกันหมดและทุกคนเป็นคนที่สมบูรณ์ โลกเราคงเป็นสถานที่ที่น่าเบื่อที่สุด
86. โฟกัสไปที่กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย
ก่อนจะขายของใคร ทบทวนเหตุผลที่จะทำให้เราชื่นชอบเขา
87. วิธีการที่คุณคิดเมื่อคุณแพ้จะเป็นตัวกำหนดว่าอีกนานเท่าไหร่คุณถึงจะชนะ
88. บทพิสูจน์ของผู้ที่ประสบความสำเร็จไม่ใช่อยู่ที่ความสามารถในการขจัดปัญหาทั้งหมดออกไปก่อนที่มันจะเกิดขึ้น แต่อยู่ที่การเผชิญและแก้ไขปัญหาเมื่อมันเกิดขึ้นจริงๆ
89. เราต้องพร้อมที่จะยอมรับความไม่สมบูรณ์ 100 เปอร์เซ็นต์
90. การลงมือทำ ช่วยสร้างเสริมความมั่นใจ แต่การไม่ทำในทุกรูปแบบ สร้างความกลัว
91. มันเป็นไปไม่ได้ที่จะประสบความสำเร็จอย่างสูงโดยปราศจาก แรงเสียดทาน การทำงานหนัก และความพ่ายแพ้
92. การลงทุนที่แย่ ๆ ในครั้งแรกเป็นส่วนหนึ่งของต้นทุนในการศึกษา
เพื่อพัฒนาตัวเอง
93. จงกล้าวิจารณ์ตัวเอง เพราะมันช่วยให้คุณแกร่งขึ้น และเพิ่มประสิทธิภาพของตัวเอง ซึ่งจำเป็นต่อความสำเร็จ
94. จงยึดมั่นอยู่ในเป้าหมายของคุณ อย่าเฉออกไปแม้เพียงนิ้วเดียวจากเป้าหมายนั้น
แต่อย่าเอาหัวชนฝา ถ้าคุณทำแล้วไม่เกิดผลควรลองหาวิธีใหม่
95. การไม่เดินตามความปรารถนาในใจคุณ คือหนทางสู่ความล้มเหลว
96. หั่นเป้าหมายใหญ่ ให้กลายเป็นวิธีการย่อย แล้วทำทีละขั้น คือวิธีเดียวที่คุณจะสามารถเอาชนะงานที่น่ากลัวได้
97. อาคารสวยงาม ล้วนถูกสร้างขึ้นจากอิฐก้อนเล็ก ๆ ที่ดูเหมือนไม่มีความสำคัญ ชีวิตที่ประสบความสำเร็จก็ถูกสร้างขึ้นมาโดยวิธีการเดียวกันครับ
98. ถ้าเราแค่สามารถทำในสิ่งที่เครื่องจักรเครื่องหนึ่งสามารถทำได้ นั่นแสดงว่าเราไม่มีคุณสมบัติสู่ความสำเร็จ
99. หลักการอ่านใจคนอื่น
หนึ่ง คิดถึงสถานการณ์ของเขา
สอง ถามตัวเอง ถ้าฉันตกอยู่ในสถานการณ์เช่นเดียวกับเขา ฉันจะคิดยังไง พูดยังไง ทำยังไง
100. ทำ 2 สิ่งนี้ ถ้าอยากสำเร็จในสิ่งที่ทำ
หนึ่ง คิดพัฒนาปรับปรุงในทุก ๆ สิ่งที่คุณทำ
สอง ตั้งมาตรฐานให้สูงในทุก ๆ สิ่งที่คุณทำ
หนังสือเล่มนี้เขียนเมื่อปี ค.ศ. 1991
ผ่านมา 30 ปี หลักการยังคงใช้ได้ดีครับ
และคาดว่าน่าจะใช้ได้อีกนาน
ลองนำไปปรับใช้กันดูนะครับ
ใครอ่านจบ -> พิมพ์ 1 หรือ แบ่งปันกันครับว่าคุณได้อะไรจากบทความนี้
ถ้าเห็นว่ามีประโยชน์ -> แชร์ได้เต็มที่ครับ
และถ้าชอบเรื่องราวแบบนี้ -> กดติดดาวได้นะคร้าบ
ทีมงาน
#ตกผลึกBooks
#วิศวกรContent
ติดตามเราได้ที่
Facebook Fanpage : ตกผลึก Books : ความรู้ท่วมหัว เอาตัวให้รอด
Line Square : "ตกผลึก Books"
โฆษณา