31 พ.ค. 2021 เวลา 11:59 • สุขภาพ
ประโยชน์ของ กล้วยน้ำว้า
วิธีการกินเพื่อสุขภาพ และข้อควรระวัง
กล้วยน้ำว้า ผลไม้ที่คนไทยคุ้นเคยเป็นอย่างดี เพราะนอกจากหาซื้อง่าย รสชาติดี นำมาแปรรูปเป็นเมนูต่างๆ ได้หลากหลายแล้ว ยังเป็นผลไม้ที่หลายคนนิยมใช้บำรุงร่างกายและลดน้ำหนัก ที่สำคัญยังมีประโยชน์และสรรพคุณทางยาอีกมากมาย จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย
รู้จักกล้วยน้ำว้า
กล้วยน้ำว้าคือเป็นผลไม้ที่มีมาแต่โบราณ โดยเป็นแหล่งพลังงานสำรองชั้นดี และยังอุดมไปด้วยน้ำตาลธรรมชาติมากถึง 3 ชนิด ไม่ว่าจะเป็นซูโครส ฟรุกโตสและกลูโคส นอกจากนี้ยังมีเส้นใย กากอาหาร วิตามินบี 6 ซึ่งมีส่วนช่วยกระตุ้นระบบภูมิต้านทาน และยังมีแร่ธาตุอย่างแมกนีเซียมและโพแทสเซียมที่มีช่วยป้องกันโรคความดันได้อีกด้วย
นอกจากนี้เมื่อเปรียบเทียบกับกล้วยสายพันธุ์อื่นๆ กล้วยน้ำว้าถือเป็นกล้วยที่ให้แคลเซียมสูงสุด และยังอุดมไปด้วยวิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 6 และวิตามินซี สำหรับสารอาหารที่ทำให้กล้วยชนิดนี้พิเศษกว่ากล้วยชนิดอื่นๆ คือ เป็นแหล่งของโปรตีน กรดอะมิโน อาร์จินิน และฮีสติดิน ซึ่งสารอาหารทั้งหมดนี้ ล้วนจำเป็นต่อการเจริญเติบโตของทารก ผู้ใหญ่จึงมักบดกล้วยน้ำว้าให้เด็กๆ รับประทานนั่นเอง
คุณค่าทางโภชนาการของกล้วยน้ำว้า
กล้วยน้ำว้า 100 กรัม ให้คุณค่าทางโภชนาการดังนี้
พลังงาน 122 กิโลแคลอรี, โปรตีน 1.2 กรัม, ไนอาซิน 0.6  มิลลิกรัม, วิตามินซี 14.0  มิลลิกรัม, คาร์โบไฮเดรต 26.1 กรัม, แคลเซียม 12.0 มิลลิกรัม, ไขมัน 0.3 กรัม, ฟอสฟอรัส 32.0 มิลลิกรัม, วิตามินเอ 375 หน่วยสากล, เหล็ก 0.8 มิลลิกรัม, วิตามินบี 1 0.03 มิลลิกรัม, วิตามินบี 2 0.04 มิลลิกรัม, น้ำ 7.6 กรัม
ประโยชน์ของกล้วยน้ำว้า
สรรพคุณทางยาของกล้วยชนิดนี้มีมากมาย ดังนี้
1.แก้อาการนอนไม่หลับ
มีส่วนช่วยแก้อาการนอนไม่หลับ ช่วยลดอาการหงุดหงิดของผู้หญิงที่อยู่ในช่วงมีประจำเดือน รักษาโรคซึมเศร้า และช่วยลดความเครียดได้ เนื่องจากสารอาหารบางชนิด เช่น โปรตีน ทริปโตเฟน ที่อยู่ในกล้วยมีส่วนช่วยในการผลิตสารเซโรโทนิน หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อฮอร์โมนแห่งความสุข จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเมื่อรับประทานแล้วจึงทำให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลายและอารมณ์ดีขึ้นได้
2.บรรเทาอาการของโรคริดสีดวงทวาร และป้องกันการเกิดโรคมะเร็งลำไส้
หากกำลังเผชิญปัญหาเกี่ยวกับการขับถ่าย ถ่ายเป็นเลือดหรือเป็นโรคริดสีดวงทวาร กล้วยน้ำว้าช่วยได้ เพราะมีกากใยจำนวนมาก ทำให้อุจจาระนุ่ม จึงมีส่วนช่วยบรรเทาอาการดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังมีฤทธิ์ในการป้องกันการเกิดมะเร็งในลำไส้ด้วย
3.รักษาโรคโลหิตจาง
เนื่องจากกล้วยน้ำว้าอุดมไปด้วยธาตุเหล็กสูง จึงช่วยในการผลิตฮีโมโกลบินในเลือด ผู้ที่มีปัญหาโลหิตจางจึงสามารถรับประทานเพื่อช่วยบรรเทาอาการได้
4.บรรเทาโรคกระเพาะอาหาร
กล้วยน้ำว้าดิบมีฤทธิ์ต้านการเกิดแผลในกระเพาะอาหารได้ โดยจะออกฤทธิ์สมานแผลและช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับเนื้อเยื่อเมือกในกระเพาะ และยังช่วยลดอาการเสียดท้อง รวมถึงช่วยลดกรดในกระเพาะอาหารด้วย ผู้ที่เป็นโรคกระเพาะหรือกระเพาะอักเสบ ควรรับประทานเป็นประจำทุกวัน เพื่อช่วยรักษาแผลลำไส้ชนิดเรื้อรัง เพราะกล้วยน้ำว้านั้นมี มีเซโรโทนิน ซึ่งช่วยให้กระเพาะหลั่งเมือกมาปกคลุม ทำให้กรดไม่สามารถกัดกะเพราะได้
5.แก้อาการท้องเสีย
กล้วยน้ำว้าอุดมไปด้วยสารแทนนิน ซึ่งมีส่วนช่วยรักษาอาการท้องเสียชนิดที่ไม่รุนแรง (แทนนินทำให้ท้องผูก)
6.ช่วยชะลอความแก่
สารต้านอนุมูลอิสระที่อุดมอยู่ในกล้วยน้ำว้ามีส่วนช่วยชะลอความแก่ได้ ดังนั้นผู้ที่อยากชะลอวัยให้ผิวพรรณยังแลดูอ่อนเยาว์ ควรรับประทานเป็นประจำ
7. ช่วยลดน้ำหนัก
กล้วยน้ำว้ามีส่วนช่วยปรับระดับน้ำตาลในเลือดได้ และมีกากใยสูงซึ่งช่วยให้อิ่มไว จึงช่วยลดอาการอยากรับประทานของจุบจิบได้
ฝากกดติดตามด้วยนะครับ🥰
โฆษณา