31 พ.ค. 2021 เวลา 13:19 • ประวัติศาสตร์
🇮🇪 รู้จักกับไออาร์เอ (IRA)
กลุ่มก่อการร้ายชื่อดังแห่งไอร์แลนด์เหนือ
เชื่อเหลือเกินว่าหลายคนอาจจะเคยได้ยินเรื่องราวของกลุ่มก่อการร้ายไออาร์เอ (IRA) ที่ได้ทำการต่อสู้กับกองทัพสหราชอาณาจักร และได้ก่อวินาศกรรมรวมไปถึงก่อความรุนแรงในประเทศไอร์แลนด์เหนือ ตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 1960 จนถึงทศวรรษที่ 2000 กันอย่างแน่นอน
1
แต่ยังมีอีกหลายคนที่อาจจะยังไม่รู้ว่า กลุ่ม IRA นี้ คืออะไร มีจุดกำเนิดอย่างไร แล้วทำไมพวกเขาถึงต้องต่อสู้กับกองทัพสหราชอาณาจักรด้วย ในบทความนี้ เราจะพาทุก ๆ คน ไปทำความรู้จักกับกลุ่มก่อการร้ายนี้กันครับ
1
IRA กลุ่มก่อการร้ายในไอร์แลนด์เหนือ ที่มีเป้าหมายในการต่อสู้กับสหราชอาณาจักร
ก่อนอื่นเราจะต้องย้อนกลับไปตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 16 กันก่อน โดยในตอนนั้นไอร์แลนด์ได้ตกเป็นส่วนหนึ่งของอังกฤษ ก่อนที่ในปี 1800 อังกฤษ, ไอร์แลนด์, เวลส์, รวมไปถึงสกอตแลนด์ จะรวมกันเป็นหนึ่งเดียว กลายเป็นสหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์ (United Kingdom of Great Britain and Ireland)
แต่นับตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 19 เป็นต้นมา ก็ได้เกิดความขัดแย้งขึ้นขึ้นภายในเกาะไอร์แลนด์ ซึ่งมีสาเหตุมาจากประชากรส่วนใหญ่ของไอร์แลนด์ หรือชาวไอริช (Irish) นั้น เป็นชาวคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก (Roman Catholic)
2
แต่ในขณะที่ชาวอังกฤษรวมไปถึงชาวสกอต ซึ่งเป็นประชากรส่วนใหญ่ของสหราชอาณาจักร และได้อพยพมาอยู่ที่ไอร์แลนด์ พวกเขาเป็นชาวคริสต์นิกายโปรเตสแตนต์ (Protestant) ทำให้เกิดเป็นความขัดแย้งทางด้านศาสนา ระหว่างชาวไอริชกับชาวอังกฤษและชาวสกอตที่อพยพเข้ามา
นอกจากเรื่องของศาสนาแล้ว ความขัดแย้งทางด้านเศรษฐกิจรวมไปถึงด้านสังคม ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญของความขัดแย้งภายในไอร์แลนด์อีกด้วย
ความขัดแย้งดังกล่าวนี้เอง ที่ทำให้มีชาวไอริชหัวรุนแรงบางกลุ่มได้จัดตั้งกองกำลังขึ้นมาเพื่อต่อสู้กับทางการสหราชอาณาจักร โดยมีเป้าหมายสำคัญคือการแบ่งแยกไอร์แลนด์จากการเป็นส่วนหนึ่งของสหราชอาณาจักร และก่อตั้งประเทศเอกราชของชาวไอริชขึ้นมา
โดยในปี 1913 ได้มีการก่อตั้งกองกำลังอาสาสมัครไอริช (Irish Volunteer) ซึ่งกลุ่มอาสาสมัครไอริชนี้ ถือเป็นต้นแบบสำคัญของกลุ่ม IRA ในเวลาต่อมา
1
Irish Volunteer ต้นแบบสำคัญของ IRA
จนกระทั่งในปี 1920 สหราชอาณาจักรและไอร์แลนด์ได้ตกลงทำสนธิสัญญาพระราชบัญญัติการปกครองไอร์แลนด์ (Government of Ireland Act) อันส่งผลให้มีการแบ่งไอร์แลนด์ออกเป็น 2 ส่วน โดยดินแดนตอนใต้และตะวันตกเฉียงเหนือของไอร์แลนด์ จะแยกตัวออกจากสหราชอาณาจักร และกลายเป็นประเทศเอกราชที่ชื่อว่า "เสรีรัฐไอริส" (Irish Free State) ซึ่งในเวลาต่อมาจะกลายมาเป็นสาธารณรัฐไอร์แลนด์ (Ireland Republic) ที่มีเมืองหลวงอยู่ที่กรุงดับลิน (Dublin)
ส่วนดินแดนตอนเหนือของไอร์แลนด์ซึ่งมีประชากรเป็นชาวคริสต์นิกายโปรเตสแตนต์ จะยังคงเป็นส่วนหนึ่งของสหราชอาณาจักรต่อไป ในชื่อไอร์แลนด์เหนือ (Northern Ireland) มีเมืองหลวงอยู่ที่กรุงเบลฟัสต์ (Belfast)
แต่ปรากฏว่า ฃยังมีกลุ่มชาวไอริชหัวรุนแรงที่อยู่ในไอร์แลนด์เหนือ และเป็นชาวคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก ไม่พอใจต่อทางการไอร์แลนด์เหนือที่ยังคงอยู่กับสหราชอาณาจักรต่อไป
1
ดังนั้นชาวไอริสหัวรุนแรงเหล่านี้จึงได้จัดตั้งกองกำลังขึ้นมาในชื่อ "กองทัพสาธารณรัฐไอร์แลนด์" (Irish Republic Army หรือ IRA) เพื่อนำไอร์แลนด์เหนือแยกตัวจากสหราชอาณาจักร และไปเข้าร่วมกับสาธารณรัฐไอร์แลนด์
นับตั้งแต่นั้นมาไอร์แลนด์เหนือก็ได้เกิดความขัดแย้งขึ้นระหว่างฝ่ายชาตินิยม (Nationalist) นำโดยกองกำลัง IRA กับฝ่ายสหภาพ (Unionist) ซึ่งนำโดยกองทัพอังกฤษและชาวไอริชที่สนับสนุนสหราชอาณาจักร การต่อสู้ของทั้งสองฝ่ายกินเวลายาวนานกว่าหลายทศวรรษ
เวลาผ่านไปจนถึงช่วงทศวรรษที่ 1960 ได้มีการเจรจากันระหว่างสหราชอาณาจักรซึ่งนำโดยอังกฤษ กับฝ่ายกองกำลัง IRA ซึ่งดูเหมือนว่าความขัดแย้งในครั้งนี้จะยุติลง
แต่ปรากฏว่าได้มีสมาชิกของ IRA บางส่วน ที่ไม่พอใจต่อองค์กรของพวกเขา ที่มีท่าทีประนีประนอมกับทางสหราชอาณาจักร ทำให้สมาชิกเหล่านั้น ได้ประกาศแยกตัวจาก IRA ดั้งเดิม และจัดตั้งกองทัพสาธารณรัฐไอร์แลนด์ชั่วคราว (Provisional Irish Republic Army หรือ PIRA) ซึ่งเป็นกลุ่ม IRA ที่มีความโหดร้ายและหัวรุนแรงมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้กลุ่ม PIRA ยังได้รับการสนับสนุนจากพรรคซินเฟน (Sinn Fein) พรรคการเมืองฝ่ายซ้ายจัดในสาธารณรัฐไอร์แลนด์ รวมไปถึงเงินทุนสนับสนุนจากชาวไอริชที่อาศัยอยู่ในสาธารณรัฐไอร์แลนด์ สหรัฐอเมริกา รวมไปถึงแคนาดาอีกด้วย
*** นอกจากกลุ่ม PIRA ที่แยกตัวจาก IRA ดั้งเดิมแล้ว ยังมีกลุ่ม OIRA (Original IRA) RIRA (Real IRA) รวมไปถึง CIRA (Continuity IRA) อีกด้วย
1
โดยนับตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 1960 จนถึงปลายทศวรรษที่ 1990 กลุ่ม IRA (ซึ่งก็คือกลุ่ม PIRA) ได้ก่อการวินาศกรรมและเริ่มปฏิบัติก่อการร้ายอย่างเต็มรูปแบบในไอร์แลนด์เหนือ ช่วงเวลาดังกล่าวถูกเรียกว่า "ยุคแห่งปัญหา" (The Trouble)
เหตุวินาศกรรมโดยฝีมือของ IRA
กลุ่ม IRA ได้ออกปฏิบัติการก่อการร้าย ทั้งวางระเบิด, ปล้นธนาคาร, ก่อวินาศกรรม รวมไปถึงสังหารชาวไอริชที่สนับสนุนสหราชอาณาจักร โดยไม่สนใจว่าคนที่ถูกฆ่านั้นจะเป็นทหารหรือเป็นพลเรือนทั่วไป ปฏิบัติดังกล่าวรุนแรงอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงปี 1972 ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายพันคน
การต่อสู้ระหว่างกองทัพสหราชอาณาจักรซึ่งนำโดยอังกฤษ ฃกับกลุ่ม IRA ในไอร์แลนด์เหนือนี้ ก่อให้เกิดความสูญเสียทั้งในด้านชีวิตและทรัพย์สิน โดยมีผู้เสียชีวิตจากการก่อการร้ายของ IRA มากกว่า 3,000 คน และบาดเจ็บอีกกว่า 4 หมื่นคน
หลังจากการต่อสู้อันยาวนาน ในที่สุดในปี 1998 ทั้งสองฝ่ายจะบรรลุข้อตกลงเบลฟัสต์ (Belfast Agreement) เพื่อเป็นการยุติความขัดแย้ง ก่อนที่ในปี 2005 กลุ่ม IRA จะประกาศยุติการก่อการร้ายทั้งหมด และจะต่อสู้ในทางการเมืองเท่านั้น นับเป็นจุดสิ้นสุดของความขัดแย้งในไอร์แลนด์เหนือที่กินเวลานานกว่า 30 ปี
แต่ทว่าในความเป็นจริงแล้ว ก็ยังมีกลุ่ม IRA บางส่วน (ตัวอย่างเช่นกลุ่ม RIRA) ที่ยังคงออกปฏิบัติการและก่อเหตุความรุนแรงอยู่ในไอร์แลนด์เหนืออยู่จนถึงปัจจุบัน
กลุ่มก่อการร้ายบางส่วนอย่าง RRIA ยังคงเคลื่อนไหวจนถึงปัจจุบัน
*** Reference
#HistofunDeluxe
โฆษณา