31 พ.ค. 2021 เวลา 16:00 • ประวัติศาสตร์
แพล่ม
“แพล่ม” อ่านว่า /แพฺล่ม/ ไม่ใช่ /แพ-ล่ม/
เวลาพูดออกเสียงสั้นแบบสระ แ-ะ ไม่ออกเสียงยาวแบบสระ แ-
ภาษาถิ่นสุพรรณหมายถึงพูดมากไม่ยอมจบ
เช่น เมาแล้วชอบแพล่ม จะแพล่มอะไรหนักหนาน่ารำคาญ วันๆ ไม่ทำอะไรได้แต่นั่งแพล่ม
เพื่อนคนนครสวรรค์ พิจิตร พิษณุโลก นครราชสีมา กับรุ่นน้องคนแถบถิ่นอ.ท่าช้าง สิงห์บุรี ก็บอกบ้านเขาพูดคำนี้เหมือนกัน
บางคนว่าน่าจะออกเสียง ร เรือควบกล้ำเป็น “แพร่ม”
แต่หูส่วนใหญ่ฟังเป็น “แพล่ม” แบบ ล ลิงควบกล้ำ
หรือ “แพ่ม” ไม่มีควบกล้ำมากกว่า
เทียบกับคำความหมายใกล้เคียงกันในพจนานุกรมคือ “พล่าม” กับ “พร่ำ”
"พล่าม" หมายถึงเพ้อเจ้อ พูดซ้ำๆ ซากๆ ไม่รู้จักจบจนน่ารำคาญ
เช่น เวลาจะกินก็กินเลยอย่ามัวพล่าม ปล่อยให้ฉันพล่ามอยู่คนเดียว
วรรณคดีใช้เป็น “พลุ่มพล่าม” ก็มี ดังตัวอย่าง
“...ขืนจะเชื่อวาจาอีตาพราหมณ์ แก่พลุ่มพล่ามพูดพร่ำเที่ยวหยำเป...” (สิงหไกรภพ)
“...ว่าเพลาเพลาเจ้าฟังแม่ห้ามปราม พูดพลุ่มพล่ามพูดจะนำโทษจำตรึง...” (เสภาเรื่องอาบูหะซัน)
"พร่ำ" หมายถึงพูดซ้ำๆ ซากๆ
เช่น เธอพร่ำพูดเรื่องลูกเรื่องผัวครั้งแล้วครั้งเล่า
อีกคำที่น่าสนใจคือ “แพลม” หมายถึงแลบโผล่ออกมาจากสิ่งที่ปิดปัง
ธรรมดาใช้แก่วัตถุ เช่น เห็นธนบัตรแพลมออกมา
ใช้เป็นสแลงหมายถึงพูดให้ผู้อื่นล่วงรู้ข้อความที่ปิดบังอยู่
เช่น 'จตุพร' แพลม 'บิ๊กเบิ้ม' โค่นระบอบประยุทธ์! (ไทยโพสต์ ๒๙ เมษายน ๒๕๖๔)
เมื่อแพลมบ่อยๆ เข้า ก็กลายเป็นแพล่มได้เหมือนกัน
ผัวเมียคู่หนึ่งเป็นลิเก ผัวเล่นเป็นตัวตลก เมียเล่นเป็นนางรองบ้างนางร้ายบ้าง
ตาผัวรูปร่างแบบบางและเหยาะแหยะหยิบโหย่ง แต่ยายเมียสูงใหญ่ทะมัดทะแมง
"อะไรก็ดี--เสียแต่ชอบแพล่ม" ยายเมียเคยพูดถึงตาผัวสั้นๆ
วันหนึ่งทั้งสองมีปากเสียงกันตั้งแต่บ่าย จนต่างคนต่างแต่งหน้าแต่งตัวเตรียมออกไปแสดงแล้วตาผัวก็ยังไม่หยุด
ลิเกฉากนั้นจับตอนนางเอกถูกโจรป่าปล้น นางเอกจะต้องวิ่งหนีโจรเข้าและออกโรงลิเก ๓ ครั้งจึงจะโดนจับ
ยายเมียซึ่งรับบทเป็นนางรองก็ต้องถกกระโปรงวิ่งตามด้วย
รอบแรกก็เกิดปัญหา
นางเอกวิ่งเข้าโรงและออกจากโรงไปแล้ว แต่นางรองไม่ได้ออกมาตามบทเพราะตาผัวขยับมานั่งขวางทางพลางหาเรื่องพร่ำพูดไม่หยุดปาก
"เดี๋ยวมึงจะโดน" ยายเมียกัดฟันคำรามกรอดๆ ก่อนจะสะบัดขาหลุดแล้ววิ่งออกไปหานางเอก
รอบสอง
นางเอกหันรีหันขวางแล้ววิ่งเข้าโรงอีกครั้ง มีนางรองถกกระโปรงวิ่งตามไปติดๆ เช่นหนแรก
ถึงหลังโรงตาผัวทำท่าจะขยับมาขวางแต่เชื่องช้าตามวิสัย ยายเมียกระฉับกระเฉงกว่าจึงกระโดดข้ามหัวผัวพ้นไปได้อย่างหวุดหวิด
เสียงพูดพล่ามลำเลิกเบิกประจานเอ็ดอึงแข่งกับเสียงปี่พาทย์บนยกพื้นข้างโรงโขมงโฉงเฉง
จนรอบสุดท้าย
นางเอกวิ่งเข้าหลังโรงไปแล้ว ยายเมียวิ่งตามไปติดๆ แลเห็นผัวตัวเองพูดไม่หยุดปากไวๆ แต่ไกล
"ไอ้นี่ไม่ยอมหยุด" นางเมียคิดขณะวิ่งจวนใกล้จะถึงผัวเต็มที
นางเอกวิ่งผ่านผัวเธอไป จังหวะนั้นเธอถกกระโปรงง้างตีนเตะตรงตำแหน่งครึ่งปากครึ่งจมูกผัวโครมใหญ่ แล้ววิ่งออกไปแสดงต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ผัวเธอหยุดพูดทันที
จนเวลาล่วงไปนานมากเมื่อลูกๆถามว่าเป็นอย่างไรบ้างหลังถูกเตะ ตาผัวผู้แบบบางก็พร่ำบ่นอะไรต่อมิอะไรอีกยืดยาวหลายคุ้งน้ำ
"ล่อซะเลือดกบปาก--แดงอย่างกับทาลุดสะติกเลย--นี่ถ้าพ่อเอาจริงนะ--ไม่เหลือ--ผู้หญิงก็ผู้หญิงเถอะไม่สนอยู่แล้ว-------------------"
เมื่อถามว่าทำไมต้องลงบาทาทัณฑ์เพื่อปิดวาจาพ่อขนาดนั้น ยายเมียก็ตอบหน้าตาเฉยว่า
"พ่อมึงมันแพล่ม"
ปรัชญา ปานเกตุ เขียนเมื่อวันอาทิตย์ที่ ๓๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๔
#ศัพทาธิบาย #ศัพทานุกรม #ศัพทานุกรมวัฒนธรรมไทย #Lexicon of Thai Culture #ศัพทานุกรมวรรณคดีไทย # Lexicon of Thai Literature #วรรณคดี #วรรณกรรม #ประวัติศาสตร์ #ศิลปวัฒนธรรม #สิงหไกรภพ #เสภาเรื่องอาบูหะซัน #พล่าม #พร่ำ #แพลม #แพล่ม
ขอบคุณภาพจาก pixabay.com
โฆษณา