1 มิ.ย. 2021 เวลา 14:02 • การตลาด
YouTube เริ่มกฎใหม่วันนี้แล้ว “ข้อจำกัดและข้อกำหนดการจดจำใบหน้า”
1
Source:  Security Industry Association
ย้อนไปเมื่อหลายปีก่อนที่จะมีเทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตเข้ามาในวิถีชีวิตของคนไทย ที่หากจะมีโอกาสได้มีภาพเข้ากล้องวีดีโอหรือเดินเฉียดแล้วติดภาพเรา ถือเป็นเกียรติอย่างสูงแทบจะอ้อนวอนขอมีภาพติดเฟรมกับเขาบ้างด้วยซ้ำไป เพราะช่องทางสื่อสารในอดีตไม่กี่ปีที่ผ่านมาหากจะได้เห็นเป็นภาพวีดีโอหรือภาพเคลื่อนไหว ก็ต้องออกรายการทางช่องโทรทัศน์หรือย่อมลงมาหน่อยก็ประมาณเคเบิ้ลทีวี
2
ในเวลามีกองถ่ายภาพยนตร์ละครหรือมีการมาทำข่าว ก็ขอให้ได้เฉียดเข้าไปในเฟรมก็ถือเป็นความภาคภูมิใจแล้ว ซึ่งต้องลุ้นว่าเขาจะตัดออกหรือไม่ แต่หากเป็นรายการสดก็ถือว่าเป็นโอกาสดีที่ได้ปรากฏหน้าบนจอโทรทัศน์ที่มีการเผยแพร่ทั่วประเทศหรือในท้องถิ่น
2
ที่มา  warunchai58020883 - WordPress.com
ปัจจุบันการต้องการปรากฏตัวต่อสื่อเป็นไปได้อย่างง่ายดาย และยังสามารถแพร่ภาพไปได้ทั่วโลกแค่เพียงเสี้ยวของเสี้ยววินาที ในเวลาไหนก็ได้ อยากจะนำเสนอเรื่องอะไรก็ได้ มีสาระและไม่มีสาระก็ได้ ไม่ต้องที่ผู้มาควบคุมเนื้อหา ด้วยเทคโนโลยีการสื่อสารผ่านอินเตอร์เน็ตที่มีวิวัฒนาการแบบก้าวกระโดด แต่ก็ยังดีที่ยังมี พรบ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ที่มาปรามไว้มิเช่นนั้นคงเลยเถิดไปไหนต่อไหนแล้ว
1
“ยุคใหม่การตลาดของไทย” นอกจากจะมีช่องทางในการเผยแพร่ผ่าน Blockdit แล้ว ก็ยังมีช่องทาง Facebook Page และ Instagram
และแน่นอนว่ามีช่อง YouTube ในชื่อเดียวกันนี้ด้วยคือช่อง Modernization Marketing จึงทำให้ได้รับการแจ้งจาก YouTube เรื่องการออกกฎเกณฑ์ใหม่ที่มีข้อกำหนดในการจดจำใบหน้า สิทธิในการสร้างรายได้และเงื่อนไขการหักภาษีรายได้
สิ่งที่ส่งผลกระทบโดยตรงจากกฎใหม่ของ YouTube ครั้งนี้ก็คือข้อกำหนดในการจดจำใบหน้า ซึ่งมีข้อกำหนดคือ “ข้อกำหนดในการให้บริการระบุอยู่แล้วว่าคุณไม่สามารถเก็บข้อมูลใด ๆ ที่อาจระบุตัวบุคคลได้โดยไม่ได้รับอนุญาตจากบุคคลดังกล่าว แม้ข้อจำกัดนี้จะครอบคลุมถึงข้อมูลการจดจำใบหน้าด้วย แต่ข้อกำหนดใหม่จะช่วยชี้แจงให้จัดเจนยิ่งขึ้น”
3
การแจ้งเงื่อนไขใหม่จาก YouTube
อ่านแล้วก็เหมือนกฎหมายไทยที่ต้องตีความหลายชั้นจึงจะเข้าใจ แต่ที่แน่ ๆคือยังไม่มีความชัดเจน แต่ที่ชัดเจนคือทาง YouTube สามารถบังคับใช้กฎเกณฑ์ได้ทั้งที่ไม่มีความชัดเจน ถึงขั้นปิดช่องของเราได้ ยิ่งเป็นช่องที่มีการสร้างรายได้จำนวนมากแล้วยิ่งน่ากังวล
3
เรื่องนี้จะส่งผลกระทบต่อการถ่ายทำภาพทั้งภาพเคลื่อนไหวและภาพนิ่ง ที่จะต้องไม่มีการไปถ่ายติดคนที่ไม่ได้อนุญาตให้เราถ่าย หากเรานำไปลงในสื่อต่างๆแล้วพบว่ามีรูปของคนที่ไม่ได้อนุญาตให้เรานำไปลง เขาสามารถร้องเรียนต่อ YouTube เพื่อให้เราดำเนินการแก้ใขได้ ซึ่งต้องบอกว่าเป็นเรื่องที่หนักหนาสาหัสมากหากต้องกลับไปแก้ไข
1
ยกตัวอย่างเช่นระหว่างที่ “ยุคใหม่ฯ” กำลังถ่ายทำวีดีโอเรื่องเกี่ยวกับธรรมะอยู่กับพงศ์เล่าเรื่องและ Tui Space แล้วจู่ๆพี่ข้าวน้อยวิ่งผ่านกล้องไป เพราะช่วงนั้นมีข้าศึกโจมตีปราการด่านล่างอย่างหนัก เริ่มมีบางส่วนเล็ดลอดออกมาสู่โลกภายนอกแล้ว เป็นรูปเล็กๆที่ไม่สังเกตก็จะไม่เห็นและผ่านไปไม่ถึงวินาที เมื่อมีการนำไปลงเผยแพร่ในช่อง YouTube แล้วบังเอิญว่าน้องเพ็ญจังไปเห็นจึงนำไปแจ้งพี่ข้าวน้อย หลังจากนั้นพี่ข้าวน้อยจึงได้ทำการร้องเรียนไปทาง YouTube ให้ทำการแก้ไข
5
Source:  Security Info Watch
เมื่อ YouTube ได้รับเรื่องร้องเรียนแล้วทำการตรวจสอบในที่นี้ก็น่าจะใช้ระบบ AI ก่อน แล้วแจ้งเรื่องมาที่ “ยุคใหม่ฯ” ให้ดำเนินการแก้ไขภายใน 48 ชั่วโมง โดยมีวิธีแก้ไขดังนี้
1.ให้เบลอหน้า
2.ลบคลิปนั้นทิ้ง
3.แก้ไขชื่อคำอธิบายใต้วีดีโอหรือแท็กที่สามารถสื่อไปถึงคนๆนั้นได้
1
แต่เนื่องจากเป็นภาพเคลื่อนไหวการเบลอหน้าจึงไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย เราอาจจะต้องลบทิ้งไปเลย กรณีที่มีชื่อที่เกี่ยวข้องกับพี่ข้าวน้อยในคลิป ก็จะต้องนำชื่อนั้นออกไป หากเราไม่ดำเนินการเราก็จะถูกลบช่องทิ้ง
1
เรื่องนี้จะส่งผลกระทบต่อการถ่ายทำภาพหรือวีดีโอโดยเฉพาะละครและภาพยนตร์ที่ไปถ่ายทำนอกสถานที่ รวมถึงคลิปแนวท่องเที่ยว การรีวิวต่างๆ ต่อไปต้องไม่ถ่ายไปติดหน้าใครหากถ่ายติดก็ต้องได้รับการอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร อย่างเช่นการถ่ายทำในตลาดสดที่มีคนจำนวนหลายร้อยหรือหลายพันคน เป็นไปไม่ได้เลยว่าเราจะสามารถขออนุญาตจากทุกคนได้ สิ่งที่ทำได้ลบช่วงที่มีภาพบุคคลอื่นติดมาหรือทำเบลอ ซึ่งก็จะส่งผลให้ภาพนั้นไม่เป็นธรรมชาติไม่น่าดู
3
Source:  Medium
ข้อเสียที่เกิดขึ้นกับเจ้าของช่องหรือผู้ที่ถ่ายทำคือ
1.มีโอกาสสูงที่จะถูกลบช่องออกไป
2.เสียค่าใช้จ่าย ทั้งที่ต้องนำคลิปมาทำภาพเบลอหรือต้องไปถ่ายทำใหม่กรณีที่ยังไม่ได้นำมาเผยแพร่
3.เสียรายได้อย่างแน่นอนหากคลิปนั้นสร้างรายได้แล้ว
แต่เรื่องนี้ยังไม่ขัดเจนว่าจะมีผลย้อนหลังหรือไม่
ผลกระทบที่ชัดเจนคือช่องที่ได้รับความนิยมมากๆ มีคนเขาดูจำนวนมาก ที่มีการถ่ายทำนอกสถานที่แล้วติดภาพคนอื่นโดยบังเอิญ หากไม่สามารถแก้ไขภาพได้ก็ต้องลบคลิปนั้นออกไป นอกจากรายได้ที่หายไป คาดว่าจำนวนผู้ชมที่เข้าไป Subscribed ในช่วงที่ดูคลิปนั้นก็จะหายไปด้วย
นับตั้งแต่วันนี้ (1 มิ.ย. 64) เป็นต้นไปการนำเสนอภาพที่มีผู้คนเดินไปมาขวักไขว่ก็ไม่สามารถทำผ่าน YouTube ได้แล้ว และเมื่อ YouTube ทำ Social Media รายอื่นก็มีโอกาสสูงที่จะทำตาม ความเป็นธรรมชาติของภาพแบบเดิมๆคงจะไม่มีให้เห็นแล้ว เพราะหากต้องถ่ายทำก็ต้องทำในช่วงเวลาที่ไม่มีคนอื่นอยู่ในที่แห่งนั้น
Source:  Mind42
การเผยแพร่ภาพที่ระบุถึงบุคคลนั้นๆได้ก็ไม่สามารถทำได้เช่นกัน เช่น ชื่อนามสกุล ข้อมูลทางการเงิน ภาพบัตรประชาชน ภาพใบขับขี่ หรือแม้แต่ทะเบียนรถ ฯลฯ ซึ่งผู้ที่ฟ้องร้องได้ต้องเป็นเจ้าตัวหรือผู้ที่มีอำนาจแทนเท่านั้น
กลุ่มที่ไม่ได้ผลกระทบคือคนที่ทำคลิปแนวเล่าเรื่องที่ถ่ายทำในสถานที่ กลุ่มที่ทำ Podcast หรือแนวสัมภาษณ์ เพราะคนที่อยู่ในภาพล้วนแล้วแต่ยินยอมที่จะให้เราทำการถ่ายทำอยู่แล้ว อย่างเช่น ช่องของพี่ปู ช่อง PINTO ช่องของ Good Story เป็นต้น
ที่มา YouTube PUPUN กินกับปู
นอกจากนี้ YouTube ยังมีกฎเกณฑ์ที่เข้มงวดขึ้นกว่าเดิมก็คือคลิปที่ใช้คำหยาบ คลิปที่ก่อให้เกิดความเกลียดชัง เหล่านี้ก็จะได้รับผลกระทบไปเติมๆด้วย คลิปที่มีคำหยาบก็อาจจะใช้การปิดเสียงได้ ส่วนคลิบที่มีการส่งเสริมให้สร้างความเกลียดชังต้องลบสถานเดียว เพราะถ้าไม่ลบก็จะถูก YouTube ลบช่องให้
กฎเกณฑ์ที่ออกมาแม้จะดูว่ายุ่งยากวุ่นวายก็จริง แต่สิ่งที่ทำให้เราต้องคำนึงถึงให้มากคือการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ซึ่งก็จะส่งผลดีกับเราด้วย สิ่งที่สำคัญอีกอย่างก็คือเราต้องปรับตัวจากการใช้ประโยชน์จาก YouTube ในการสร้างรายได้ ที่ไม่ต้องพึ่งพาค่าโฆษณาอย่างเดียว ที่นับวันจะยากขึ้นและมีแนวโน้มว่าจะได้ลดลงจากนโยบายใหม่ๆที่ออกมาของ YouTube
ที่มา news.ch7.com
สามารถติดตามข้อมูลแนวคิดทางการตลาดยุคใหม่ได้ที่
Instagram: Modernizationmarketing (ยุคใหม่การตลาดของไทย)
Face Book Page: Thailand Modern Marketing
YouTube Channel: Modernization marketing (ยุคใหม่การตลาดของไทย)
สนใจการทำตลาดสุขภาพ ติดต่อได้ที่
โฆษณา