3 มิ.ย. 2021 เวลา 02:50 • ธุรกิจ
NotCo สตาร์ตอัปผู้ผลิตนม จากสับปะรดและกะหล่ำปลี
หากเราพูดถึงนมจากพืช ในปัจจุบันก็ถือว่ามีตัวเลือกมากมาย
ไม่ว่าจะเป็นนมพิสตาชิโอ นมอัลมอนด์ นมข้าวโอ๊ต นมข้าว และนมถั่วเหลือง
2
แต่รู้หรือไม่ว่ามีบริษัทแห่งหนึ่งที่ทำนมจากพืชเหมือนกัน
แต่วัตถุดิบนั้นกลับมาจาก “สับปะรดและกะหล่ำปลี”
2
ซึ่งก็ได้เคลมว่ามีรสชาติคล้ายนมวัวและให้คุณประโยชน์ที่ครบถ้วน
บริษัทมีชื่อว่า NotCo ผู้ที่กำลังมาปฏิวัติวงการอาหารด้วยพืชในแถบลาตินอเมริกา
แล้วทำไมบริษัทแห่งนี้ ถึงเลือกสับปะรดและกะหล่ำปลีมาทำเป็นนม ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
2
NotCo เป็นสตาร์ตอัปด้านเทคโนโลยีอาหาร
จากประเทศชิลีที่กำลังมาแรงแถบลาตินอเมริกา
บริษัทแห่งนี้ ทำธุรกิจผลิตอาหารจากพืชแทนเนื้อสัตว์
โดยมีการนำเทคโนโลยี AI มาประยุกต์ใช้ในการคิดค้นสูตรขึ้นมา
จุดเริ่มต้นเกิดขึ้นเมื่อชายหนุ่มสายงานเทคโนโลยีทั้ง 3 คน
คือ Karim Pichara, Matias Muchnick และ Pablo Zamora
รับรู้ปัญหาเกี่ยวกับการเลี้ยงสัตว์เพื่อการเกษตร
ได้กลายมาเป็นตัวการที่ก่อให้เกิดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
อันดับ 2 รองจากพลังงานเชื้อเพลิงเท่านั้น
1
ซึ่งก๊าซเรือนกระจกนี้เอง ที่นำไปสู่ภาวะโลกร้อนในที่สุด
ทั้ง 3 คนจึงเกิดไอเดียในการสร้างอาหารที่ทำจากพืชขึ้นมา
เพื่อต้องการนำเสนอสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
โดยใช้ความถนัดด้านเทคโนโลยีของตน
ในการออกแบบและสร้าง AI หรือปัญญาประดิษฐ์ขึ้นมาที่มีชื่อว่า “Giuseppe”
ซึ่งตั้งชื่อตาม Giuseppe Arcimboldo จิตรกรชาวอิตาลี
AI ดังกล่าวมีความสามารถในการเรียนรู้การผสมผสานพืชต่าง ๆ เพื่อเลียนแบบให้คล้ายกับอาหารที่ทำจากเนื้อสัตว์ทั้งในเรื่องของรสชาติและสารอาหาร
การทำงานของ NotCo จะแบ่งเป็น 2 ทีมคือ
ทีม AI Chef รับผิดชอบในการคิดหาผลิตภัณฑ์ใหม่
ในขณะที่ทีม Food Science จะมุ่งเน้นการสร้างสารอาหารและรสชาติ
โดยผลิตภัณฑ์เด่นของ NotCo ก็คือ “NotMilk” ซึ่งเป็นนมที่ทำจากพืช
Cr.thechallengerproject
ซึ่งเหตุผลที่ทั้ง 3 คนเลือกทำผลิตภัณฑ์ประเภทนม
ก็เพราะว่า แม้ในตลาดจะมีนมทางเลือกมากมายแล้ว
แต่ส่วนใหญ่นมเหล่านี้ไม่เป็นที่ถูกปาก และสารอาหาร เช่น โปรตีนและแคลเซียมก็ถือว่าน้อยกว่านมวัว
พวกเขาจึงอยากผลิตนมที่ทำจากพืชแต่ยังคงรสชาติเดิมและประโยชน์ต่าง ๆ เอาไว้
ซึ่งใช้เวลาทั้งหมดเกือบ 2 ปีถึงจะได้ผลิตภัณฑ์ NotMilk ที่เสร็จสมบูรณ์ออกมา
และมีให้เลือก 2 แบบคือ นมสูตรธรรมดาและสูตรลดไขมัน
โดย NotMilk เกิดจากการนำสับปะรดและกะหล่ำปลีมาสร้างรสชาติ
การผสมผสานส่วนผสมเหล่านี้เข้าด้วยกันทำให้เกิดแล็กโทสที่คล้ายกับนม
1
ทั้งนี้ NotMilk ก็ได้นำรากชิโครีและมะพร้าวเข้ามาช่วยปรุงแต่งให้เนื้อสัมผัส
ใกล้เคียงนม และสุดท้ายคือการผสมถั่วลงไปเพื่อเพิ่มโปรตีน
จากความหลากหลายนี้
ทำให้ NotMilk มีรสชาติและเนื้อสัมผัสที่เทียบเท่ากับนม "ของจริง"
โดยไม่ต้องใช้ผลิตภัณฑ์จากนมเลยและมีคุณประโยชน์จากสารอาหารครบถ้วนตามที่นมควรจะเป็น
นอกจากนี้นม NotMilk สามารถนำไปประกอบอาหารหรือแม้แต่การนำไปทำเบเกอรี
ทั้งหมดนี้ ก็ได้ทำให้ NotMilk กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่มียอดขายเป็นอันดับ 1 ในแบรนด์ NotCo
ในด้านสิ่งแวดล้อม NotMilk ก็ทำได้ดี
โดยสามารถลดการใช้น้ำลง 92%
ใช้พลังงานน้อยลง 74%
รวมถึงปล่อยมลพิษน้อยลง 74%
เมื่อเทียบกับกระบวนการผลิตนมแบบดั้งเดิม
5
Cr.thechallengerproject
แม้ว่าผลิตภัณฑ์ประเภทนมจะเริ่มเป็นกระแสในตลาดแล้ว
แต่เป้าหมายของ NotCo คือการเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ที่ทำจากสัตว์ให้กลายเป็นพืชทั้งหมด
ส่งผลให้ NotCo มีการแตกไลน์ผลิตภัณฑ์เพิ่มออกมา
เช่น NotIceCream, NotBurger, NotMayo และ NotMeat
โดยผลิตภัณฑ์ NotMeat ถูกใช้ในพิซซาของ Papa John's
ร้านพิซซาชื่อดังเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และยังถูกใช้ใน Burger King
เชนร้านเบอร์เกอร์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกอีกด้วย
ส่วน NotBurger เป็นอีกผลิตภัณฑ์ที่ทางบริษัทกำลังผลักดัน
ก็ได้ถูกวางขายตามร้านค้าทั่วไปในประเทศอาร์เจนตินาและชิลีแล้ว
ส่งผลให้ปัจจุบัน NotCo มีรายได้ต่อปีที่ 1,850 ล้านบาท
ปัจจุบัน NotCo สามารถระดมเงินทุนเพิ่มได้ที่ 2,600 ล้านบาท
โดยเงินทุนครั้งนี้ส่วนหนึ่งสนับสนุนโดย Bezos Expeditions
บริษัท Venture Capital ส่วนตัวของเจฟฟ์ เบโซส มหาเศรษฐีอันดับ 2 ของโลก
ซึ่งเงินส่วนนี้นำมาใช้ในการขยายกิจการสู่สหรัฐอเมริกา
ผลิตภัณฑ์ที่เป็นตัวตั้งตัวตีตลาดไม่ใช่ใครอื่นใด นั่นก็คือ NotMilk นั่นเอง
โดยวางขายตามร้านค้าปลีกและจัดจำหน่ายสู่ร้านอาหารต่าง ๆ ในสหรัฐอเมริกา
1
ด้วยศักยภาพในการเติบโตที่น่าสนใจและผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย
ส่งผลให้ปัจจุบัน NotCo ถูกประเมินมูลค่าบริษัทอยู่ที่ 7,800 ล้านบาท
จากเรื่องนี้ทำให้เห็นว่า แม้ตลาดจะแข่งขันกันสูง
แต่ถ้าหากเราเห็นว่าปัญหาใดที่ลูกค้ายังไม่ได้รับการตอบสนอง
เช่นเดียวกับ NotCo ที่สังเกตเห็นนมทางเลือกยังไม่สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้ทั้งหมด
1
จึงนำไปสู่การคิดค้นนมจากพืช
ที่แม้จะทำมาจากสับปะรดและกะหล่ำปลี
แต่ก็สามารถขายดีและระดมทุนได้
จนตอนนี้มีมูลค่าเป็นพันล้านไปแล้ว นั่นเอง..
โฆษณา