Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Baguette in Thailand
•
ติดตาม
15 มิ.ย. 2021 เวลา 15:53 • นิยาย เรื่องสั้น
ว่าด้วย คำนำ
วาระเมียแห่งชาติ
"วาระเมียแห่งชาติ" คืออะไร
มีสำนวนสุภาษิตกล่าวว่า
สามีเป็นช้างเท้าหน้า ภรรยาเป็นช้างเท้าหลัง
สำนวนสุภาษิตไทย
ความนี้หมายถึงสามีคือผู้นำครอบครัว ภรรยาคือผู้ตามที่ดี ผู้ตามที่ดี คือประคองให้ไอ้เท้าข้างหน้าที่ว่าเนี่ย มันเดินไปได้ตรงทางนั่นล่ะ ถูกต้องมั้ยคะ
จริงอยู่ที่ว่า ช้างถ้าไม่มีเท้าหลัง(และถ้ายังไม่ตาย) มันก็พอลากตัวไปต่อไหนได้สะดวกกว่าช้างที่เท้าข้างหน้าหายไป เหลือแต่เท้าข้างหลัง (สำคัญขนาดนั้นคิดดูเอาเถอะ) แต่ช้างต้องเดินด้วยสี่เท้า ขาดอะไรไปก็ช้างพิการนะคะคุณพี่ขา
เป็นสำนวนไทยที่มียาวนานแล้วล่ะนะ ปัจจุบันคิดว่าไม่ได้ตรงนักเพราะตอนนี้เราคงไม่สามารถที่จะยึดได้ว่าจะต้องมีใครนำใคร สามีต้องนำภรรยา หรือสามีสำคัญที่สุด ขึ้นกับบริบทของแต่ละบ้านที่ตกลงกันไว้ ความสุขของสมาชิกในบ้านนั้นสำคัญมากกว่าคำที่่ว่า เธอเป็นสามีเธอต้องหา หรือเธอเป็นภรรยาเธอต้องเลี้ยงดูลูกและทำกับข้าวในครัว
ภรรยาหลายคนบนโลกใบนี้ทำงานนอกบ้านในบริษัทใหญ่โต เป็นเจ้าของกิจการมูลค่าหลายล้าน งานบ้านงานทำอาหารสามารถจ้างแม่บ้านและเชฟชื่อดังมาทำให้กินที่บ้านได้นับเป็นความก้าวหน้าของผู้หญิงที่เราภาคภูมิใจ
...........ซึ่งเราจะไม่พูดถึงพวกเธอเหล่านั้นนะจ้าาาาา ฮาาาา (:D)
เพราะฉันคือแม่บ้านชนชั้นกลาง ถ้ามีคำถามว่ากลางระดับไหน ยังมีแยกเป็นชนชั้นกลางระดับบน ชนชั้นกลางระดับล่าง การแบ่งบางแหล่งข้อมูลก็แยกอาชีพ บ้าน หรือแม้แต่โรงเรียนลูก
แต่ฉันคิดว่าสิ่งเหล่านั้นยังไม่สามารถใช้ชี้เฉพาะได้ เพราะเป็นความชอบและไลฟสไตล์ส่วนบุคคล บางคนการเงินดีนะแม้ว่าจะไม่ได้ทำตำแหน่งผู้จัดการ และผู้จัดการบางคนก็หนี้สินรุงรังไม่น้อยกว่าใคร
ดังนั้นฉันแยกตามความคิดเห็นส่วนตัวว่า ชนชั้นกลางระดับบน คือ กลุ่มคนที่ไม่มีหนี้อยู่สบายๆการเงินคล่องตัว
ส่วนชนชั้นกลางระดับล่าง คือผู้ที่การเงินคล่องตัวเป็นพักๆ พักต้นเดือนและพักก่อนเพราะปลายเดือนแล้วววววจ้าาาา
ทีนี้ครอบครัวเราจัดอยู่ใน กลางแบบไหน โถ ระดับล่างไปเลยค่ะ ล่างของล่าง ล่างจนคิดว่าเราจัดลำดับผิดป่าววะ 55 แต่ให้คะแนนเพิ่มไป 0.5 ค่าที่สั่งของออนไลน์เก่ง (เกี่ยวมั้ย)
เอาเป็นว่า ครอบครัวเราก็ยังต้องติ้นรนกันไปตามสภาพเศรษฐกิจและรัฐบาล
ฉันทำงานเป็น นักออกแบบระบบคอมพิวเตอร์ในโรงงานสัญชาติญี่ปุ่นแห่งนึง ส่วนสามีรับจ๊อบ remote support online
ทีนี้เข้าเรื่องวาระเมียแห่งชาติ (ได้ซะทีนะ) สามีฉัน ขอเรียกว่า คุณสามีขาของฉันนะคะ.. เพื่อเป็นการให้เกียรติ แลกกับเงินของเค้าที่โอนทุกบาททุกสตางค์เข้าบัญชีเมีย ด้วยความคุ้นชินและความรัก ...และสำหรับจุดนี้ ฉันขอลุกขึ้นไหว้ย่อ อวยยศตำแหน่งแม่ผัวในฝัน พร้อมพานพุ่มดอกบัว ให้คุณแม่สามี ด้วยความเคารพรู้คุณค่ะ เนื่องจากทางบ้านของสามี คุณแม่เป็นคนเก็บเงิน ส่วนคุณพ่อมีหน้าที่ยื่นให้คุณแม่บริหารทุกเดือน พอถึงคราว (เอ่อ ฟังดูเหมือนโดนเชือด แต่เอานะ ถึงคราวน่ะล่ะ 55) คุณสามีขาของฉัน ก็ดำเนินรอยตามคือยื่น ทั้ง book bank และ ATM ให้เมียแต่โดยดีค่ะ ฮาาา
ขอบรีฟสั้นๆว่า คุณสามีขา เนี่ย พึ่งทำงาน remote ที่บริษัท(ต่างชาติ) ได้มาประมาณ ยังไม่ถึง 1 ปีเลยค่ะ
ณ เวลา ที่ได้ job นี้มาถึงจะเป็น freelance และแม้รายได้จัดว่าน้อยสำหรับชาวยุโรป แต่พอแปลงเป็นเงินไทยแล้ว ก็ถือว่ามากกว่าฉันเสียอีก เราต่างตื่นเต้นกัน เพราะเป็นงานแรกที่เกี่ยวกับ IT บ้างซึ่งคุณสามีขา ไม่เคยทำมาก่อน ฉันปล่อยให้คุณสามีขา สนุกสนานกับโลกการทำงานและเข้าสู่กระบวนการ training ต่างๆ ของบริษัท ซึ่งคุณสามีขา ก็จะมา update ขั้นตอนการเรียนให้ฟังเรื่อยๆค่ะ ว่าเค้าสามารถเข้าใจ และทำ test ผ่านได้ดีระดับไหน
จริงๆ ขั้นตอนพวกนั้นดิฉันไม่ได้กังวลอะไรเลย ก่อนหน้านี้เราเคยทำเวปไซต์กึ่งสำเร็จรูป (ไม่ใช่บะหมี่ :P) ด้วยกันมา มันมีบางส่วนที่ต้องปรับเวปไซด์ด้วยการใช้ coding เข้าช่วย ฉันอธิบายไม่นาน คุณสามีขา ก็เข้าใจได้รวดเร็วมากค่ะ สามารถนำ code ใหม่มาปรับเข้ากับ code เก่าได้ดี อ่าน help เข้าใจง่าย อาจจะเพราะภาษาอังกฤษดีกว่าคนไทยส่วนมาก ซึ่งตรงนี้ เป็นเรื่องที่น่าอิจฉาจริงๆ สำหรับฉัน
ฉันเคยบอกสามีว่า สามีน่าจะลองเรียน coding หรือลงเรียน IT เพื่อเอาใบ certificate มา เผื่อหางาน IT ได้ แต่เนื่องด้วย ณ เวลา นั้นความรักกำลังสุกงอมค่ะ พระเอกกับนางเอกต้องได้ดับไฟหัวเตียงแล้วค่ะ อร้ายยยยยย 5555 เรื่องนี้ก็เลยพับไป :P
กลับมาเรื่องงานกันต่อ หลังจากที่คุณสามี training เสร็จแล้วเริ่มตะลุยงานทุกวันฉันมีหน้าที่ฟังว่าเขาแก้ไขปัญหายังไงในแต่ละเคส ... (เมียที่ฉลาด คือเมียที่ใช้หูฟังเก็บข้อมูลให้แน่นๆ ก่อนพูดนะคะ จะได้ไม่พลาดดด )ในระหว่างทีฟังฉันก็ถามไปเรื่อยๆ ถามเพื่อดูวิธีแนวคิดการทำงาน การวิเคราะห์ปัญหาแต่ละครั้ง
ที่ต้องมานั่งไล่เรียงขนาดนี้ เพราะว่าถ้าเป็นคนไทยด้วยกัน เราก็จะพูดว่าเค้าเป็นคนมั่นหน้ามั่นโหนกมากค่ะคุณพี่ขาาา ฮาาาาา ไม่รู้ไปเอาความมั่นใจ ไฮเลเวล แบบนี้มาจากไหนหรือว่าปกติฝรั่งก็มั่นโหนกแบบนี้อยู่แล้ว เพราะหลายอย่างก็ So confident เหลือเกินนพ่อคุ้ณณณ อีตอนแรกเราก็คิดอวยผัวตัวเองว่าเก่งเวอร์รรร แต่แล้วดันมาเจอทีหลังว่า สิ่งที่มั่นใจไม่ใช่สักหน่อยไอ้เรายังรู้เยอะกว่าอีก โอ้ยยย เกมพลิกมากแม่ 555
แต่สุดท้ายได้ข้อสรุปว่านาง มี potential ค่ะ (คือมีศักยภาพ) ที่จะ up skill ไปต่อได้มากกว่านี้หมายถึงว่า ถ้าลงสมัคร น่าจะได้ตำแหน่งเป็น leader สบายๆ ดังนั้นฉันเลยต้องต่อยอด access ของ family ค่ะ การลงทุนทุกอย่างมีความเสี่ยง คิดผลได้
ผลเสียแล้ว cost มีอยู่ 2 อย่างคือ เวลาของฉันและเสียงอันไพเราะที่ต้องพูดให้คุณสามีขาฟัง ไม่มีตัวเงินมาลงทุน และถ้าลงทุนสำเร็จจะได้ผลประโยชน์เข้ากระเป๋า (ของฉัน) กลับมา 2 เท่า ทำให้ project นี้ผ่านค่ะ 55
และ.... เมียที่ดีคือเมียที่ควรจะผลักดัน และ ถีบผัวให้ไปข้างหน้าถูกมั้ยคะ .....
ดิฉันจึงเริ่มวางแผนที่จะให้ สามีได้เข้าวงใน ไปตำแหน่งที่ก้าวหน้าขึ้นไป คิดได้ก็เริ่มวางแผน อันดับแรก เราต้องรู้จักห่วงโซ่อาหารกันก่อน ตอนนี้รู้แน่ๆ คือ เราอยู่ล่างสุดของห่วงโซ่อาหารนะ 555
คุณสามีขาของฉันเนี่ยไม่ได้ทำงานวงการ IT หรือแม้แต่องค์กรเอกชนที่มีการฟาดงวงฟาดงากันมาก่อนเลย นางค่อนข้างจะอยู่ comfort zone , alone zone ซะเป็นส่วนมาก :D
ดังนั้น skill เกมการเมืองเป็น 0 ... zero เราต้องมาเริ่มปูพื้นกันค่ะ
บทความหน้า 101 ปูพื้นเกมการเมืองในที่ทำงาน
อ่านเพิ่มเติม
blockdit.com
[Baguette in Thailand] Ep1 .. 101 ปูพื้นการเมืองในที่ทำงาน
Ep1 .. 101 ปูพื้นการเมืองในที่ทำงาน
ครอบครัว
ทำงาน
เรื่องสั้น
บันทึก
3
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
วาระ เมียแห่งชาติ
3
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย