3 มิ.ย. 2021 เวลา 10:23 • หุ้น & เศรษฐกิจ
Stock investment Ep. 4
=> ทำความรู้จักดัชนีสำคัญในตลาดหุ้นไทย
ก่อนที่จะเริ่มไปทำความรู้จักกับดัชนีหุ้นไทย เราจะเริ่มต้นด้วยคำถามยอดฮิตของนักลงทุนมือใหม่
ดัชนีหุ้นคืออะไร ??
=> ความหมายที่เข้าใจง่ายมากที่สุดคือ เครื่องชี้วัดตลาดหุ้น โดยดัชนีเกิดจากการคำนวณทางสถิติ โดยมีวัตถุประสงค์หลักก็คือใช้ในการติดตามการเปลี่ยนแปลงภาพรวมของตลาด เพื่อให้นักลงทุนสามารถเข้าใจสถานการณ์ต่างได้ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยดัชนีจะซึมซับข่าวสารต่างๆ ทั้งแง่บวกและแง่ลบ แล้วจะสะท้อนออกมาเป็นตัวเลขและกราฟให้เราเห็น
SET INDEX คืออะไร ??
=> คือ ดัชนีราคาหุ้นของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศ เรียกสั้นๆว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทย โดยดัชนีที่เราเห็นใน Social media ที่เพื่อนเราแชร์ส่วนใหญ่จะเป็นตัวนี้แหละ ดัชนีตัวนี้จะสะท้อนภาพรวมทั้งหมดของตลาดหุ้นไทย โดยคำนวณจากการขึ้นลงของราคาหุ้นทุกตัวในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ถ้าดัชนี SET INDEX เป็นสีเขียว แสดงว่ามูลค่าตลาดรวมวันนี้ สูงกว่าวันก่อนหน้า ถ้าเป็นสีแดง มูลค่าตลาดรวมวันนี้ต่ำกว่าวันก่อนหน้า
(บางครั้ง SET INDEX เขียวแล้วแต่ก็สงสัยทำไมพอร์ทเรายังแดงอยู่ 5555555 )
1
SET50 => ดัชนีที่ใช้แสดงระดับราคาหุ้นสามัญ 50 ตัว โดยคัดเลือกกลุ่มหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าตามราคาตลาด (Market Capitalization) และสภาพคล่องในการซื้อขายสูงสุด 50 อันดับแรก โดยจะต้องผ่านเกณฑ์การคัดเลือกของหลักทรัพย์ด้วย พูดง่ายๆก็คือหุ้นขนาดใหญ่ 50 ตัวแรกนั่นเอง ตัวอย่างของหุ้นที่อยู่ใน ดัชนีนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นบริษัทที่เราคุ้นๆกันอยู่แล้ว เช่น ADVANC, AOT , CPALL เป็นต้น
SET100 => ดัชนีราคา SET100 Index เป็นดัชนีที่ใช้แสดงระดับราคาหุ้นสามัญ 100 ตัว โดยคัดเลือกกลุ่มหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าตามราคาตลาด (Market Capitalization) และสภาพคล่องในการซื้อขายสูงสุด 100 อันดับแรก พูดง่ายๆก็คือหุ้นขนาดใหญ่ 50 ตัวแรกนั่นเอง ตัวอย่างของหุ้นที่อยู่ใน ดัชนีนี้ เช่น STA , TISCO
SETHD => ดัชนีที่ใช้สะท้อนความเคลื่อนไหวราคาของกลุ่มหลักทรัพย์ 30 ตัว ที่มีอัตราการจ่ายปันผลสูงและมีสภาพคล่องซึ่งหุ้นของดัชนีนี้ต้องอยู่ในกลุ่ม SET100 ด้วย พูดง่ายๆก็คือหุ้นกลุ่มนี้จะจัดเรียงโดยดูจากการจ่ายเงินปันผลที่สูงและต่อเนื่อง ตัวอย่างของหุ้น เช่น AP , KBANK
sSET => ซึ่งเป็นดัชนีที่สะท้อนการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นสามัญที่จดทะเบียนใน SET แต่อยู่นอกเหนือการคำนวณในดัชนี SET50 และ SET100 ที่มีอยู่เดิม หรืออาจจะกล่าวได้ว่าเป็นหุ้นที่มีขนาดกลางถึงเล็ก
ปล . จุดเด่นและจุดด้อยของแต่ละดัชนีอาจจะเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ของตลาดได้ เพราะฉะนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เราต้องเข้าใจธุรกิจ วิเคราะห์ และประเมินมูลค่าของหุ้นที่เราจะซื้อเสมอ
ความรู้เพิ่มเติม : เราสามารถนำความรู้เรื่องดัชนีไปปรับใช้เพื่อหา Style การลงทุนที่เหมาะสม , จัดพอร์ตกระจายความเสี่ยง , จัดการออมให้ตรงกับพฤติกรรมของดีชนีที่เลือก เช่น เราอาจจะกระจายการลงทุนตามดัชนีต่างๆ เพื่อให้ได้อัตรากำไรที่เหมาะสม เป็นต้น
โฆษณา