26 ม.ค. 2022 เวลา 02:41 • ครอบครัว & เด็ก
EP3.1 เมื่อเราลองเล่นการเมืองในที่ทำงาน
เอาละ จำตอน Ep1 ได้นะ ว่าเราอยู่ล่างสุดของห่วงโซ่อาหาร 555 ดังนั้นต้องหารูหรือช่องขึ้นไปบนๆ ให้ได้
เรื่องแรก ที่ฉันพยายามชักจูงโน้มน้าวคือ ให้คุณสามีขาเสนอ ไอเดียออกความคิดเห็นของเขาในที่ประชุม
หลังจากโน้มน้าวครั้งแรกไปแล้ว ฉันก็ยังนั่งฟังพวกเค้าประชุมกันอยู่ ก็มีเสียงคุณสามีขามากกว่าเดิมนะคะ แต่ยังไม่ใช่ในสิ่งที่ฉันคิด
ฉัน: วันนี้ยังมีคนโง่อยู่มั้ย (คุณสามีขาเนี่ยเติบโตมาในประเทศฝรั่งเศส ประเทศนี้นิยม realistic - เรียลลิสติก - ระบบความเป็นจริงมากค่ะ แหมฉันอยากพูดม้วนลิ้นด้วยสำเนียงสูงต่ำขึ้นลงให้มันฟังประชดประชันเสียดสีมากกว่านี้ผ่านตัวหน้งสือได้จริงๆเลย ถอนหายใจ 1 แมทซ์ ดังๆค่ะ ภาษาไทยสมัยนี้ เราก็น่าจะนิยามได้ว่า เป็นคนขี้แซะแบบเอาเรื่องจริงมาพูด อะไรประมาณนี้ คุณสามีขาชอบมากค่ะ ฉันเลยต้องขึ้นต้นให้ถูกใจ)
คุณสามีขา : แน่นอน วันนี้เราพูดเรื่อง productivity (ผลงาน) ความพึงพอใจของลูกค้า เรา support งานได้ตามเวลามั้ย
ฉัน : เหรอออออ productivity อืมมม (ทำเหมือนไม่เคยได้ยิน อารายน้าาา โอ้ยยย นอกจาก productivity ฉันแถมให้อีกคำ performance หรือถ้าอยากถาม ให้ถาม 5 why ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม และ ทำไม
จนสุดท้ายคุณต้องตอบว่า ความผิดกูเองโว้ยยย ฮ่าา เป็นงัยล่ะ
โอเค ขอโทษค่ะ มันอินไปนิ้ดดด )
ฉันสูดลมหายใจกลืนประสบการณ์ 15 ปีลงไป ยิ้มๆ แล้วพูดว่า เออ แล้ว productivity คุณล่ะ น่าสนใจมั้ย
คุณสามีขา : กรอกตามองบน ...... ทายสิว่าใครทำคะแนนได้ในอันดับแรกของผู้ที่ลูกค้าคอมเพลนหรือว่าแก้ปัญหาได้เยอะที่สุด
ฉัน : แน่นอนว่าเป็นคุณณณณณณณณณ
คุณสามีขา : ช่ายยยย ฉันเอง ฉันคนนี้ล่ะ คุณสามีขาพูดกับชี้นิ้วโป้งเข้าตัวเอง แล้วพูดต่อ
ฉันเสนอ ความคิดเห็นไปนิดหน่อย แต่หัวหน้าเหมือนตามฉันไม่ค่อยทัน ฉันรู้สึกว่าเสียเวลามาก เรื่องพวกนี้ฉันควรพูดกับลูกค้าที่จ้างเราsupport โดยตรงมากกว่า แต่พวกเค้ารู้อยู่แล้วเราคุยกัน ตลอด
ฉัน : พยักหน้าหงึกหงัก ก็ดีนะทำให้ลูกค้าของบริษัทพอใจเราได้ก็เป็นเรื่องดี connection คือสำคัญที่สุด
หมดการเป่าหูสำหรับวันนี้แล้วค่ะทุกท่าน รอครั้งต่อไปนะคะ ครั้งแรกได้ลองพูดบ้างก็ดีแล้วถึงแม้ว่าผลลัพธ์ของ คุณสามีขาเนี่ย จะดูแผ่วๆ ตอนท้าย แตฉันคิดว่านี่เป็นครั้งแรกที่เค้าเริ่มพูดอะไรบ้าง และการประชุมจริงจังแบบทีม ก็เป็นสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน ก็คงจะประหม่าเป็นธรรมดา ขั้นตอนวันนี้ ฉันจึงฟังและเงียบๆ ก่อนค่ะ ให้เวลาช่วยเพิ่ม self confidence (ความมั่นใจ)
นอกจากเรื่องการสร้างตัวตนในที่ประชุมแล้ว สิ่งที่ฉันพยายามกระตุ้นคือให้คุณสามีขาอีก คือการพยายามรู้จักหัวหน้าให้มากกว่านี้ หรือผู้ร่วมงานคนอื่น ฉันพยายามโน้มน้าวให้เค้าเห็นความสำคัญของเรื่อง connection การทำงานเก่งก็ดีค่ะ แต่การที่เรามี connection กับใครนั้นสำคัญกว่า
connection ที่คุณสามีขา สามารถสร้างสรรค์ต่อแขนขาขึ้นมา(ที่ไม่ใช่ลูก) ได้บ้างนั้น คือเพื่อนชาวสโลเวเนี่ยน และ เพื่อนชาวอังกฤษ (ที่พักอยู่ที่คอนโดในกรุงเทพ) คนหลังนี่เคยส่งงานเขียนบทความมาให้ ได้ตังค์กินขนมมานิดหน่อย ส่วนคนแรกนั้นเป็นเพื่อนที่คุณสามีขา สนิทสนมมาก ชื่นชอบมากเป็นพิเศษ คอยช่วยเหลือตอบคำถามให้ตลอดเวลา คุยกันตลอด จนตอนแรกๆฉันต้องแอบมาคอยส่องหน้าจอค่ะ ว่าคุยกับใคร แต่ว่าไม่ใช่อยู่ดีๆ เราจะเดินไปด้านหลังสามี แล้วก้มลงดู เหมือนครูวิชาภาษาไทย ครูสังคมศึกษา "นี่เธอ...เด็กชายA ทำอะไรอยู่ " ได้นะคะ.ฮาาา
ดิฉันทำเนียนเดินไปหอมแก้ม นวดไหล่ค่ะ ถามว่าเหนื่อยมั้ย เอาโค้กมั้ยคะที่รัก แล้วก็ใช้ วิชา เมียlookup 101 ส่องดูค่ะ 55555 ทำไมต้องแอบเนียนทำดู เพราะว่าสามีขาฝรั่งตาสีฟ้าของฉันเนี่ย เค้านับถือเรื่องความเชื่อใจเป็นสิ่งสำคัญ การที่จะแสดงตัวหึงหวง โดยไม่มีสาเหตุนั้น อืมมมม...อย่าเรียกว่าโดยไม่มีสาเหตุดีกว่าค่ะ เพราะนั่นแปลว่าคุณยังแสดงอาการได้ ต้องเรียกว่าหากคุณแสดงท่าทีหึงหวงขึ้นมาแม้เพียง 1 level หรือขอดูมือถือ หรือขอดู computer เช็คไทม์ไลน์ ถามอะไรทำนองนี้แม้เพียง 1 คำถาม เหล่านั้นหมายถึงว่า you ไม่เชื่อใจ I นั่นเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่แสดงออกว่า เค้าเป็นคนเชื่อถือไม่ได้ เป็นคนหลอกลวง เป็นผู้ชายไม่มีเกียรติ .... น่านนนน เห็นมั้ยคะ ใครว่า ผู้ชาย ดราม่าไม่เป็นกันน้าาา
กลับมาที่เพื่อนสโลเวเนี่ยนผู้แสนดีกันต่อค่ะ จริงๆ ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรนะคะ การมีเพื่อนสนิทดีๆสักคนในที่ทำงาน ก็เหมือน safe zone ไว้เล่าเรื่อง ระบาย เม้าส์มอย จริงๆ เป็นเรื่องทีเยี่ยมไปเลยถ้าเราเจอใครสักคนที่เข้าข่ายนี้ เพื่อนที่แสนน่ารักคนนี้นั้นมี priority ในที่ทำงานเท่ากับ 0 คืออยู่ล่างสุดของหวงโซ่อาหารเช่นเดียวกันกับคุณสามีขานั่นเอง 555
connection ทางเดียวที่ฉันคิดว่ามีความหมายบ้าง คือการที่คุณสามีขาทำงานได้ดีกับลูกค้าของบริษัทโดยตรง ซึ่งก็คือ owner ของระบบ คุณลูกค้าถึงขั้นรีเควส เอ่ยชื่อคุณสามีขาขึ้นมาโดยเฉพาะสำหรับ ทีมใหม่ที่จะมีขึ้นเพื่อทำหน้าที่ ให้ข้อมูลแนะนำว่าควรทำอย่างไรจึงจะถูกต้องเกี่ยวกับเคสต่างๆ โดยเฉพาะ
เป็นทีมที่ตัดสินใจก่อนที่จะมาถึงมือคุณลูกค้าอีกที ความหมายที่ฉันว่าดี ก็คือเผื่อรู้จักกันมากขึ้นบริษัทคุณลูกค้ามีเปิดรับ คุณสามีขาจะได้ย้ายฝั่ง แต่ยังดูยาวไกลและยากมากค่ะ ไม่ได้หมายถึง การที่เราย้ายบริษัทไปทำงานกับลูกค้านั้นยากนะคะ แต่หมายถึงการที่จะรู้จักกันถึงขั้นพูดคุยเรื่องส่วนตัวได้นั้นยากมากๆ
ฝรั่งนอกจากมีกำแพงการทำงานแล้ว ยังมีกำแพงหนาเรื่องส่วนตัวที่สูงมากๆเช่นเดียวกัน
หัวหน้าเป็น มนุษย์ level ที่คุณสามีขาของดิฉัน สนิทด้วยยากมาก เรียกว่าไม่ยอมสนิทเลยน่าจะถูกกว่า หัวหน้าเป็นบุคคลที่ผูกขาดการประชุม ดำเนินเรื่องในที่ประชุม คุณสามีขาไม่สนิทกับหัวหน้าโดยตรง แต่ทำงานได้ดีกับหัวหน้า ของ หัวหน้า มองเผินๆ ก็เป็นเรื่องเข้าท่ามากๆ
ทุกอย่างที่กล่าวมาคือ ฉันก็พยายามคิดวิเคราะห์ว่าคุณสามีขาจะมีช่องทางไหนได้ อีกบ้าง เนื่องจากเป็นการทำงาน remote วัฒนธรรมองค์กร ในแต่ละที่ก็แตกต่างกันออกไป
ดังนั้นตอนนี้ การเฝ้าดูอย่างเดียว ยิ้มหวานๆ ให้สามีกับสารพัดเรื่องที่เล่าให้ฟังจึงเป็นทางออกทางเดียว ณ ตอนนี้ค่ะ
Ep3.2 เมื่อเราลองเล่นการเมืองในที่ทำงาน

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา