ผักโขม - ที่เอามาอบชีสไม่ใช่ผักโขม
ผักโขมที่เรารู้จักกันดีก็เห็นจะเป็นผักโขมอบชีส(spinach gratin) จานที่เราต้องสั่งเมื่อไปทานอาหารอิตาเลี่ยน แทนที่เราจะสั่งสลัดผักสดแบบธรรมชาติ เราก็มักจะสั่งผักโขมอบชีสแทน(เพราะว่ามันอร่อยกว่านะซิครับ)
แต่รู้ไหมครับว่า ผักที่เราเอามาอบชีสนั้นไม่ใช่ผักโขม อ้าว..แล้วเป็นผักอะไรครับ?
ขอบคุณภาพประกอบจาก karenskitchenstories
พูดถึงผักโขม คนที่เป็นเจเนอเรชั่น Baby Boomer ก็ต้องนึกถึงตัวการ์ตูนที่ชื่อ “Popeye” นึกถึงกะลาสีเรือที่กินผักโขมแล้วมีพลังมหาศาลขึ้นมา แต่ท่านจะเชื่อหรือไม่ว่า เรื่องนี้เกิดจากความเข้าใจผิด และความเข้าใจผิดอันนี้ส่งผลต่อการรับประทานผักโขมอย่างมากมาย
เรื่องของเรื่องเกิดขึ้นในปี 1870 นักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมันชื่อ Erich von Wolf ได้ทำการศึกษาปริมาณของธาตุเหล็กในพืชหลายชนิด แต่เขาใส่ทศนิยมผิดตำแหน่งเมื่อพูดถึงธาตุเหล็กในผักโขม เลยกลายเป็นว่าผักโขมมีปริมาณธาตุเหล็กมากที่สุด ที่จริงควรจะมีเพียง 3.5 มิลลิกรัมในผักโขม 100 กรัม กลับกลายเป็นว่ามีธาตุเหล็กถึง 35 มิลลิกรัม!!!!!
ความเข้าใจผิดอันนี้ต่อเนื่องกันมาเป็นเวลานานจนได้มีการแก้ไขเมื่อปี 1892 ก็ยี่สิบกว่าปีเชียวนะครับ แต่ความเชื่อนี้ก็ฝังหัวชาวอเมริกันเสียแล้ว
เมื่อเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ในทศวรรษปี 1930 รัฐบาลสหรัฐต้องการส่งเสริมให้ชาวอเมริกันบริโภคผักโขมเพื่อให้ได้ธาตุเหล็กแทนการรับประทานเนื้อสัตว์ ก็เลยไปจับมือกับคนเขียนการ์ตูน Popeye เขียนให้ Popeye มีพละกำลังภายหลังจากกินผักโขม ผลของการนี้ก็เลยทำให้ผักโขมมียอดขายเพิ่มขึ้น 33% ทั่วสหรัฐอเมริกา
ขอบคุณภาพประกอบจาก dnaindia
แต่ทุกวันนี้ มีข้อมูลมากหลายจากที่ต่าง ๆ ให้ตรวจสอบได้ว่ามีแร่ธาตุและวิตามินเท่าไหร่ ผักโขมจึงไม่ใช่ผักวิเศษที่จะให้พละกำลังเหนือมนุษย์อีกต่อไป
แต่ไม่ใช่ว่าผักโขมจะไม่มีประโยชน์นะครับ มีคนเขาสรุปว่า ถ้ากินผักโขมในปริมาณพอดีก็จะ ”สายตาดี แก่ช้า หน้าเด้ง” ถ้าเอาไปอบกับชีสก็จะได้โปรตีน แคลเซี่ยม ฟอสฟอรัส สังกะสี วิตามิน บี 12 เพิ่มเข้ามาอีก
วิธีทำผักโขมอบชีสก็ไม่ได้ยากอะไร ก็ละลายเนยในไฟกลางจนเดือดปุด ๆ ก็ใส่หอมหัวใหญ่และกระเทียมลงไปผัด พอได้ที่ก็ใส่ผักโขม เกลือ และพริกไทย ปิดฝากระทะแล้วลดระดับไฟลง อบต่อไปสัก 3 นาที เอาชีสใส่ในชามก้นลึกสำหรับอบ(casserole) แล้วใส่ผักโขมหั่นหยาบ ๆ ที่เตรียมไว้ ใส่จันทน์เทศเล็กน้อย บางคนก็ใส่เบคอนทอดเข้าไปเพิ่มความอ้วน เอ้ย ไม่ใช่เพิ่มความอร่อย แล้วโรยหน้าด้วยชีสอีกรอบ อบในอุณหภูมิ 350F ประมาณ 20 นาทีให้ชีสละลายเยิ้มเป็นสีน้ำตาล ก็ยกออกมารับประทานได้
ชีสนั้นจะเป็นชีสอะไรก็ได้ขอให้มันเหนียวเมื่อโดนความร้อน แต่ที่นิยมกันก็เห็นจะเป็น Mozzarella ชนิดเดียวกับที่ใส่ในพิซซ่านั่นแหละครับ เพราะมันจะหอมและรสดีเหมือนพิซซ่า แต่จะใช้ชีสอื่นก็ได้นะครับเช่น Parmesan หรือ cheddar บางคนก็ใส่ชีสหลายชนิดให้ความอร่อยแบบคนชอบชีส
ผักโขมนี้แปลงไปเป็นอาหารอีกหลายชนิดเช่น Ravioli หรือเกี๊ยวฝรั่งยัดไส้ผักโขมอบ หรือขนมปังหน้าผักโขม วิธีทำก็เหมือนกับผักโขมอบชีสธรรมดาแต่เอาไปโป๊ะบนขนมปังแทน อบชีสให้เยิ้ม ๆ แล้วเอาเข้าปาก อื่มมมมม
ขอบคุณภาพประกอบจาก peasandcrayons
มีอาหารอยู่อีกชนิดหนึ่งที่ใช้ผักโขมเป็นส่วนประกอบหลักนั่นก็คือ Spinach Quiche ซึ่งหลาย ๆ คนก็คงจะเคยลิ้มชิมรสมาแล้ว
คีชเป็นขนมอบของฝรั่งเศส แต่ต้นกำเนิดจริง ๆ เป็นของชาวเยอรมันในแถบแคว้น Lorraine ของฝรั่งเศสในสมัยที่เยอรมันยังปกครองดินแดนนี้อยู่ คีชเป็นขนมอบเปิดหน้า ใส้ตรงกลางอาจจะเป็นเนื้อสัตว์และผักในครีมคัสตาร์ด อบแล้วหน้าตาเหมือนพายสีเหลืองทอง
คีชตำรับดั้งเดิมก็คือ Quiche Lorraine ตั้งตามชื่อแคว้น ส่วนผสมหลักประกอบด้วยไข่ นมสด ครีม แล้วก็ใส่ชีส Cheddar หรือ Gruyère หรือชีสอะไรก็ได้ที่ชอบ ตามด้วยเบคอน แล้วเอาเข้าเตาอบประมาณ 25 นาทีก็เอาออกมารับประทานได้เลย
ส่วนคีชผักโขมหรือ Spinach Quiche นั้น ความจริงมีชื่อเรียกทางการอย่างไพเราะว่า Quiche Florentine คำนี้มาจากพระราชินี Catherine de Médici ซึ่งเป็นชาวฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี ได้ทำการเสกสมรสกับกษัตริย์ฝรั่งเศส พระนางได้นำพ่อครัวมาจากบ้านเดิมเมืองฟลอเรนซ์ด้วยพร้อมกับเมล็ดผักโขม
เชื่อไหมครับว่า ในยุคนั้นประเทศฝรั่งเศสยังไม่รู้จักผักโขม เมื่อพ่อครัวของพระนาง Catherine ได้นำผักโขมมาประกอบอาหาร ก็ได้รับความนิยมอย่างมาก เป็นที่รู้จักกันในฐานะผักต่างประเทศที่มาจากเมืองฟลอเรนซ์ ทำนองเดียวกับบล็อกโคลี่หรือแครอทของสมัยนี้
Quiche Florentine หรือคีชผักโขมนี้วิธีทำก็ไม่ยุ่งยากอะไร ทำส่วนผสมเหมือน Quiche Lorraine ข้างต้น แล้วก็เอาผักโขมใส่ลงไป เบคอนอีกนิดหน่อย เอาเข้าเตาอบ พอสุกก็เอาออกมารับประทานได้ ส่วนใครจะต่อเติมเสริมแต่งอย่างไรเช่น ใส่หัวหอมใหญ่ ใส่เห็ด ใส่เครื่องเทศเข้าไปอีกก็ย่อมได้ตามความนิยมของแต่ละบุคคล
ขอบคุณภาพประกอบจาก vanillabeancuisine
คีชผักโขมก็เป็นอาหารจากผักโขมอีกจานหนึ่งที่เราคนไทยรู้จักกันดี ก็มีขายคู่กับ Quiche Lorraine อยู่ตามร้านขนมปังฝรั่งทั่วไปในเมืองไทย
ท่านผู้อ่านรู้หรือไม่ครับว่า ผักโขมหรือ spinach ที่เราเอามาอบชีสแสนอร่อยนั้นความจริงไม่ใช่ผักโขม ผักโขมของแท้นั้นมีชื่อฝรั่งว่า Amaranth เป็นพืชพื้นบ้านของไทย มีลักษณะเป็นต้นเล็ก ๆ ใบสีเขียว บางพันธุ์ก็เป็นเขียวปนแดง ขึ้นได้ง่ายตามริมทางหรือป่าละเมาะ ชาวบ้านก็นำมากินกับน้ำพริก หรือต้มเป็นแกง ฯลฯ และมีสรรพคุณทางยาอีกหลายประการ
ส่วนผักโขมที่เราเอามาอบชีสนั้นก็เป็นญาติ ๆ กันซึ่งก็คือ ผักปวยเล้งนั่นเอง ผักปวยเล้งนี้มีถิ่นกำเนิดอยู่ในเปอร์เซีย ต่อมาได้เข้าไปในประเทศจีนคงทางเส้นทางสายไหมที่ติดต่อค้าขายกันก็เลยได้ชื่อจีน ก็แน่นอนว่าชาวจีนก็คงมาเผยแพร่ต่อให้คนไทย
ขอบคุณภาพประกอบจาก FB: ROYALPROJECTFOUNDATION
เหตุไฉนเราถึงไปเรียก spinach ว่าผักโขมยังไม่ปรากฏ แต่ Gourmet Story เดาเอาเองว่า ต้นคงจะเป็นพุ่มเล็ก ๆ หน้าตาก็คล้ายกันเลยนึกว่าเป็นอย่างเดียวกัน
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ผู้คนทั้งหลายก็คุ้นกับการที่เรียก “ปวยเล้ง” ว่า “ผักโขม” ไปกันไปหมดแล้ว ที่สำคัญมันอร่อยเสียด้วยสิครับ
เรื่องตอนที่แล้ว “บลูเบอร์รี่ - ไม่ใช่ทำได้แต่ชีสเค้ก” อ่านได้ที่
Gourmet Story - เรื่องราวเกี่ยวกับอาหารที่เป็นเกร็ดความรู้ เล่าสู่กันฟัง เพิ่มความอร่อยของอาหารที่เรารับประทาน ติดตามได้ที่
- 18
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
