5 มิ.ย. 2021 เวลา 03:50 • ข่าว
ในวันฮัลโลวีนของปี 1992 ที่เมือง Saskatchewan ของประเทศ Canada ผู้หญิงคนนึงที่ชื่อ Candice ไปพบกับ Dr. John Schneeberger คุณหมอประจำครอบครัวที่ในตัวเมือง ตอนที่ไปหาหมอนั้นเธอถูกให้ยาที่ค่อนข้างแรง และมีอาการสะลึมสะลือ เหมือนจะสลบไป แต่ก็ไม่สลบ หลังจากที่ฟื้นขึ้นมาในครั้งนี้ Candice รู้ว่ามันไม่เหมือนกับครั้งก่อนหน้านี้ Candice ไปที่สถานีตำรวจเพื่อแจ้งความทันที เธอมั่นใจว่าเธอถูกคุณหมอของเธอ “ข่มขืน” เพราะถึงแม้จะมีอาการไม่สามารถขยับแขนขา หรือจำอะไรไม่ได้ แต่ความรู้สึกหลังจากที่ถูกตรวจมันไม่ใช่ และเธอรู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของเธอ
Candice ขณะออกมาให้สัมภาษณ์กับรายการทีวี Cr: Trueactivist.com
เจ้าหน้าที่พา Candice ไปตรวจร่างกายและพบคราบอสุจิที่ติดอยู่ที่กางเกงใน พวกเขาเชิญให้คุณหมอมาให้ปากคำ และเพื่อขอตรวจ DNA ซึ่งหมอ John ก็ยินยอมเป็นอย่างดี คุณหมอ John อธิบายว่า ยาตัวที่ให้นั้นบางทีแล้วผลข้างเคียงทำให้คนไข้รู้สึกว่าตัวเองกำลังมีเพศสัมพันธ์อยู่ ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ Candice จะรู้สึกว่าตัวเองถูกข่มขืน (ดูเป็นคำอธิบายที่เหมือนจะดี) และยอมให้เจ้าหน้าที่เจาะเลือดเพื่อตรวจหา DNA
ผล DNA ออกมาว่าไม่ตรงกันกับ DNA ของคราบอสุจิที่เจอบนเสื้อผ้าของ Candice พอผลออกมา เจ้าหน้าที่ไม่สามารถดำเนินการจับกุมตัวหมอ John ได้ มิหน้ำซ้ำ คนในเมืองที่ต่างรู้จักหมอ John เป็นอย่างดี (ว่าเป็นคนที่ทำงานหนักเพื่อคนไข้และเพื่อชุมชน เขาเป็น Family Man ที่แต่งงานแล้ว มีลูกของตัวเองสองคน และยังรักลูกติดของภรรยาเหมือนลูกตัวเองอีกด้วย) ต่างพากันรุมประนาม Candice
💉 โอ้ย ผู้หญิงคนนี้ งานการก็ไม่ค่อยจะดี (ทำงานที่ปั้มน้ำมัน และเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว) หิวเงินละสิท่า
💉 ก็ แหม เธอชอบปาร์ตี้ออกจะบ่อย จริงๆแล้วไปมีอะไรกับคนอื่นแล้วมาโทษหมอหรือเปล่า
💉สงสารหมอจังนะเธอ อยู่ดีๆก็ต้องมาเจอเรื่องอะไรแบบนี้
💉แกแอบชอบหมอ พอเขาไม่เอา ก็โกรธแล้วมาหาเรื่องใส่ร้ายป้ายสีหมอเลยสินะ สมน้ำหน้า
นอกจากนี้ Lisa ภรรยาของหมอ John ยังออกมาให้สัมภาษณ์ เรียก Candice ว่า “slut” ออกทีวีอีกด้วย เมื่อไม่มีหลักฐานเพียงพอ ตำรวจเลยต้องหยุดการสืบสวนไปในปี 1994
John กับ Lisa ผู้เป็นภรรยา Cr: Forensic file now.
แต่ Candice บอก งานนี้ฉันจะไม่ยอม!!!!!
หลังจากที่เกิดเรื่อง Candice เก็บเงินและว่าจ้างนักสืบให้ตามหา DNA ของหมอ John มาตรวจสอบ นักสืบคนดังกล่าวไปเอาลิปมันที่น่าจะเป็นของหมอ(วางอยู่ในรถ) มาได้ และเมื่อเอาไปตรวจก็พบว่า DNA ของหมอ John ตรงกับ DNA ของคนร้ายที่ข่มขืน Candice จริงๆ!!!!!!!! Candice รู้สึกดีใจมาก ในที่สุด! ชั้นว่าแล้ว! และส่งเรื่องขอให้ตรวจ DNA อีกครั้ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ทำตามที่ Candice ร้องขอ แต่ผลคราวนี้ออกมาก็เหมือนเดิม DNA ที่ได้มาจากเลือดของหมอ John ไม่ตรงกันกับ DNA ของคนร้าย (เกาหัวงงกันทั้งแถบ)
***พยานหลักฐานที่ได้มาจากนักสืบ นำเอามาใช้ไม่ได้ เพราะไม่ได้เอามาอย่างถูกต้องตามกฎหมายค่ะ
1
ในตอนที่ Candice น่าจะแทบตีอกชกหัวตัวเอง ทำทุกอย่างเพื่อเรียกความยุติธรรมมาให้ตัวเองแล้ว ทำไมเรื่องถึงเป็นอย่างนี้อีก?? แต่ Candice ก็ไม่ต้องสู้คนเดียวอีกต่อไปค่ะ
ในปี 1997 น่าเศร้าที่เรื่องของ Candice มาได้รับความยุติธรรม เพราะมันดันมีเหยื่ออีกคนนึง เหยื่อคนนี้ไม่ใช่ใคร ลูกเลี้ยงวัย 13 ปี ของหมอ John นั่นเอง
Lisa ภรรยาของหมอ เพิ่งมาทราบว่าลูกสาววัย 13 ปี ของตัวเอง ถูกหมอ John ซึ่งเป็นพ่อเลี้ยง ข่มขืนหลายครั้งหลายครา ตอนที่ไปตรวจสุขภาพร่างกาย (โดนวางยาวิธีเดียวกันกับของ Candice เป๊ะๆ) คราวนี้เจ้าหน้าที่ไม่ได้เอาแค่เลือดอย่างเดียว (แถมเจาะเลือดจากปลายนิ้วแล้วคราวนี้) พวกเขาเอา DNA ที่ได้จากผมและจากการปาดกระพุ้งแก้มไปด้วย ผลตรวจ DNA ออกมาว่า DNA ของหมอ John ไม่เพียงแต่จะตรงกับ DNA ที่ได้มาจากลูกเลี้ยงวัย 13 แต่ดันไปตรงกับของคนร้ายในคดีของ Candice อีกด้วย!!!!
แล้วเรื่องมันทำไมถึงได้ดูงงๆ? มันมีคำอธิบายอยู่ค่ะ
John สารภาพว่า ตอนที่ตรวจเลือดในคดีของ Candice สามครั้งแรกนั้น เขาเอาท่อพลาสติก (Penrose drain) ขนาด 15 cm สอดเข้าไปในแขนตัวเอง ในท่อนั้นมีเลือดของผู้ชายอีกคนที่เป็นคนไข้เขาอยู่ด้วย และเขาบอกกับเจ้าหน้าที่จากห้องแล็ปว่าควรจะเจาะเลือดตรงไหน (อันนี้เราคิดเอานะคะว่า คงเหมือนเวลาเราไปหาหมอ มีพี่ๆนางพยาบาลมาเจาะเลือด แล้วเส้นเลือดมันนูนขึ้นมาตรงไหน หรือขอให้เจาะตรงไหนเพราะเราจะใช้แขนอีกข้าง ออกแนวนั้นไหม)
หมอ John ขณะถูกเจาะเลือด Cr. Medium.com
***อันนี้เราอึ้งนะ อ่านตอนแรกยังคิดเลยว่า เฮ้ย! จริงเหรอ? เพราะถ้าท่อพลาสติกยาวขนาดนั้น ใส่เข้าไปไม่เจ็บเหรอ? แล้วถ้าเจาะเลือดเนี่ย เราจะรู้ไหมว่าเขาจะเอาเยอะแค่ไหน เกิดเขากำลังเจาะแล้วจะเอาเยอะกว่าเดิมแล้วเลือดที่ใส่ไว้ในท่อหมดแล้วทำไงอะ??
หมอ John ยอมรับเรื่องสับเปลี่ยนเลือดจริงๆ แต่ยังปากแข็งบอกไม่เคยข่มขืนใคร เชื่อว่าทั้ง Candice กับ ลูกเลี้ยงเอาถุงยางที่ใช้แล้วของตัวเองมาเก็บเอา DNA ไป เพื่อใส่ร้ายป้ายสี (ยังอีกนะ)
…...พอจับได้แล้ว ทั้งหมดนี่คิดว่าหมอติดคุกกี่ปีคะ? ติ๊กต๊อกๆๆๆๆ ⏰ ⏰ ⏰
.
.
.
.
6 ปี จ้าาาาาา แต่เดี๋ยวก่อน ถ้าคิดว่านี่น้อยแล้ว จริงๆแล้วติดแค่ 4 ปีนะจ๊ะ และได้รับทัณฑ์บนให้ออกมาในปี 2003
หลังจากที่ออกมา เขาก็โดนประเทศ Canada ส่งตัวกลับประเทศแอฟริกาใต้ ประเทศแม่ของตัวเอง (เพราะในปี 1993 ตอนที่ทางประเทศ Canada ให้สัญชาติกับเขานั้น เขาดันโกหกว่า ตัวเองไม่อยู่ภายใต้การสอบสวนของตำรวจในคดีไหนๆทั้งสิ้น ทั้งๆที่ในตอนนั้นมีคดีความเกี่ยวกับ Candice อยู่)
รูปแสดงจำลองท่อพลาสติกและภาพซูมแขนหมอในตอนที่ถูกเจาะเลือด (โห เห็นชัดขนาดนั้นเลยนะ) Cr: Trueactivist.com
กลับไปบ้านเกิดก็พยายามจะไปขอใบประกอบวิชาชีพและทำงานในด้านการเพทย์อีกครั้ง โดยมีพี่ชาย (ผู้เป็นหมอ) พยายามจะช่วยเหลือ แต่โดนสังคมรุมยี้เลยไม่ได้ไปต่อ กลับเข้าไปอยู่อาศัยกับแม่ที่บ้านเก่าและหางานอย่างอื่นทำแทน ปัจจุบันก็น่าจะยังมีชีวิตอยู่
3
*** เรื่องของ Candice ถูกนำไป feature ไป episode หนึ่งของ Forensic File ที่มีชื่อว่า “Bad Blood”
EP. เก่าๆดูได้ตามนี้ค่ะ
Facebook Page:
🐝Subscribe To My Youtube Channel🐝
Blockdit:
โฆษณา