จากหน้าหนังที่เปิดตัวด้วย การตัดหนังตัวอย่างออกมาแบบเรียกน้ำย่อย ประกอบกับการชูประเด็นดารานำระดับหัวกะทิ เจสัน สเตแธม หวนมาจับมือกับผู้กำกับิย่างกาย ริทชี่
เรียกได้ว่าสร้างความสนอกสนใจ ให้กับนักดูกนังได้เป็นอย่างสำหรับ Wrath of Man
เนื่องจากถ้าหากย้อนไปเมื่อสัก15 ปีก่อนในขณะที่คนทั้งคู่กำลังแสวงหาชื่อเสียง มิได้มีแบรนด์เนม เมื่อทุกวันนี่ กายริทชี่ ได้จับเอา เจสัน สเตแธม มาเล่นในหนังที่สร้างชื่อเสียงให้กับเขาและเป็นหนังที่เหล่านักวิจารณ์ชมกันมากคือ Lock Stock and. Two Smoking. Barrels ในปี1998
ทั้งคู่ก็แทบไม่เคยโคจรมาร่วมงานกันเลยเท่าไร เมื่อบ้างในปี2005 กับRevolver ก็จะมีครั้งนี่แหล่ะที่ได้มาร่วมงานกันอย่างจริงจัง
ซึ่งหนังอย่างWrath Of Man ดังแปลงมาจากหนังฝรั่งเศสที่ออกฉายในปี 2004เรื่อง Le Convoyeur
หนังว่าด้วยเรื่องราวของชายปริศนา นามว่าเอชที่แฝงตัวเข้ามาทำงาน รักษาความปลอดภัยบริษัทรถหุ้มเกราะขนเงิน เพื่อสืบหาใครคือคนทีฆ่าลูกชายของเขาในการปล้นครั้งหนึ่ง
โดยการเข้ามาทำงานแฝงครั้งนี่จะที่ไม่ค่อยมีใครยอมรับ เอชสามารถแทรกซึมที่ล่ะนิดให้เพื่อนร่วมงานเปิดใจ จากการป้องเหตุการปล้นรถหุ้มเกราะของบริษัทได้ด้วยทักษะพิเศษ
และการเข้ามาแทรกซึมนี่เอง ทำให้สามารถ ค่อยๆ เปิดโปงหน้ากาก ของคนที่ลงมือสังหารลูกชายของเขา และแก๊งค์ปล้นเงินระดับมืออาชีพ ตลอดจนการไขปริศนาลึกลับของเอชว่าเขาคือใครกัน
จากพล็อคของหนัง ที่วางโครงเรื่องเป็นสูตรหนังแอ็คชั่นเต็มร้อย และมาอยู่มนมือของกาย ริทชี่ ที่มีเครดิคจากหนังดังมากมายไม่ว่าจะเป็นเชอร์ล็อคโฮม อาลาดิน เป็นต้น.
ย่อมได้รับการค่ดหวังจากคนดูสูง แต่ดูเมื่อว่า ผู้กำกัยอย่างกาย ทำหนังออกมาเหมือนมาพักร้อน คือไม่ได้ตูมตามระเบิดภูเขา เผากระท่อม หนังกลับมาแบบสโลว์ๆ อยู่มากในการดำเนินเนื้อเรื่อง
แม้ว่าจะมีการตัดต่อของหนังที่เป็นลายเซ็นของกายให้อยู่บ้าง กับการตัดฉากเล่าเหตุกาณ์ กลางเรื่องทาอยู่ต้นเรื่อง ดหตถการณ์ต้นเรื่องมาอยู่กลางเรีองได้แบบเนียบ คนดูเข้าใจง่ายเดาตอนจบได้
พร้อมกับที่มีฉากน้ำจิ้ม แสดงทักษะแอ็คชั่นของเอชออกมา ดูโดยในภาพร่วมแล้วไม่สามารถเรียกอะดีน่ารีน ของคนดูให็หลั่งออกมาได้ แม้แต่ฉากแอ็คชั่นในท้ายเรื่อง ก็ดูผิดฟอร์มของ กาย ริทชี่ไป
ส่วน เจสัน สเตแธม น่าจะพอได้ว่าบุคลิกของเขาในหนัง ก็เหมือนท่าทางเดิมๆ ในหนังทั้งหลายที่เขาแสดง ซึ่งคนดูก็ชินเสียแล้วกับลุคแบบรี่เพียงแต่ว่าคราวนี่พี่แก่ ออกลีลาแอ็คชั่นไม่เร้าใจเสียมาก
กว่า
จึงน่าจะพูดได้ว่าWrath of Man เป็นงานในระดับกลางๆ ที่พอดูได้ ขัดตาทัพรอหนังแอ็คชั่นบิ๊กเนม ที่ทะยอยออกมามนไตรมาส 3 นี่