กลาโหมแจง “ซื้ออาวุธก็เหมือนซื้อบ้านสองหลัง”
หลังจากที่มีการอภิปรายอย่างหนักในเรื่องงบประมาณปี 65 ที่งบกระทรวงกลาโหมนั้นมากกว่ากระทรวงสาธารณสุข ซึ่งในช่วงสภาวะวิกฤติของโควิด-19 นั้น ทำให้ความรู้สึกของทั้งคณะฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลเองต้องลุกขึ้นมาแย้งถึงความเหมาะสม
จากนั้นทางเว็บไซต์โฆษกกระทรวงกลาโหมก็ได้ทำอินโฟกราฟฟิคชี้แจงว่า ทุกเหล่าทัพเฉือนงบตัวเองลงกว่าหมื่นล้าน
ซึ่งส่วนที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์มากที่สุดก็คงเป็นเรื่องกำลังพลที่มากล้นกองทัพ รวมไปถึงงบซื้ออาวุธที่ไม่น่าจะสำคัญเท่าการเยียวยาสาธารณะสุขประชาชนในช่วงปีสองปีนี้
กลาโหมก็ชี้แจงว่า
มีแผนลดกำลังพล 12,000 นายภายในปี 2570
ส่วนงบซื้ออาวุธนั้นแบ่งออกมา 26% จากงบทั้งหมดเรียกว่างบพัฒนา ซึ่งรวมการซ่อมแซมอาคาร ยานยนต์ และจัดซื้ออาวุธ โดยการซื้ออาวุธเป็นแค่ 1 ใน 3
พร้อมอธิบายเพิ่มเติมว่า “การซื้ออาวุธเองก็เหมือนไม่ต้องเช่าบ้านใครอยู่ กลาโหมเลยเปลี่ยนวิธีซื้อบ้านสองหลัง หลังนึงอยู่เอง อีกหลังปล่อยเช่าเพื่อหารายได้”
ส่วนทางสมาชิกพรรคฝ่ายค้านที่มีชื่ออยู่ในคณะกรรมาธิการพิจารณาร่างฯวาระที่สอง อย่าง นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.พรรคเพื่อไทย ก็กล่าวว่า
“จะเดินหน้าปกป้องภาษีของพี่น้องประชาชนทุกบาททุกสตางค์ให้มีการจัดสรรใช้อย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับสถานการณ์เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนได้อย่างถูกต้อง โดยเฉพาะการปรับลดงบประมาณในส่วนที่ไม่จำเป็นที่ถูกแอบแฝงไว้ในร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฉบับนี้”
ส่วนศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.ก้าวไกลก็ออกมาบอกว่าเตรียมลับมีดหั่นงบกลาโหมไว้แล้ว แม้ผู้สื่อข่าวจะถามว่า ส.ส. ก้าวไกลไม่ได้มีตำแหน่งสำคัญในกรรมาธิการพิจารณาร่าง แล้วจะหั่นอย่างไร
ทางศิริกัญญาก็แจงว่า จะเน้นสื่อสารกับประชาชน เหมือนกับกรณีงบเรือดำน้ำของกองทัพเรือ ที่แม้ร่างจะผ่านแต่ประชาชนก็กดดันจนกองทัพเรือต้องชะลอการซื้อเรือดำน้ำออกไป
- 3
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
