6 มิ.ย. 2021 เวลา 08:55 • ท่องเที่ยว
🚘แชร์เทคนิคการขับรถให้นิ่มนวล🚘
1
รถ ยืมเขาถ่ายครับ
🚘เคยเป็นมั้ย บางทีนั่งรถไปกับคนอื่น แล้วมีความรู้สึกว่ามันเป็นช่วงเวลาที่ทรมาน แต่พูดไม่ออก บอกไม่ถูก ด้วยลูกเกรงใจ แต่ภายในคิด อยากจะขอลงกลางทาง ก่อนที่จะเจ็บปลายเท้า เบรคไปด้วย คนขับบางคนขับได้นิ่มนวลมาก จนบางทีรู้สึกเหมือนขับช้า แต่พอดูเข็มไมล์ บ๊ะ ไปเป็นร้อย แต่บางคนความเร็วไม่เท่าไหร่ แต่ด้วยสไตล์การขับกระโชกโฮกฮาก สวี้ดสว้าด เลยทำให้เหมือนเรานั่งในรถแข่ง ซึ่งโดยธรรมชาติคนที่ขับอาจจะไม่ทันได้นึกว่า สกิลการขับของตัวเองถูกใจคนนั่งด้วย หรือสร้างแต่ความขวัญผวา จนกระทั่งต้องมานั่งโดยสารกับใครซักคน จะเห็นความสำคัญของตรงนี้ขึ้นมา
2
🚌เนื่องจากผมใช้ชีวิตกับการเดินทางมาตลอด ยานกาลเวลาส่วนใหญ่ก็คือรถ จะรถบัส รถตู้ หรือรถหรู ผ่านมาหลายประเภท คนขับหลายสไตล์ หลายคนก็ขับได้นิ่มนวลสมกับประสบการณ์ที่สั่งสม ลูกทัวร์ก็ชม เขารู้สึกว่าสามารถ เอนหลังพักผ่อน ชมวิวเพลิน ๆ ไม่ต้องมานั่งขวัญผวาตาโพลงอยู่ตลอดเวลา แต่บางคน ลืมตัวนึกว่าขับรถส่งของ ซิ่งซะผู้โดยสารกระจุยกระจายกัน บางคนจนไม่อยากจะเกรงใจอีกต่อไปเลย อยากไล่ลงแล้วไปนั่งขับแทนก็มีครับ
🚍ตัวผมเองก็ชอบการขับรถเดินทางด้วย บ่อยครั้งที่ผมก็สวมวิญญาณคนขับรถให้ลูกค้าทั้งแบบนักท่องเที่ยว นักธุรกิจ รวมถึงระดับรัฐมนตรีที่มาประชุมนานาชาติ มีรถตำรวจนำขบวน มีนายตำรวจนั่งคุ้มกัน ฉะนั้นเทคนิคการขับสำคัญมาก เพื่อให้ผู้โดยสารทุกคนประทับใจ เลยอยากมาแชร์ทักษะ เผื่อใครอยากขับรถได้นิ่มนวลบ้าง
🚘อันดับแรกคือ ควรเป็นคนมือเบาเท้าเบา การเหยียบคันเร่ง เบรค คลัทช์(ถ้ารถเกียร์ธรรมดา) ควรค่อย ๆ กด ค่อย ๆ ปล่อย จะทำให้ทั้งการออกตัวและการหยุดรถ จะได้ไม่หัวทิ่มหัวตำกัน
🚘การออกตัว ถ้ารถเกียร์ธรรมดา ค่อย ๆ กดคันเร่งลงไป พร้อมกับถอนคลัทช์ช้า ๆ จะได้ไม่กระโชกโฮกฮาก แต่อย่าชิลล์มากเกินไป โดยเฉพาะในเมือง ไม่งั้นกว่าจะพ้นไฟแดง จะถูกรถคันหลังสรรเสริญเจริญพรกันได้ ถ้าเป็นเกียร์อัตโนมัติ พอเราเหยียบออกตัวได้ระดับนึง พอให้รอบเครื่องถึงระดับที่ระบบเกียร์จะเปลี่ยนที่พันรอบเศษ ๆ ก็ยกคันเร่งนิด ๆ เกียร์จะเปลี่ยนแบบนุ่มนวล เป็นการถนอมเครื่องยนต์ และระบบเกียร์ให้อยู่กับเรานาน ๆ ด้วย
🚘การจะเบรครถตามไฟแดงให้นุ่มนวล เราควรประเมินสถานการณ์แต่ระยะไกล ถึงแม้ว่าบางแยกจะมีเวลานับถอยหลังบอกให้ แต่บางแยกไม่ ฉะนั้นเพื่อเลี่ยงการได้รับใบสั่งฐานฝ่าไฟแดง ควรเผื่อใจไว้ว่าเดี๋ยวพอเราไปถึงตรงนั้น มันอาจเป็นจังหวะเปลี่ยนเป็นแดงพอดี
🚘การแตะเบรคตามไฟแดง ควรแตะให้รถหยุดได้มั่นคง แต่ไม่ต้องกระทืบ เบรคจะพัง หรือล้อจะล็อคจนมีเสียงเอี๊ยดอ๊าดแล้วตัวรถก็จะลื่นไถล ควรแตะให้รู้สึกมั่นคง แต่นิ่มนวลด้วยการค่อย ๆ ปล่อยนิด ๆ ก่อนจะย้ำไปอีกที หลีกเลี่ยงอาการหน้ารถ หัวคนทิ่ม ไปข้างหน้า คือแตะเบรคจนรถหมดความเร็ว ก่อนรถจะหยุดสนิท ก็ถอนเท้านิด ๆ รถจะค่อยหยุดอย่างนิ่มนวลชวนฝัน
🚘การเข้าโค้ง สำหรับคนในภาคเหนืออย่างผม เราจะชินกับเส้นทางภูเขา แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกคนขับแล้วผู้โดยสารไม่เวียนหัว อาเจียนได้ การเข้าโค้งให้นิ่มนวลและปลอดภัยก็สำคัญนะครับ ผมเห็นมาเยอะในภาพข่าวอุบัติเหตุตรงทางโค้ง เพราะเข้าโค้งผิดวิธี
🚘ก่อนถึงโค้ง เราควรประเมินเส้นทางก่อนว่าข้างหน้าเรานั้นเป็นโค้งกว้าง ๆ หรือโค้งหักศอก ด้วยการสังเกตป้ายลูกศร ถ้าเกิดระยะป้ายปักห่าง ๆ กัน แสดงว่าโค้งนั้นไม่หักมากนัก แต่ถ้าป้ายถี่ ๆ เตรียมตัวไว้ครับ ควรประเมินความเร็วของรถเราก่อน และทำการชะลอไว้ล่วงหน้า ถ้าต้องเบรคควรทำก่อนถึงโค้ง ไม่งั้นเหยียบมาสุดชีวิต แล้วตอนอยู่ในโค้ง เพิ่งรู้ตัวว่าเร็วไป แตะเบรค ร้อยทั้งร้อย หลุดครับ ไปกะเท่เร่อยู่ข้างทาง
ทีนี้พอเราชะลอความเร็วได้พอดีแล้ว (อันนี้ไม่มีสูตรมาตรฐานว่าควรจะกี่ กม.ต่อ ชม.ในแต่ละโค้ง ขึ้นอยู่กับชนืดของรถ ความสูงต่ำ น้ำหนักบรรทุกในแต่ละครั้งด้วย) คือใช้ความรู้สึกว่าไม่เร็ว ไม่ช้าเกิน พอเริ่มเข้าโค้ง ควรจะค่อย ๆ แตะคันเร่งนิด ๆ ให้ล้อที่ขับเคลื่อนมีแรงตะกุยและแรงยึดเกาะกับผิวถนน ทำให้เราผ่านโค้งนั้นได้อย่างปลอดภัย อย่าปล่อยให้รถไหลด้วยแรงเฉื่อยจนผ่านโค้งไป เราอาจจะไถลหลุดถนนไปก็ได้ครับ อีกอย่างนึงคือ "การกอดโค้ง" คือหลังจากที่เราถอนคันเร่ง เตรียมตัวเข้าโค้งแล้ว ถ้าโค้งด้านหน้าไปทางด้านไหน เราค่อย ๆ หักให้รถเราไปชิดเส้นขอบทางด้านนอกก่อน เพื่อให้มองเห็นทัศนวิสัยของเส้นทาง จากนั้นค่อย ๆ เลียบไปชิดขอบใน แล้วแตะคันเร่งออกจากโค้งไป ครับ
1
🚘ยกตัวอย่าง ข้างหน้าเราเป็นโค้งขวา ก่อนถึงโค้งนิดหน่อย เราก็เลียบไปทางด้านซ้ายก่อน (อย่าให้ออกนอกเลนเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ ยกเว้นถนนว่าง) จากนั้น ในโค้งเราก็เลียบไปทางขวา ตามโค้ง วิธีนี้จะทำให้มุมเลี้ยวโค้งลดลง ทำให้ปลอดภัยและนุ่มนวลครับ แต่อย่าคร่อมเลนเป็นอันขาดนะครับ โดยเฉพาะถนนตามชนบทสองเลนสวนกัน เกิดปะเหมาะเคราะห์ร้าย กินเลนไปทิ่มไปตำเค้า เราผิดสถานเดียวนะครับ อยู่ในเลนเรา แต่ชิดขอบด้านในแค่นั้นเองครับ
1
🚘การวิ่งในทางขรุขระเป็นหลุมเป็นบ่อ หรือมีการทำถนน ซ่อมถนน อันนี้ก็สำคัญ ควรประเมินล่วงหน้า ด้วยการสังเกตสีถนน ถ้าสีต่างกันปุ๊บ ให้สันนิษฐานว่าผิวถนนไม่เสมอกันไว้ก่อน หากเจอทางต่างระดับที่ทรุดลงไป รถเราจะได้ไปผ่านด้วยการเหิน อาจจะร่วงข้างทางเหมือนที่เห็นกันบ่อย ๆ ควรค่อย ๆ ถอนคันเร่ง หลีกเลี่ยงการเบรคกระทันหัน เพื่อป้องกันการถูกชนท้ายด้วย ลองสังเกตบางทีพวกที่ขับรถเป็นอาชีพ เกิดเค้าจะต้องเบรคกะทันหัน อาจจะมีอุบัติเหตุ หรือปิดช่องทางข้างหน้า การเบรคอย่างเดียวเพื่อให้คันหลังเห็นไฟเบรคอาจจะยังไม่พอ ก็จะมีการตีไฟเลี้ยวสลับซ้ายขวา ๆ เพื่อเป็นจุดสังเกตให้คันหลังด้วย
🚘การขับรถบนถนนที่มีการซ่อมผิวถนน เซาะหน้าถนนให้นิ่มนวลคือ อย่างที่บอกแต่ต้น ถ้ามองจากระยะไกล เห็นสีผิวถนนไม่เท่ากัน ให้ชะลอความเร็ว แล้วขับผ่านไปโดยไม่แตะคันเร่งเพิ่มเพื่อป้องกันการเหินลอยแล้วกระแทกลงมา จากนั้นใช้ความเร็วต่ำ ยิ่งถ้ารู้สึกว่าพวงมาลัยเบาขึ้น แสดงว่าหน้ายางเราเกาะกับพื้นถนนลดลง ต้องใช้ความระมัดระวังไม่ให้ไถล แต่ไม่ได้หมายความว่าต้องคลานเป็นเต่าเสมอไป เพราะบางครั้งคลานมากเกินไปก็กระแทกกระทั้น แต่ใช้ความเร็วพอสมควรที่ให้ล้อสามารถ "รูด" ผ่านหลุมเล็ก ๆ ไปได้ หลักสำคัญที่สุดคือ พยายามขับตามพื้นผิวที่ "สี" เหมือนกันมากที่สุด เพราะแสดงความจะไม่ค่อยมีความต่างระดับของพื้นผิว ผมเคยมีคนขับรถบางคน ขนาดขับทางลูกรังบนเขา แต่ไปได้นิ่มนวลมาก จนลูกทัวร์ชมเปาะเลยครับ
🚘เสร็จแล้วพอมาถึงผิวถนนที่สู่สภาวะปกติ บางคนก็จะเร่งไปตรง ๆ ขึ้นไป อันนี้จะทำให้ล้อหน้าของเรากระแทกกับขอบของยางมะตอย หรือซิเมนต์อย่างแรง ช่วงล่างของทั้งรถและคนจะพังกันได้ แนะนำว่าถ้าเป็นไปได้ ให้พยายามเอียงพวงมาลัยรถเล็กน้อย ให้รถไต่ขึ้นเฉียง ๆ ทีละล้อ แล้วหักคืนให้วิ่งไปตามทางปกติ จะลดการกระแทกได้เยอะเลย
🚘การจะเบรคฉุกเฉิน อย่าตะบี้ตะบันเหยียบอย่างเดียวด้วยความตกใจ พยายามตั้งสติมองกระจกหลัง กะระยะห่างของคันหลังด้วย เพื่อเลี่ยงการถูกชนท้าย เราควรจะเหยียบเบรคลงไปเพื่อชะลอความเร็วระดับหนึ่ง แล้วปล่อยนิด ๆ เพื่อให้มีระยะให้รถไหล เพิ่มระยะห่างจากคันหลังด้วย ถึงแม้เราถูกชนท้ายเราจะไม่ผิด แต่รถเราก็จะพัง เสียเวลา เสียราคาขายต่อรถในอนาคตด้วย
🚘วันนี้ไกด์ปิง ขอเปลี่ยนเนื้อหานิดนึง แต่เพื่อความสะดวกสบาย ปลอดภัย และถนอมรักษารถยนต์ของทุกคน ก็พอสังเขปครับ กับเทคนิควันนี้ อย่าว่าผมมาสอนเลย บางท่านอาจจะเป็นกูรูซะด้วย แต่มาบอกเล่าแลกเปลี่ยนประสบการณ์จากใช้ชีวิตเดินทางมาตลอด และทุกวันนี้เห็นภาพข่าวอุบัติเหตุ หรือเห็นด้วยตาตัวเองอยู่ทุกวัน ทั้งที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น ตัวผมเองขับมา 30 ปี ไม่มีอุบัติเหตุเลย ลองดูครับ ถ้าไปลองทำแล้ว ไม่เป็นที่ผมบอก ทักท้วงมาได้ครับ ถัาเห็นว่าเป็นประโยชน์แชร์ต่อได้ครับ ขอบคุณที่ทนอ่านจนจบครับ🙏
3
ยี่ห้อรถในฝัน แต่มันยังไม่เป็นจริง
โฆษณา