ฉะนั้น การ mint หุ้น = การ short หุ้น เพราะเราสามารถเอาหุ้นเทียมที่ mint มาได้นี้ไปขายใน liquidity pool เพื่อแลกเอา UST กลับออกมาได้เลย แล้วถ้าในอนาคต หุ้นตัวนั้นราคาตกลงมา เราค่อยไปซื้อคืนจาก pool ที่ราคาถูกกว่าวันที่เราขาย เพื่อเอากลับไป burn เอาเงินประกันคืนจากโรงรับจำนำ
- ยิ่งราคาหุ้นปรับตัวลดลง collateral ratio ของเรายิ่งสูงขึ้น
ความเสี่ยงของวิธีนี้คือ
- ถ้าเรา mint หุ้นเพื่อไปขายทันที โดยหวังว่าราคามันจะลงแล้วค่อยไปซื้อคืนราคาต่ำๆ แต่ถ้าเราคิดผิด เราคาหุ้นวิ่งขึ้น แปลว่าเราต้องซื้อหุ้นคืนที่ราคาแพงขึ้นเพื่อเอาไปไถ่ถอน UST ที่เราตึ๊งไว้
- ถ้าเรา mint หุ้นเพื่อไปวาง liquidity pool เอา incentive จาก MIR token ที่เค้าให้เป็นผลตอบแทน ถ้าราคาหุ้นเพิ่มขึ้นจน collateral ratio ของเราต่ำกว่า 150% เราจำเป็นต้องเพิ่มเงินประกัน UST หรือไม่ก็ต้องคืนหุ้นนั้นบางส่วนเพื่อรักษาระดับ collateral ratio เอาไว้ แต่กรณีนี้เราไม่ได้เสีย capital loss จากราคาหุ้นนะครับ เพราะเราคืนเป็นจำนวนหุ้นเท่าเดิม เท่ากับที่เรา mint มา ไม่ได้ดูที่ราคา
- ฉะนั้น สรุปได้ว่า ถ้าราคาหุ้นปรับขึ้นเกิน 33% จากวันที่เรา mint มา เราจะโดนเรียให้เพิ่มเงินประกัน หรือคืนหุ้นบางส่วน
2. ซื้อหุ้นเทียมจาก Pool โดยตรง (trade หรือ swap)
วิธีนี้คือการเอา UST ไปแลกหุ้นเทียมออกมาเลยจาก pool ใน function trade หรือเหมือนการ swap ใน DeFi อื่นๆ จากนั้นเราสามารถเอาหุ้นนี้ + UST ที่มูลค่าเท่ากัน 1:1 ไป stake ใน pool ต่อได้ เพื่อรับ yield เป็นเหรียญ MIR ซึ่งเป็น governance token แล้วอยากจะเอา MIR ไป stake อีกทีหรือขายเป็น UST กลับมาก็ได้
ข้อดีของวิธีนี้คือ
- ใช้ทุนน้อยกว่าการ mint เพราะไม่ต้องวางเงินประกันถึง 2 เท่าของมูลค่าหุ้นที่ได้มา พูดง่ายๆคือ มีเงิน 100 บาท ซื้อหุ้นได้เลยเต็ม 100 บาท แต่การ min เราได้มาแค่ครึ่งเดียวหรือน้อยกว่านั้นขึ้นกับ initial collateral ratio
เหรียญ MIR ที่ได้มาจากการวาง LP นั้นสามารถเอาไปวาง LP ต่อได้อีกชั้นนึงเพื่อหาผลตอบแทนเพิ่มเติม หรือจะเอาไป stake ใน governance page ก็ได้ เพื่อจะได้รับ yield เพิ่มอีกต่อ และมีสิทธิ์ในการ vote poll ต่างๆที่ทางทีม developer launch ออกมา ไม่ว่าจะเป็นการ list หุ้นใหม่ๆเพิ่ม (whitelist), เปลี่ยนแปลง mint parameter, แก้ไขการแจก MIR และอื่นๆ
ทั้งนี้วัตถุประสงค์ของผู้สร้างก็เพื่อจะสร้าง community และ use case ต่างๆใน ecosystem เพื่อการขยายตัวของระบบในวงกว้างต่อๆไป แนวคิดดีนะ ประชาธิปไตยด้วย ไม่ใช่ developer อยากจะ list หุ้นอะไรหรือเปลี่ยนอะไรก็ทำได้ตามอำเภอใจ
แล้ว MIR token นี่มันเสกมาจากอากาศเรื่อยๆแบบนี้ มันจะมีมูลค่าได้ยังไง?
ในระบบ algorithm ที่ set เอาไว้ MIR token จะถูกแจกหมดภายใน 4 ปี โดยในช่วงเริ่มต้น จะมีปริมาณ token supply ในระบบ 54.9 ล้านเหรียญ 1 ใน 3 ผ่านทาง airdrop (แจกให้กับคนที่ stake Luna) และอีก 2 ใน 3 ผ่านทาง community pool
ในปีถัดๆไปหลังจากนั้น จะมีส่วนที่ให้เป็น reward จากการ stake Luna และ mAsset ในปริมาณตามตาราง จนครบ 370.5 ล้านเหรียญเมื่อครบ 4 ปี และจะไม่มีการผลิต MIR ออกมาอีก แปลว่าอัตราเงินเฟ้อของ MIR token จะค่อยๆลดลงเรื่อยๆจากปีแรกจนถึงปีที่ 4 และจะหยุด supply ตลอดไปหลังจากนั้น