7 มิ.ย. 2021 เวลา 11:00 • คริปโทเคอร์เรนซี
Synthetic Asset EP2: Mirror Protocol
Disclaimer: บทความนี้ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุน แต่มีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ข้อมูลในบทความนี้ เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียน อาจจะมีข้อมูลบางอย่างไม่ถูกต้อง ซึ่งอาจะเกิดขึ้นได้จากความไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ของผู้เขียนเอง นักลงทุนต้องทำการบ้านด้วยตัวเอง ตัดสินใจด้วยตัวเองนะครับ
1
ย้อนความตอนที่แล้ว ที่ได้เกริ่นนำเกี่ยวกับ synthetic asset ไป ในตอนนี้ ผมจะขอพูดถึงหนึ่งใน synthetic asset trading platform บน Terra network ซึ่งก็คือ Mirror Protocol
สำหรับคนที่ศึกษาและลงทุนใน crypto currency อยู่แล้วก็สามารถข้ามไปได้เลย เพราะผมอยากจะแสดงให้เห็นถึงภาพใหญ่ก่อนสำหรับคนที่ยังใหม่และยังไม่รู้จักระบบมากนักนะครับ
1
Transfer fund to Terra chain
ภาพแรกทางด้านซ้าย เป็นการ connect the dot จากจุดเริ่มต้นของคนที่เริ่มเข้ามาในโลกคริปโต ไม่ว่าจะผ่านทาง Bitkub, Bianance, Kucoin, Coinbase หรืออื่นๆที่เป็น centralized exchange (CEx) เปรียบได้กับประตูบานแรกที่เราเอาเงิน fiat ในโลกจริงไปแลกเงินคริปโตสกุลต่างๆ
ผมจะไม่ได้พูดถึงรายละเอียดวิธีการโอนย้ายและเปลี่ยนเหรียญคริปโตมากนักนะครับ เพราะคิดว่าท่านที่สนใจจะลงทุนด้านนี้สามารถหาดูได้จากใน youtube ที่มีกูรูต่างๆโพสไว้ให้มากมาย แต่จะขอสรุปสั้นๆแล้วกัน ว่าเราจะถ่ายโอนเงินคริปโตของเราไปที่ Terra chain ได้ยังไง
มี 2 วิธีที่นิยมทำกัน คือ
1. ถ้าเรามี stable coin หรือ BNB ใน CEx เราสามารถโอนเข้า metamask wallet เพื่อไปทำการ swap มาเป็น UST ซึ่งเป็น stable coin ของ Terra ได้ที่ swap platform ต่างๆ (สามารถเปรียบเทียบ rate แต่ละที่ได้เลย) แล้วโอนข้าม chain จาก Binance Smart Chain (BSC) ไป Terra ผ่าน Terra bridge https://bridge.terra.money/ ไปที่ Terra station wallet ของเรา
ข้อเสียคือ วิธีนี้จะหลายขั้นตอนหน่อย
2. ซื้อเหรียญ Luna จาก Binance หรือ exchange ที่มี trade (Bitkub ยังไม่มี) แล้วโอนเข้า Terra station wallet ได้โดยตรง แล้วค่อยไป swap เป็น UST ที่ Terra wallet เอา วิธีนี้มีความเสี่ยงเรื่องราคาของ Luna ที่ผันผวนระหว่างที่เรากำลังทำธุรกรรม ซึ่งอาจจะได้ UST มากขึ้นหรือน้อยกว่าที่ตั้งใจไว้ได้
ใน Terra Ecosystem มี Protocol ที่นิยมอยู่ 2 ตัว คือ Anchor ที่เป็นระบบ banking หรือ lending & borrowing และ Mirror ที่เป็น synthetic asset platform ที่ผมจะพูดถึงในตอนนี้
1
สิ่งที่เราต้องการคือ UST ซึ่งเป็น stable coin ของ Terra ที่ PEG กับค่าเงิน US dollar ที่ 1:1 ด้วย algorithm ในการ burn เหรียญ Luna เพื่อคงมูลค่าของ UST ซึ่งแตกต่างจาก USDT USDC BUSD ที่มี Real fiat asset มาค้ำประกันในการพิมพ์ออกมา
ใน Mirror Protocol มีหุ้นและสินทรัพย์อะไรให้ trade บ้าง?
ตอนนี้มี Synthetic Asset ทั้งหมด 24 ตัว ประกอบไปด้วย
หุ้นอเมริกา: Facebook (mFB), Amazon (mAMZN), Apple (mAPPL), Google (mGOOGL), Microsoft (mMSFT), Netflix (mNFLX), Tesla (mTSLA), Twitter (mTWTR), Gamestop (mGME), AMC (mAMC), Galaxy Digital (mGLXY), Alibaba (mBABA), Goldman Sach (mGS), Airbnb (mABNB), Coinbase (mCOIN)
กองทุน ETF: SPDR S&P500 (mSPY), Invesco Nasdaq100 (mQQQ)
Commodity: iShare Gold Trust (mIAU) , iShare Silver Trust (mSLV), US Oil (mUSO)
Crypto Currency: mBTC, mETH
ภาพทางด้านขวา เป็นกระบวนการได้มาซึ่ง synthetic asset ใน Mirror Protocol มี 2 วิธี คือ
1. Mint เพื่อสร้าง mAsset จากการเอา UST ไปวางค้ำประกันไว้
หุ้นส่วนใหญ่ต้องการ collateral เริ่มต้น 2 เท่า ของมูลค่า mStock ที่จะ mint ออกมาได้ ยกเว้นหุ้นบางตัวที่ราคาเหวี่ยงมากๆเช่น AMC หรือหุ้นโรงหนัง และหุ้น GME หรือ Gamestop ที่เป็นข่าวกลุ่มเม่า Reddit ที่รวมตัวกันปั่นราคาสู้กองทุน hedge fund ที่ short หุ้นอยู่ในตอนนี้ จะต้องการ collateral เริ่มต้น 3.5 เท่า
วิธีนี้ ความหมายคือ เราเอาเงิน $100 ไปวางค้ำเพื่อสร้างหุ้นเทียมขึ้นมาที่มีมูลค่า $50 (คิดที่ collateral ratio 200%) ได้จำนวนหุ้นเท่าไหร่ก็จับหารราคาตลาดวันนั้นๆ ตอนที่เราคืนหุ้นเทียมนี้หรือที่เรียกว่า burn เพื่อเอา UST ที่เราค้ำไว้คืน เราก็ต้องคืนเท่าจำนวนหุ้นที่ mint มา ไม่ใช่มูลค่าที่ mint นะครับ
หลักการเหมือนโรงรับจำนำ คุณเอาทองไปแลกเงิน แต่เงินที่ได้มาจากโรงรับจำนำจะน้อยกว่าราคาของทองที่เราเอาไปตึ๊งเสมอ
ฉะนั้น การ mint หุ้น = การ short หุ้น เพราะเราสามารถเอาหุ้นเทียมที่ mint มาได้นี้ไปขายใน liquidity pool เพื่อแลกเอา UST กลับออกมาได้เลย แล้วถ้าในอนาคต หุ้นตัวนั้นราคาตกลงมา เราค่อยไปซื้อคืนจาก pool ที่ราคาถูกกว่าวันที่เราขาย เพื่อเอากลับไป burn เอาเงินประกันคืนจากโรงรับจำนำ
ข้อดีของวิธีนี้คือ
- เราไม่ต้องกังวลว่าจะเสียส่วนต่างราคาหุ้นถ้าหุ้นนั้นปรับตัวลดลงในตอนที่ต้องการจะคืนหุ้นเพื่อเอาเงินประกันกลับมา (reduce stock price risk)
- ยิ่งราคาหุ้นปรับตัวลดลง collateral ratio ของเรายิ่งสูงขึ้น
ความเสี่ยงของวิธีนี้คือ
- ถ้าเรา mint หุ้นเพื่อไปขายทันที โดยหวังว่าราคามันจะลงแล้วค่อยไปซื้อคืนราคาต่ำๆ แต่ถ้าเราคิดผิด เราคาหุ้นวิ่งขึ้น แปลว่าเราต้องซื้อหุ้นคืนที่ราคาแพงขึ้นเพื่อเอาไปไถ่ถอน UST ที่เราตึ๊งไว้
- ถ้าเรา mint หุ้นเพื่อไปวาง liquidity pool เอา incentive จาก MIR token ที่เค้าให้เป็นผลตอบแทน ถ้าราคาหุ้นเพิ่มขึ้นจน collateral ratio ของเราต่ำกว่า 150% เราจำเป็นต้องเพิ่มเงินประกัน UST หรือไม่ก็ต้องคืนหุ้นนั้นบางส่วนเพื่อรักษาระดับ collateral ratio เอาไว้ แต่กรณีนี้เราไม่ได้เสีย capital loss จากราคาหุ้นนะครับ เพราะเราคืนเป็นจำนวนหุ้นเท่าเดิม เท่ากับที่เรา mint มา ไม่ได้ดูที่ราคา
- ฉะนั้น สรุปได้ว่า ถ้าราคาหุ้นปรับขึ้นเกิน 33% จากวันที่เรา mint มา เราจะโดนเรียให้เพิ่มเงินประกัน หรือคืนหุ้นบางส่วน
2. ซื้อหุ้นเทียมจาก Pool โดยตรง (trade หรือ swap)
วิธีนี้คือการเอา UST ไปแลกหุ้นเทียมออกมาเลยจาก pool ใน function trade หรือเหมือนการ swap ใน DeFi อื่นๆ จากนั้นเราสามารถเอาหุ้นนี้ + UST ที่มูลค่าเท่ากัน 1:1 ไป stake ใน pool ต่อได้ เพื่อรับ yield เป็นเหรียญ MIR ซึ่งเป็น governance token แล้วอยากจะเอา MIR ไป stake อีกทีหรือขายเป็น UST กลับมาก็ได้
ข้อดีของวิธีนี้คือ
- ใช้ทุนน้อยกว่าการ mint เพราะไม่ต้องวางเงินประกันถึง 2 เท่าของมูลค่าหุ้นที่ได้มา พูดง่ายๆคือ มีเงิน 100 บาท ซื้อหุ้นได้เลยเต็ม 100 บาท แต่การ min เราได้มาแค่ครึ่งเดียวหรือน้อยกว่านั้นขึ้นกับ initial collateral ratio
- มีโอกาสได้กำไรส่วนต่างราคาหุ้น ถ้าหุ้นนั้นปรับตัวสูงขึ้นในตอนขายคืน
ความเสี่ยงของวิธีนี้คือ
- เรามีโอกาสขาดทุนจากราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลงในตอนที่ต้องการแลกคืนเป็น UST
Governance Token reward
Yield ที่ได้จากการวาง Liquidity หรือ farming (ใน Mirror ใช้คำว่า stake) คือเหรียญ MIR ซึ่งแต่ละ pool จะให้ yield ไม่เท่ากันและเปลี่ยนตลอดเวลา ทั้งนี้ขึ้นกับปัจจัยดังต่อไปนี้
- ราคาของเหรียญ MIR ในตลาด
- ขนาดของ Pool นั้นๆ ยิ่ง pool ใหญ่ คนมาแบ่งเค้กเยอะ ยิ่งได้ yield น้อย
- ปนิมาณการซื้อขายหุ้นใน pool นั้นๆ ซึ่งจะได้มาในรูปของค่าธรรมเนียมส่วนแบ่งให้คนที่วาง LP
เราสามารถดู yield ของ synthetic asset แต่ละตัวได้จากในเวปเลย ซึ่งตอนนี้มี Annual Percentage Return (APR) ตั้งแต่ 40% - 85% ต่อปี
 
เหรียญ MIR ที่ได้มาจากการวาง LP นั้นสามารถเอาไปวาง LP ต่อได้อีกชั้นนึงเพื่อหาผลตอบแทนเพิ่มเติม หรือจะเอาไป stake ใน governance page ก็ได้ เพื่อจะได้รับ yield เพิ่มอีกต่อ และมีสิทธิ์ในการ vote poll ต่างๆที่ทางทีม developer launch ออกมา ไม่ว่าจะเป็นการ list หุ้นใหม่ๆเพิ่ม (whitelist), เปลี่ยนแปลง mint parameter, แก้ไขการแจก MIR และอื่นๆ
ทั้งนี้วัตถุประสงค์ของผู้สร้างก็เพื่อจะสร้าง community และ use case ต่างๆใน ecosystem เพื่อการขยายตัวของระบบในวงกว้างต่อๆไป แนวคิดดีนะ ประชาธิปไตยด้วย ไม่ใช่ developer อยากจะ list หุ้นอะไรหรือเปลี่ยนอะไรก็ทำได้ตามอำเภอใจ
แล้ว MIR token นี่มันเสกมาจากอากาศเรื่อยๆแบบนี้ มันจะมีมูลค่าได้ยังไง?
ในระบบ algorithm ที่ set เอาไว้ MIR token จะถูกแจกหมดภายใน 4 ปี โดยในช่วงเริ่มต้น จะมีปริมาณ token supply ในระบบ 54.9 ล้านเหรียญ 1 ใน 3 ผ่านทาง airdrop (แจกให้กับคนที่ stake Luna) และอีก 2 ใน 3 ผ่านทาง community pool
ในปีถัดๆไปหลังจากนั้น จะมีส่วนที่ให้เป็น reward จากการ stake Luna และ mAsset ในปริมาณตามตาราง จนครบ 370.5 ล้านเหรียญเมื่อครบ 4 ปี และจะไม่มีการผลิต MIR ออกมาอีก แปลว่าอัตราเงินเฟ้อของ MIR token จะค่อยๆลดลงเรื่อยๆจากปีแรกจนถึงปีที่ 4 และจะหยุด supply ตลอดไปหลังจากนั้น
ราคา MIR token ปัจจุบันอยู่ที่ราวๆ $5 ซึ่งลดลงมา จากจุดพีคที่ $12 ก่อนที่ตลาดคริปโตจะ crash ในรอบนี้ ถือว่ายังอยู่ใน baby phase มากๆถ้านับจากวันแรกที่เริ่มแจกจ่ายจากระบบเมื่อ 6 เดือนก่อน
 
คำถามถัดไปคือต้องมาดู use case ของ MIR ใน Terra Ecosystem หลังจากนี้ว่าจะทำยังไงให้ token นี้มีมูลค่าที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆเพื่อจูงใจให้คนมาครอบครองบ้าง
ในตอนหน้า ผมจะเอาข้อมูลการคำนวน net yield จากการลงทุนใน synthetic asset รวมถึง sensitivity analysis จากปัจจัยเสี่ยงต่างๆเพื่อชั่งน้ำหนักในการลงทุน synthetic asset กัน
โฆษณา