6 มิ.ย. 2021 เวลา 14:19 • บันเทิง
ชายผู้ได้ฉายาว่ามนุษย์ตัวตุ่น ขุดโพรงจนเกือบทำเมืองถล่ม
5
เราอยู่ในยุคสมัยที่ใครต่อใครต่างคุ้นเคยกับคำว่า "ขุดเหมือง" ใช้คอมพิวเตอร์ปประมวลผลไขรหัสเพื่อแลกกับเงินรางวัลเป็นเหรียญ Cryptocurrency ไม่ว่าจะเป็น Bitcoin, Ethereum หรือเหรียญสกุลเงินดิจิตอลอื่นๆ
6
ซึ่งในวันนี้พวกเราไม่ได้จะมาแชร์เทคนิคขุดเหรียญใหญ่ โกงค่าไฟ หรือใช้การ์ดจอตัวไหนแต่พวกเราจะพาหนึ่งในยอดคน "นักขุดเมือง" ขุดเมืองจริงๆครับ ผมไม่ได้พิมพ์ผิดไป เนื่องจากชายผู้เป็นต้นเรื่องของเราในวันนี้ ลุงแกเล่นขุดโพรงใต้มหานครกรุงลอนดอน เกือบจะสร้างหายนะเมืองถล่ม จนได้รับฉายาว่า The Mole Man มนุษย์ลุงตุ่น(ตัวตุ่น)
10
กับหนึ่งเดียวคนนี้.... Willam Lyttle
วิลเลียม ลิทเทิล (William Lyttle) สร้างผลงานจนที่รู้จักของผู้คนที่อาศัยอยู่ในแถบเมืองลอนดอน ฝั่งตะวันออก ว่า Mole Man หรือมนุษย์ตัวตุ่น
3
จุดเริ่มต้นเรื่องราวสุดปั่นป่วน ต้องย้อนกลับไปตั้งแต่ช่วงต้นยุค 1960 ที่ลุงวิลเลียมคนนี้ได้ย้ายเข้าไปอาศัยยังบ้านหัวมุมถนน ทำเลสุดคูลที่มีมูลค่ากว่า 1 ล้านปอนด์หรือถ้าคิดเป็นเงินไทยก็เกือบๆ 45 ล้านบาท
2
บ้านหลังหัวมุมของลุงวิลเลียม
เมื่อเข้าไปลุงWilliam ก็เริ่มต้นทำการรีโนเวทบ้านด้วยตัวเอง ค่อยๆทำห้องนั้น มุมนี้ไปเรื่อยๆ จนเขาลงไปต่อเติมขยายบ้านในส่วนของชั้นใต้ดิน โดยตั้งใจว่าจะทำเป็นห้องเก็บไวน์ แต่ไม่รู้ว่าลุงแกขุดไปโดนอะไร ที่ทำให้กระตุกจิตกระชากใจคุณลุงท่านนี้ แกดันเกิดติดใจฟีลตอนขุดดินขึ้นมา ทำให้จากแพลนเดิมที่จะเปลี่ยนแปลงชั้นใต้ดินให้เป็นห้องเก็บไวน์ จึงกลายเป็นการขุดๆ เจาะ ๆ ขุด ๆ เจาะ ๆ ไปเรื่อย ๆ แทน
11
เหมือนพอยิ่งขุด ลุงแกก็ยิ่งมันส์มือขุดใหญ่ ห้องใต้ดินจึงออกมาสภาพอย่างที่เห็น
ลุงวิลเลียมสวมร่างขอมดำดิน ขุดเจาะที่พื้นใต้บ้านของเขาอย่างต่อเนื่อง ๆ เป็นเวลาหลายสิบปี โดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็น หรือรู้เรื่องนี้เลย
4
จนกระทั่งในปี 2001 จู่ ๆ ตรงฟุตบาทริมถนนข้างบ้านของลุงวิลเลียมมันทรุดตัวถล่มลงไป กลายเป็นหลุมขนาดใหญ่ลึกราว ๆ 2 เมตรครึ่ง ทำให้ความแตกเนื่องจากมีผู้คนที่ผ่านไปมาส่องดูที่หลุม แล้วได้พบกับเส้นทางอุโมงค์ใต้ดินที่วิลเลียมได้ใช้เวลา และทุมแรงกาย แรงใจ สร้างมานานหลายปี
6
ถ้าหากคุณคิดว่าแค่ฟุตบาทถล่มจะหยุดความมุ่งมั่นของชายคนนี้ได้ ผมขอบอกไว้ตรงนี้เลยว่า ยังครับ เพราะต่อมาในปี 2003 ลุงวิลเลียมแกดันขุดไปโดนกับสายไฟเข้า ส่งผลทำให้ไฟช็อต เดือดร้อนชาวบ้านแถวนั้นที่ไฟฟ้าดับกันเป็นแถบๆ
10
ยังไม่พอครับ!! ในปี 2006 รอยร้าวก็เริ่มปรากฏบนถนนข้างบ้านของวิลเลียม ที่มีรถวิ่งผ่านสัญจรไปมาเป็นเรื่องปกติ รวมถึงรถบัสสาธารณะด้วย เรียกได้ว่าขับบ้านหัวมุมหน้าบ้านแกแต่ละที ทั้งพลขับทั้งผู้โดยสารคิดถึงหน้าพ่อแก้ว แม่แก้ว ลุ้นกันปัสสาวะเหนียวกลัวว่าถนนจะทรุด พาเอารถทั้งคันไปทัวร์อุโมงค์แกสักวัน
8
ประชาชนเดือดร้อนขนาดหนัก ประกอบกับทางการของเมืองเริ่มเล็งเห็นถึงปัญหาและอันตรายที่กำลังจะเกิดขึ้นแล้ว พวกเขาจึงได้ตัดสินใจแก้ปัญหาเฉพาะหน้าโดยการเปลี่ยนเส้นทางการเดินรถสาธารณะ ไม่ให้วิ่งผ่านถนนเส้นดังกล่าวไปเลยเพื่อความปลอดภัย
8
ถึงตรงนี้หลายท่านอาจเริ่มคิ้วขมวดถามว่าแล้วทำไมไม่ไปจัดการที่ต้นเหตุอย่างลุงวิลเลียมไปเลยหละ?
7
ในประเด็นนี้จริงๆแล้วทางการจะต้องการแก้ไขปัญหาเรื่องการขุดเจาะของวิลเลียม ลิทเทิลมาเป็นระยะเวลานานแล้ว แต่ติดอยู่ว่า ก่อนหน้านี้พวกเขาก็ทำได้ยาก เนื่องจาก พื้นที่ทั้งงหมดที่ลุงวิลเลียมแกขุดเจาะอยู่ในทุกๆวันเนี่ย มันยังเป็นพื้นที่ภายในเขตส่วนตัวของเขาอยู่ ทางการจึงยังไม่มีอำนาจตามกฎหมายที่จะดำเนินการใดๆได้
3
แต่เมื่อความเลวร้ายของสถานการณ์เดินทางมาถึงจุดนี้แล้ว ประกอบกับทางการก็มีหลักฐานเพียงพอที่จะชี้ได้แล้วว่า การกระทำของวิลเลียม ลิทเทิลนั้น กำลังทำให้ผู้อื่นตกอยู่ในอันตราย นอกจากถนนจะเสี่ยงพื้นถล่มล้มครืนลงไปแล้ว การที่เขาขุดเจาะลงไปลึกมาก ๆ วันหนึ่งเขาอาจขุดไปโดนท่อน้ำ หรือตาน้ำใต้ดินและอาจจะทำให้เกิดน้ำท่วมได้อีกด้วย
6
แต่จากมุมมองของลุงวิลเลียม ในตอนนั้น แกบอกว่า ที่คุย ๆ กันว่าเขาขุดเจาะเป็นอุโมงค์เข้าไปใต้บ้านคนอื่น มันเป็นเรื่องไร้สาระทั้งนั้น เขาก็แค่คนธรรมดาๆคนหนึ่งที่มีชั้นใต้ดินที่มันใหญ่และกว้างขวางกว่าชาวบ้านเท่านั้นเอง (ว่าซั่น!)
19
และตอนเขาขุดเนี่ย เขาก็ขุดลงไปพอถึงแค่ระดับน้ำใต้ดินแล้วก็หยุดไม่ได้จะขุดลงไปให้ลึกกว่านั้นแล้ว จะมาน้ำท่งน้ำท่วมอะไร เหลวไหล!
4
โดยในตอนแรกแม้จะมีหมายจากทางการมาแปะถึงหน้าประตูบ้าน ประกาศว่าโครงสร้างและพื้นที่โดยรอบบ้านหลังนี้เป็นอันตรายลุงแกก็ยังมึนไม่ยอมออก
5
ภาพเจ้าหน้าที่กำลังเข้าตรวจสอบและใช้คานเสาค้ำยันกันพื้นถล่ม
ท้ายที่สุดในเดือนสิงหาคม ปี 2006 ด้วยอำนาจตามคำสั่งของศาล วิลเลียม ลิทเทิล ในวัย 75 ปี ก็ถูกขับไล่ออกจากพื้นที่ของเขาชั่วคราว เพื่อที่เจ้าหน้าที่จะสามารถเข้าทำตรวจสอบและดำเนินการแก้ปัญหาได้
1
หลังจากที่ผู้เชี่ยวชาญเข้าทำการตรวจพื้นที่ ก็พบว่า ที่ใต้ดินของบ้านหลังนี้มีอุโมงค์ที่ถูกขุดแยกออกไปในแต่ละทิศทางมากกว่า 10 เส้นทาง โดยเริ่มต้นจากใต้พื้นบ้านของลุงวิลเลียม อุโมงค์บางจุดแกเล่นขุดลงไปลึกถึง 6 เมตร และยาวกว่า 18 เมตร
7
ภายในนั้นเต็มไปด้วยข้าวของ เครื่องใช้ วัตถุหลาย ๆ อย่าง ถูกเก็บไว้กระจัดกระจายกันออกไปในโพรงใต้ดิน อย่างเช่น โซฟา อ่างอาบน้ำ ซากรถยนต์ 3 คัน เรือ 1 ลำ และขยะอีกมากมาย รวมน้ำหนักขยะที่ขนออกมากกว่า 33 ตัน
21
นอกจากนั้นเพื่อเสริมโครงสร้างให้ปลอดภัยเจ้าหน้าที่ทำการถมพื้นที่อุโมงค์บางส่วนโดยเทปูนซีเมนต์ และสร้างรั้วชั่วคราวเพื่อกั้นพื้นที่ไม่ให้ใครเข้าออกบริเวณบ้านหลังดังกล่าวเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ
1
แม้จะกันอุบัติเหตุได้ แต่รั้วสังกะสีบางๆแค่นี้ มีหรือที่จะหยุดปณิธานอันแรงกล้าของยอดมนุษย์ลุงตุ่น(ตัวตุ่น)อย่างลุงวิลเลียม ลิทเทิลได้ เพราะมีอยู่วันหนึ่งเขาได้อาศัยจังหวะเล็ดรอดลอดผ่านช่องเล็ก ๆ ที่บริเวณรั้วเข้าไป และกลับไปใช้ชีวิตอยู่ภายในพื้นที่ส่วนอุโมงค์ที่ยังไม่ได้มีการถม จนกระทั่งปี 2008 ศาลจึงมีคำสั่งห้ามวิลเลียม ลิทเทิลเข้าใกล้พื้นที่ดังกล่าวอย่างเด็ดขาด และเขาจะต้องจ่ายค่าซ่อมแซมเป็นจำนวน สูงถึง 300,000 ปอนด์ หรือคิดเป็นเงินไทยกว่า 13 ล้านบาท
9
แต่ยังไม่ทันที่จะได้ชดใช้ค่าเสียหายแม้แต่เพนนีเดียวเพียงแค่ 2 ปีถัดมาหลังจากศาลมีคำพิพากษา วิลเลียม ลิทเทิล ก็เสียชีวิตปิดตำนานมนุษย์ตัวตุ่นแห่งกรุงลอนดอน ทิ้งท้ายไว้เพียงหนี้ค่าซ่อมแซมและค่าใช้จ่ายจำนวนมหาศาลให้ชาวบ้านต้องปวดหัวกันต่อไป แหม่!!! โคตรมนุษย์ลุง
5
ในปี 2012 บ้านของลุงวิลเลียมถูกขายในราคา 1.2 ล้านปอนด์ และเมื่อปี 2020 ที่ผ่านนี้เองบ้านหลังนี้ได้ถูกซ่อมแซมและรีโนเวทบ้านหลังนี้ให้กลายเป็นสตูดิโอและที่อยู่อาศัยของ ซูย์ เว็บส์เตอร์ (Sue Webster) ศิลปินชื่อดัง
4
Sue Webster เจ้าของปัจจุบันของบ้าน Mole Man
ภาพนี้พิสูจน์ได้เป็นอย่างดีเลยว่าพอเปลี่ยนเอาคนเก่งๆเข้ามาดูแล
บ้านมันก็สวยงามขึ้นทันตา
4
ด้วยความที่ซู เธอเป็นศิลปินที่เห็นคุณค่าและความพิเศษของเรื่องราวผลงานการขุดเจาะของลุงวิลเลียม เธอจึงเลือกที่จะรีโนเวทโดยเก็บพื้นที่ดั้งเดิมบางส่วนที่ลุงวิลเลียมแกเคยรังสรรค์เอาไว้ให้เป็นตำนานต่อไป
4
โฆษณา