14 มิ.ย. 2021 เวลา 03:30 • ไลฟ์สไตล์
#Los Angeles มีอะไร? นอกจากป้าย Hollywood
6
คำว่า Los Angeles เป็นภาษา Spanish แปลว่า “City of Angels”
1
Image by Free-Photos from Pixabay, Image by Christine Schmidt from Pixabay
Los Angeles หรือที่เรียกสั้นๆว่า L.A. เป็นเมืองที่อยู่ทางตอนใต้ (เกือบจะใต้สุด) ของรัฐ California และยังเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดใน California แต่กลับไม่ใช่เมืองหลวงของรัฐ
(Note: L.A. คือตัวย่อของเมือง Los Angeles แต่ถ้า LA จะเป็นตัวย่อของรัฐ Louisiana)
ในรัฐแต่ละรัฐของอเมริกาจะมีเมืองหลวง ซึ่งบางคนอาจไม่รู้ว่า จริงๆแล้วเมืองหลวงของรัฐ California ไม่ใช่ L.A. แต่เป็นเมืองที่ชื่อว่า Sacramento
Sacramento นั้นอยู่ทางเหนือของ California เป็นเมืองที่ไม่ค่อยมีอะไรเท่าไหร่นอกจากสถานที่ราชการต่างๆ แต่ถ้าเอ่ยถึง L.A. นั้น ทุกคนคงจะรู้จักกันดี และสิ่งแรกที่นึกถึงคงน่าจะเป็นสัญลักษณ์ป้าย Hollywood
เอาล่ะ ... นอกจากป้าย Hollywood แล้ว L.A. มีอะไร? อะไรคือความเป็น L.A.?
Image by Trent Garverick from Pixabay
เราจะพาไปทำความรู้จักกับ L.A. กันนะคะ … ตามมาเลยค่า …
1. Hollywood
Image by Nimue Slot from Pixabay
ในโซนของ Hollywood นอกจากจะมีป้ายสัญลักษณ์ Hollywood ที่เราเห็นกันบ่อยๆแล้ว ยังมีอีกหลายสิ่ง
3
- Chinese Theater & Hollywood Walk of Fame
โรงหนัง Chinese Theatre เป็นโรงหนังที่มักใช้เป็นการเปิดตัวของภาพยนตร์ดังมากมาย ตั้งอยู่บนถนน Hollywood Blvd. เปิดใช้ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1927
Image by Imeime from Pixabay
บริเวณรอบๆของ Chinese Theatre ยังเป็นที่ตั้งของ Hollywood Walk of Fame อีกด้วย เราอาจจะเคยเห็นภาพของถนนๆหนึ่ง ที่ซึ่งบนฟุตบาททั้งสองข้างจะมีรูปดาวพร้อมชื่อและพิมพ์มือของดารา ศิลปิน และคนดังต่างๆมากมายรายเรียงยาวกันไปเป็นไมล์ อาทิเช่น Michael Jackson, Charlie Chaplin, Mickey Mouse, Mohammed Ali, Thomas A. Edison เป็นต้น
2
https://www.thejakartapost.com/life/2017/05/13/hollywoods-walk-of-fame-the-biggest-star-of-all.html
ข้อมูลจากปีค.ศ. 2019 ในเว็บไซต์ tripsavvy.com ได้ระบุว่า ดาว 3 ดวงที่ถูกถ่ายรูปเป็นที่ระลึกมากที่สุดนั้นคือ ดาวของ Marilyn Monroe, James Dean และ Johnny Depp
- Universal Studios Hollywood & Universal City Walk
https://www.expedia.com
Universal Studios Hollywood เริ่มเปิดให้คนเข้าชมตั้งแต่ปี ค.ศ. 1964 เป็น Universal Studios แห่งแรกก่อนที่จะไปเปิดสาขาตามที่ต่างๆ เช่น ฟลอริดา, โอซาก้า, ปักกิ่ง และ สิงคโปร์ โดยมีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 415 เอเคอร์ หรือ ราวๆ 1.7 ตารางกิโลเมตร
สิ่งที่ Universal Studios ของ Hollywood แตกต่างจาก Universals Studios ที่ไปเปิดสาขาตามที่ต่างๆทั่วโลก คือ ส่วนของ Studio ที่ใช้ถ่ายทำภาพยนตร์
https://www.universalstudioshollywood.com/web/en/us/things-to-do/rides-and-attractions/the-world-famous-studio-tour
Universal Studios ที่อื่นๆจะมีแค่ในส่วนที่เป็น Theme Park หรือเครื่องเล่นต่างๆเท่านั้น แต่ที่นี่จะมี Studio Tour (ใช้เวลาประมาณ 60 นาที) พาไปชมการถ่ายทำเล็กๆน้อยๆของภาพยนตร์ในตำนาน เช่น Jaws, King Kong, Psycho เป็นต้น ซึ่งการได้เข้าไปชมใน Studio นี้ ถือว่าคุ้มค่ามากๆเลยทีเดียว
ในส่วนของ Universal City Walk นั้น ก็ตั้งอยู่ติดๆกับ Universal Studios เป็นแหล่ง hang out ของผู้คนมากมาย มีทั้งโรงหนังคุณภาพดี มีร้านอาหารเก๋ๆ ชิคๆ มีร้านขายของแปลกๆ
https://www.positivelyosceola.com/universal-citywalk-to-open-on-limited-basis-thursday/
และเมื่อถึงตอนกลางคืน บรรยากาศทั้งหมดของ City Walk ก็ถูกประดับประดาด้วยไฟที่สวยงาม ทำให้เมื่อเดินอยู่ในนั้นเหมือนได้เข้าไปเดินอยู่ในอีกโลกนึง
- Griffith Observatory
Image by Ira Gorelick from Pixabay
เป็นสถานที่ๆผู้คนมักขึ้นไปดูวิวของ Downtown L.A. รวมไปถึง สัญลักษณ์ป้าย Hollywood อีกทั้งยังเป็นที่ๆสามารถดูดาวได้อีกด้วย
Griffith Observatory ได้เริ่มเปิดให้ชมตั้งแต่ปี ค.ศ. 1935 สถานที่แห่งนี้ได้มีชื่อเสียงมากขึ้นหลังจากที่ภาพยนตร์ดังเรื่อง La La Land ได้ออกฉาย นั่นก็เป็นเพราะว่า มีฉากหนึ่งของเรื่อง La La Land ได้ไปถ่ายทำที่ Griffith Observatory นั่นเอง
https://seeingstars.net/Locations/LaLaLand/23-Planetarium.shtml
- Thai Town
https://www.tripsavvy.com/thai-town-the-complete-neighborhood-guide-4688325
สำหรับคนไทยที่อาศัยอยู่ที่ L.A. หากนึกอยากทานอาหารไทยอร่อยๆ ที่ไม่ใช่อาหารไทยแบบที่ทำให้ฝรั่งทาน ก็ต้องดั้นด้นเข้ามาที่ Hollywood แห่งนี้
เป็นที่รู้กันว่า ย่านนี้มีร้านอาหารไทยเยอะแยะมากมาย รวมถึงร้านขนมไทย ร้านเช่าวีดีโอละครไทยในสมัยก่อนยุค YouTube ร้านตัดผมคนไทย ร้านคาราโอเกะไทย และตลาดไทยที่มีขายเกือบทุกสิ่งอย่างที่เมืองไทยมี ไม่ว่าจะเป็น ครก หม้อหุงข้าว น้ำจิ้มและสารพัดซอส ข้าวหอมมะลิ ใบกะเพรา ใบมะกรูด และทุกอย่างที่กับข้าวไทยต้องมี
- Movie Star Home Tours
https://www.tripsavvy.com/movie-star-home-tours-1477990
อย่าได้หลงเชื่อพวกทัวร์ต่างๆที่จะพาไปชมบ้านดาราใน Hollywood เด็ดขาด หรือพวกที่ยืนขายแผนที่ให้นักท่องเที่ยวที่อ้างว่าคือแผนที่ของบ้านดารา ในเว็บไซต์ tripsavvy.com ได้กล่าวไว้ว่า การที่จะได้เห็นช้างเดินอยู่บน Hollywood Blvd. นั้น อาจจะมีโอกาสมากกว่า การที่จะเห็นดาราเดินอยู่ใน Hollywood หรือ ตัดหญ้าอยู่หน้าบ้านของพวกเขา เสียอีก
จริงอยู่ว่าดาราบางคนมีบ้านอยู่ที่ Hollywood แต่พวกเขาก็สร้างกำแพงเอาไว้สูงมากเช่นกัน สูงชนิดที่ว่าสามารถกั้นยีราฟได้เลยทีเดียว ก็ใครล่ะ อยากจะให้มี Paparazzi มาส่องอยู่ตลอดเวลา
2. Disneyland
https://thetravelmom.com/travel-deals/save-on-tickets-to-southern-californias-famous-theme-parks-with-citypass/
ใครที่อยู่ที่ L.A. หากมีญาติพี่น้องมาเยือนจากต่างถิ่น ก็คงไม่พ้นต้องพาไปเที่ยวที่ Disneyland
Disneyland ตั้งอยู่บนพื้นที่ 500 เอเคอร์ หรือประมาณ 2 ตารางกิโลเมตร โดยอยู่ในเมือง Aneheim ซึ่งอยู่ลงไปทางตอนใต้ของ L.A. เป็นสถานที่ที่ฮอตที่สุดที่หนึ่งของ City of Angels แห่งนี้ เมื่อคนต่างถิ่นมาเยือนก็มักต้องแวะ Disneyland อย่างน้อยสักวัน
Disneyland ที่ L.A. เป็น Disneyland แห่งแรก ซึ่งได้เปิดทำการตั้งแต่ปี ค.ศ. 1955 และเป็นเพียง Disneyland แห่งเดียวที่ถูกควบคุม ทั้งการออกแบบ และ การสร้างจนเสร็จสิ้น โดย Walt Disney, ราชาแห่งการ์ตูนโลก
3. Beverly Hills / Rodeo Drive
Image by D Thory from Pixabay
ย่านช้อปปิ้งที่หรูหราที่สุดของ L.A. ต้องยกให้กับ Rodeo Drive ที่อยู่ในเขตของ เมือง Beverly Hills
ถนน Rodeo Drive มีความยาวประมาณ 2 ไมล์ หรือ 3.22 กิโลเมตร
ทั้งถนนประกอบไปด้วยร้านค้าแบรนด์เนมระดับ Hi-End แทบทั้งสิ้น หากใครกระเป๋าไม่หนักพอ ก็คงได้แต่ window shopping กันไปเพลินๆ
4. Santa Monica Pier
Image by Bettina Nørgaard from Pixabay
ไม่ไกลนักจาก Beverly Hills ก็จะเป็นเมือง Santa Monica ซึ่งเป็นเมืองที่อยู่ติดกับทะเล ใน Santa Monica นี้มี landmark ของ L.A. อีกที่หนึ่ง นั่นก็คือ Santa Monica Pier
คนมาทำอะไรกันที่ Santa Monica Pier แห่งนี้?
Santa Monica Pier ให้อารมณ์คล้ายๆกับงานวัดเล็กๆบวกสวนสนุกย่อมๆ ที่จัดขึ้นอยู่ทุกวันอยู่บนสะพานที่ยื่นออกไปกลางทะเล มีชิงช้าสวรรค์ มีม้าหมุน มีเกมส์ต่างๆ มีขาย Cotton Candy และ Pop Corn
เรียกว่าสนุกสนานกันได้ทั้งวัยรุ่น คู่รัก และครอบครัว แถมยังได้รับลมทะเลอีกด้วย
5. Third Street Promenade
https://petfriendlytravel.com/pft_shopping/santa-monica-third-street-promenade/
ในเมือง Santa Monica นอกจากมี Santa Monica Pier แล้ว ยังมีแหล่ง Shopping Mall อยู่หลายที่ ซึ่งนั่นก็รวมไปถึง Third Street Promenade
สิ่งที่ Third Street Promenade ต่างจาก Shopping Mall ที่อื่นๆ คือ ความฮิปของมัน เรียกว่าเป็นถิ่นของวัยรุ่นอีกแห่งหนึ่งก็ว่าได้
ถนนทั้งถนนนี้เป็นถนนคนเดิน รถไม่สามารถเข้าได้ สองข้างทางรายล้อมด้วย ร้านอาหารเท่ห์ๆ ร้านค้าแบรนด์ท้องถิ่นที่ราคาไม่สูงลิบลิ่วแบบ Rodeo Drive ส่วนตรงกลางถนนเป็นที่ว่างๆให้คนเดิน และเมื่อใกล้ค่ำ ก็มักจะมีโชว์แบบ street performance ให้ดูเพลินๆอีกด้วย
6. Venice Beach
Image by melaniejwagar from Pixabay
L.A. เป็นเมืองใหญ่ที่ติดทะเลทางด้านตะวันตก Beach ที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งก็คงหนีไม่พ้น Venice Beach
Venice Beach อาจไม่ใช่หาดสงบๆที่คนจะมานั่งๆนอนๆอ่านหนังสือ แต่ตรงกันข้าม มันเป็นหาดที่ครึกครื้นมากที่สุดหาดหนึ่ง
คนมาทำอะไรกันบ้างที่ Venice Beach?
ที่ Venice Beach มีร้านอาหารมากมาย รวมถึงร้านขายของอีกนับไม่ถ้วน มีทางเท้าอยู่เลียบชายหาดเพื่อให้คนเดิน/วิ่ง/ขี่จักรยาน หรือ เล่นโรลเลอร์เบลด แถมยังมีบริเวณให้เล่น skate board อีกด้วย
7. Westwood Village
https://www.reddit.com/r/FIlm/comments/clx21e/i_watched_once_upon_a_time_in_hollywood_at_the/
ย่าน Westwood เป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง ซึ่งก็คือ UCLA ดังนั้นในละแวก Westwood นี้ ก็มักจะเป็นที่ hang out ของชาว UCLA
มากไปกว่านั้นในย่านนี้ก็จะมีร้านสวยๆ ฮิปๆ ไว้คอยต้อนรับนักศึกษา UCLA รวมไปถึงโรงหนัง Fox Bruin Theater ซึ่งตั้งอยู่ใน Westwood Village
นอกเหนือไปจาก Chinese Theater ที่ Hollywood แล้ว Fox Bruin Theater หรือ เรียกสั้นๆว่า Bruin Theater แห่งนี้ ก็คงจะเป็นโรงหนังขึ้นชื่ออีกที่ ที่ไม่ได้อยู่ใน chain ของโรงหนังใหญ่อย่าง AMC
หากเปรียบเทียบกับเมืองไทยแล้ว AMC ก็คงเหมือน Major Cineplex ส่วน Bruin Theater ก็คงเป็นเหมือนโรงหนังสกาลาเมื่อก่อน
8. Melrose Avenue
https://citizen-femme.com/2017/04/07/the-insiders-guide-to-shopping-on-melrose/
Melrose เป็นอีกแหล่งของการช้อปปิ้ง ที่แตกต่างจากที่อื่นๆโดยสิ้นเชิง
Melrose Avenue เป็นถนนยาวๆ ที่สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านค้า ซึ่งส่วนใหญ่แล้วดูเหมือนจะเป็นร้านขายเสื้อผ้า แต่ร้านขายเสื้อผ้าเหล่านี้ไม่ได้เป็นแบรนด์ปกติเหมือนทั่วๆไป จะเป็นแนวที่มีเอกลักษณ์เป็นส่วนตัวเสียมากกว่า
หากใครอยากหาเสื้อผ้าแนวแปลกๆไม่ซ้ำใคร หรือแนว punk ไปเลย ที่ Melrose Avenue แห่งนี้คงเป็นคำตอบที่ดี
แต่อย่างไรก็ตาม Melrose Avenue ไม่ค่อยเหมาะนักสำหรับการมาเดินเล่นในยามราตรี เพราะย่านนี้เป็นย่านที่ไม่ค่อยปลอดภัยสักเท่าไหร่
9. Sunset Blvd.
https://theculturetrip.com/north-america/usa/california/articles/a-brief-history-of-the-sunset-strips-most-iconic-nightclubs/
เมื่อวันฮาโลวีนมาถึง ถ้าใครอยากจะมาดูการจัดเต็มของเทศกาลนี้ ต้องมาที่นี่ Sunset Blvd.
ในวันที่ 31 ตุลาคม ของทุกๆปี ถนน Sunset Blvd. จะถูกปิดการจราจร รถยนต์บนถนนจะถูกแทนที่ด้วยผู้คนนับหมื่น ที่ล้วนแล้วแต่แต่ง costume กันมาแบบไม่มีใครเป็นรองใคร
ชุดแม่มดแบบเบาๆ ไม่สามารถเทียบอะไรได้เลยกับการแต่งตัวของผู้คนที่นี่
พวกเขาจัดเต็มตั้งแต่หัวจรดเท้า แถมบางทีมีอุปกรณ์อื่นพ่วงมาด้วย
การที่ได้มาเดินที่นี่ในวันฮาโลวีน ก็อาจเป็นสีสันที่ดีของค่ำคืนนี้ แต่สิ่งที่ต้องแลกมา คือการหาที่จอดรถอันแสนลำบาก และ การเดินฝ่าฝูงชนมหาศาล
ส่วนในวันอื่นๆ บนถนน Sunset Blvd. หรือ Sunset Strip ก็จะเต็มไปด้วยผับบาร์ นอกจากนี้แล้วละแวกนี้ (West Hollywood) ยังเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของชาว LGBTQ อีกด้วย
10. The Getty Museum
Image by Jana V. M. from Pixabay
The Getty Museum มีชื่อเต็มว่า J.Paul Getty Museum หรือเรียกเล่นๆว่า The Getty
The Getty เป็น Art Museum ที่เริ่มเปิดให้เข้าชมในปี ค.ศ. 1997 คนที่ชื่นชอบสถาปัตยกรรมคงน่าจะรักที่นี่ เพราะสิ่งที่ The Getty โดดเด่นคือโครงสร้างของตัวตึกและพื้นที่บริเวณโดยรอบ ที่ดูมีดีไซน์ไม่ซ้ำใคร
โดยสถาปนิกแนวร่วมสมัยที่ออกแบบให้กับ The Getty คือ Richard Meier
11. South Coast Plaza
https://www.tripsavvy.com/top-places-to-shop-orange-county-1586397
South Coast Plaza คือ Shopping Mall ที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของทั้งอเมริกา และเป็น Shopping Mall ที่ใหญ่ที่สุดในฝั่ง West Coast
นอกจากร้านต่างๆมากมายแล้ว ยังมีห้างมารวมตัวกันในที่แห่งนี้ถึง 4 ห้างด้วยกัน คือ Macy's, Nordstrom, Bloomingdale's และ Saks Fifth Avenue
ภายใน South Coast Plaza มีพื้นที่ถึง 260,000 ตารางเมตร เรียกว่าเดินกันวันนึงไม่หมดเลยทีเดียว
ที่นี่คงจะเป็นเหมือนสวรรค์ของนักช้อปขาสตรอง ที่ไม่หวั่นต่อความกว้างใหญ่ไพศาล
12. Catalina Island
Image by David Mark from Pixabay
อยู่ L.A. ก็มีเกาะให้ไปเที่ยวนะ นั่นคือ Catalina Island ซึ่งอยู่ห่างออกไปจาก L.A. ทางตะวันตกเฉียงใต้ ประมาณ 23 ไมล์ หรือ ประมาณ 1 ชั่วโมงในการนั่งเรือเฟอร์รี่ จากท่าเรือที่ San Pedro และ Long Beach
บนเกาะ Catalina Island มีอะไร?
เมื่อก้าวเท้าขึ้นไปบนเกาะแห่งนี้ ก็จะพบกับความน่ารักในทุกๆมุม เหมือนได้ไปอยู่ในอีกโลกหนึ่ง เป็นโลกซึ่งแตกต่างจาก L.A. ที่ห่างออกไปไม่ไกลอย่างสิ้นเชิง
ร้านอาหาร และ ร้านค้าต่างๆถูกตกแต่งไว้อย่างน่ารัก ความวุ่นวายของเมืองใหญ่อย่าง L.A. ไม่มีให้เห็นที่นี่ และไม่มีการใช้รถยนต์บนเกาะแห่งนี้
Catalina Island จึงเป็นเสมือนสวรรค์ที่อยู่ไม่ไกลนักจาก L.A. เป็นสถานที่สำหรับพักผ่อน เป็นที่โรแมนติกของคู่รัก ซึ่งอาจจะเป็นแค่ Day Trip หรือ จะค้างสักคืนสองคืนก็ไม่เลวเหมือนกัน
13. In-N-Out Burger
Image by Trent Garverick from Pixabay
สื่งที่คนเคยอยู่ L.A. แล้วคิดถึงมากที่สุดคงจะเป็นร้าน In-N-Out Burger
เป็นร้านอาหาร Fast Food ที่ขายเบอร์เกอร์ จริงๆแล้ว In-N-Out ก็ใช่ว่าจะมีแต่ใน L.A. แต่เป็นร้านที่ไม่ได้หาได้ทั่วทั้งอเมริกา
In-N-Out เริ่มเปิดกิจการขายใน California เป็นรัฐแรก จากนั้นจึงได้ขยายไปยัง Nevada, Arizona, Utah และ Texas
คนที่อยู่ต่างรัฐ ต่างเมือง เมื่อมาเยือน L.A. ก็น่าจะอยากลิ้มลองเบอร์เกอร์เจ้าดังอย่าง In-N-Out
บอกเลยว่าเบอร์เกอร์ที่ In-N-Out นั้นอร่อยมากๆ ที่ร้านมีขายอยู่สองอย่าง คือ เบอร์เกอร์เนื้อ กับ เฟรนช์ฟราย ซึ่งก็ง่ายดี ไม่ต้องเลือกมาก
เป็น Fast Food ที่ไม่ค่อยจะ Fast สักเท่าไหร่ เพราะเขาพิถีพิถันในการทำมาก การที่จะเข้าไปทานเบอร์เกอร์ที่นี่ ต้องยินดีที่จะรอสักหน่อย หากใครต้องการความรวดเร็วแล้วล่ะก็ คงต้องหันไปที่ McDonald’s แทน
14. ความเป็นนานาชาติของ L.A.
Image by ktphotography from Pixabay
ด้วยความที่ L.A. ค่อนข้างจะเป็นเมืองที่มีความนานาชาติซะเหลือเกิน คือ มีคนหลายเชื้อชาติที่อาศัยอยู่ที่นี่
นอกจากพวกลาตินอเมริกาที่ย้ายมาลงหลักปักฐานกันที่นี่แล้ว รองลงมาเห็นจะเป็นชนชาติจากทางฝั่งเอเชีย ไม่ว่าจะเป็นจีน ไต้หวัน ฮ่องกง เกาหลี เวียดนาม ญี่ปุ่น และ ไทย โดยจะเห็นได้จากการที่มี China Town, Korea Town และ Thai Town
ซึ่งก็ทำให้ร้านอาหารต่างๆใน L.A. มีหลายร้านมากมายที่เป็นแบบต้นตำรับแท้ๆจริงๆ เช่น ร้านอาหารเกาหลี ที่เจ้าของเป็นเกาหลี กุ๊กก็เป็นคนเกาหลี พนักงานเสริฟ์ก็ยังเป็นเกาหลี รสชาติของอาหารจึงเป็นแบบเกาหลีจริงๆ
หรือถ้าอยากทานอาหารเม็กซิกันก็มีอาหารเม็กซิกันจริงๆให้ทาน อยากลองอาหาร บราซิลก็มีอาหารที่เป็นบราซิลจริงๆให้ทาน
เรียกได้ว่า L.A. เป็นสวรรค์ของอาหารนานาชาติอย่างแท้จริง
นอกจากได้ลิ้มรสชาติของอาหารประเทศต่างๆแบบแท้ๆแล้ว ข้อดีอีกอย่างของความเป็นนานาชาติก็คือ คนเอเชียอย่างเรา ไม่ดูเป็นที่แปลกแยกมากนัก เพราะมีคนเอเชียอยู่ทุกที่ ทุกแห่งหน ทำให้คำว่า “บ้าน” ดูเหมือนเขยิบใกล้เข้ามาอีกนิด
15. ความรถติดของ L.A.
https://ktla.com/news/local-news/l-a-commuters-spend-an-average-of-119-hours-a-year-stuck-in-traffic-most-in-u-s-study-finds/
ใช่ว่ารถจะติดเฉพาะกรุงเทพ ที่ L.A. ก็มีรถติดเหมือนกัน ในช่วง Rush Hour รถจะติดสาหัสมากเลยทีเดียว
ส่วนใหญ่แล้วรถจะติดบน Freeway มากกว่าถนนข้างล่าง เนื่องจากว่า L.A. นั้นมีพื้นที่ใหญ่มาก ผู้คนส่วนใหญ่จึงต้องใช้ Freeway เพื่อย่นระยะทางในการเดินทางไปทำงาน หรือ กลับบ้าน
จากข้อมูลของปีนี้ (ค.ศ.2021) ในเว็บไซต์ nbclosangeles.com ระบุถึงความน่าตกใจว่า ผู้ใช้ถนนในเขตเซ็นเตอร์ของ L.A. นั้น ได้เสียเวลากับรถติดในช่วง Rush Hour ไปทั้งสิ้นถึง 45 ชั่วโมงต่อปี
อีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ L.A. รถติดก็คือ ระบบขนส่งสาธารณะที่ค่อนข้างแย่ กล่าวคือ L.A. ไม่ค่อยมี subway สักเท่าไหร่นัก คงเนื่องมาจากพื้นที่ของเมืองที่ใหญ่โตนั่นเอง
ดังนั้นผู้คนทั่วไปจึงต้องใช้รถยนต์ส่วนตัว หรือ ไม่ก็รถเมล์ ซึ่งนั่นก็ส่งผลให้ L.A. มีรถติดมากขึ้นทุกปีๆ
16. ความหนวกหูของใจกลาง L.A.
Image by David Mark from Pixabay
L.A. เป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่ ครอบคลุมพื้นที่ราว 1,302 ตารางกิโลเมตร ความวุ่นวายจึงมีระดับที่แตกต่างกันมากระหว่างเมืองย่อยๆใน L.A.
หากเราเอา Downtown ของ L.A. เป็นจุดเซ็นเตอร์ รอบๆของ Downtown ก็จะเป็นใจกลางของ L.A. ซึ่งความวุ่นวายของเมืองก็จะอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูง นั่นก็แปลว่า ถ้ายิ่งห่างไกลจาก Downtown มากเท่าไหร่ ความวุ่นวายก็จะลดน้อยตามลงไป
ถ้าคนที่มาจากเมืองที่เงียบๆ เช่น Providence ใน Rhode Island หรือ Seattle ใน Washington ย้ายมาอยู่ในใจกลาง L.A. อาจงงว่าคนที่นี่เขานอนกันได้ยังไงท่ามกลางเสียงที่อึกทึกเช่นนี้
เสียงไซเรนจากรถพยาบาลและรถตำรวจสามารถดังได้ในทุกๆ 15 นาที ทั้งกลางวันและกลางคืน นี่ยังไม่นับรวมถึงเสียงหึ่งๆจากเฮลิคอปเตอร์ที่อาจบินมาตรวจอะไรบางอย่างเป็นครั้งคราว
แต่สำหรับคนที่อาศัยใน L.A. มานาน เสียงเหล่านี้ก็คงจะเป็นเหมือนเพลงกล่อมนอน
... ว่าแล้วก็เข้านอนดีกว่า กรุงเทพในตอนนี้ซึ่งดูเหมือนจะเงียบจนจิ้งหรีดร้อง ถ้าเทียบกับ Los Angeles, City of Angels ... zzzzz
เป็นยังไงกันบ้างคะ กับความเป็น L.A. ที่นอกเหนือไปจากป้าย Hollywood?
ใครอยากไป ก็เก็บไว้เป็น Wish List กันนะคะ
Credit: เนื้อหาบางส่วนอ้างอิงมาจาก Wikipedia, tripsavvy.com, nbclosangeles.com
#สมองสองช้อน ขอบคุณทุกคนที่แวะมาอ่านค่ะ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา