6 มิ.ย. 2021 เวลา 16:35 • ข่าว
ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร... "ลุงพล" แห่งบ้านกกกอก
เครดิตภาพจาก : https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_4880914
ในทันทีที่ภาพของ "ลุงพล" ได้เผยแพร่ออกสื่อสู่สาธารณชนได้เห็น คนส่วนใหญ่ไม่ปักใจเชื่อว่าลุงพลจะกลายเป็นฆาตรกรไปได้ เพราะบุคลิกลักษณะและคำพูดให้การของลุงพล ที่ออกจะดูซื่อๆ และดูไม่เห็นจะเป็นพิษเป็นภัยอะไรกับใครได้ จนภาพลักษณ์ของความเป็นผู้ผู้ต้องสงสัยในคดีดังกล่าวของลุงพลนั้นค่อยๆ เลือนลาง จนผู้คนเลิกให้ความสนใจไปในที่สุด
เครดิตภาพจาก : https://hilight.kapook.com/view/213784
เหตุการณ์กลับกลายเป็นเรื่องหน้ามือเป็นหลังมือ ผู้คนในสื่อโซเชียลต่างเทใจให้ความสนใจในตัวลงพลเพิ่มขึ้นเป็นพิเศษ จนมีผู้ค้นหาประวัติและความเป็นมาของลุงพลว่าเป็นใครมาจากไหน เพราะลุงพลนั้นได้ชื่อว่าเป็นคนที่มีรูปร่างและหน้าตาดีมากคนหนึ่ง จนเป็นที่ชื่นชอบของเหล่าบรรดาแฟนคลับ กลายเป็นคนที่มีชื่อเสียงโด่งดังในที่สุด มีพ่อยกแม่ยกเข้ามาเสนอซื้อรถ ซื้อบ้าน ซื้อของ และบริจาคเงินให้อย่างอึกทึกครึกโครมโจ๋งครึ่ม จนกลายเป็นคนดัง มีคนดังในวงการต่างๆ เสนอตัวเป็นป๋าดันให้ลุงพลและป้าแต๋นผู้เป็นภรรยาเดินแบบ ออกงานอีเวนท์ ร้องเพลง และรีวิวสินค้าต่างๆ มากมาย เป็นต้นว่า มีสื่อทีวีหลายช่องเสนอชีวิตความเป็นอยู่ในชีวิตประจำวันของลุงพลและป้าแต๋นอย่างละเอียด วงการบันเทิงต่างให้ความสนใจติดต่อเพื่อขอให้ไปร่วมแสดงหรือปรากฏตัวในรายการต่างๆ เรียกว่าสังคมเริ่มให้ความสนใจในตัวลุงพลเป็นอย่างมาก
เครดิตภาพจาก : https://ninegoodtoday.com/2020/09/
หนึ่งในนั้นคือ หมอปลา ซึ่งออกตัวปกป้องลุงพลว่าลุงพลเป็นผู้บริสุทธิ์ ถึงขนาดเอาชีวิตของตัวเองเป็นเดิมพัน หลังเปล่งวลีเด็ดออกจากปากเป็นมั่นเหมาะว่า "ถ้าลุงพลเป็นคนผิด ตนเองจะยอมฆ่าตัวตาย" นอกจากนั้นก็ยังมีคุณอุ๊บ วิริยะ (ชื่อเรียกในวงการ) ได้ติดต่อขอนำตัวลุงพลเข้าสู่วงการบันเทิง ถ่ายมิวสิควิดีโอ เพลงเต่างอย ร่วมกับนักร้องลูกทุ่งชื่อดัง "จินตหรา พูลลลาภ" เมื่อช่วงเดือนกันยายน 2563 ช่วงนี้ลุงพลและป้าแต๋นมีงานในวงการเข้ามารุมเร้ามากมาย มีทั้งงานเดินแบบ พรีเซ็นเตอร์รีวิวสินค้า มียูทูบเบอร์และแฟนคลับที่ชื่นชอบในตัวลุงพลจำนวนมาก
เครดิตภาพจาก : https://ninegoodtoday.com/2020/09/
ไม่น่าเชื่อว่าในไม่กี่วันที่ผ่านมาจะต้องถูกออกหมายจับเป็นผู้ต้องหาในคดีฆาตรกรรมน้องชมพู่จนต้องหลบลี้หนีหายอย่างไร้ร่องรอย มารู้ข่าวอีกทีก็ตอนที่ศาลอนุมัติออกหมายจับลุงพลออกมาแบบสายฟ้าแลบ ทำให้ลุงพลต้องกลายเป็นผู้ต้องหาในคดีนี้ไปในที่สุด
เครดิตภาพจาก : https://mgronline.com/crime/detail/9640000053151
เป็นเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ข่าวที่โด่งดังที่สุดในช่วงนี้ คงหนีไม่พ้นข่าวของ "ลุงพล" หลังจากที่ศาลจังหวัดมุกดาหรได้ออกหมายจับ "ลุงพล" หรือ "นายไชยพล วิภา" ใน 3 ข้อหาหลัก คือ
1. พรากเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปี ไปเสียจากบิดามารดา โดยปราศจากเหตุอันควร
2. ทอดทิ้งเด็กอายุไม่เกิน 9 ปี เพื่อให้เด็กนั้นพ้นไปเสียจากตน โดยประการที่ทำให้เด็กนั้นปราศจากผู้ดูแล เป็นเหตุให้เด็กถึงแก่ความตาย
3. กระทำการใดๆ แก่ศพ หรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพ ก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น ในประการที่น่าจะทำให้การชันสูตรพลิกศพหรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป
เนื่องจากตำรวจมีพยานหลักฐานยืนยันได้แน่ชัดว่าในคดีนี้มีเพียงลุงพลเท่านั้นที่น่าจะมีความเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของน้องชมพู่มากที่สุด
หลังจากที่ศาลได้อนุมัติออกหมายจับลุงพลแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้นำหมายจับไปแจ้งแก่ลุงพลถึงบ้าน แต่ปรากฏว่าลุงพลไม่ยอมออกมามอบตัว และปรากฏว่าลุงพลและป้าแต๋นได้พากันหลบหนีออกนอกพื้นที่ไปแล้ว
เครดิตภาพจาก : https://mgronline.com/crime/photo-gallery/9640000053151
กระทั่ง 1 มิ.ย. 2564 ศาลจังหวัดมุกดาหารอนุมัติหมายจับลุงพล หรือ นายไชยพล วิภา ในคดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่ และในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ก็ได้จัดแถลงข่าวการออกหมายจับลุงพลในวันที่ 2 มิ.ย. 2564
เครดิตภาพจาก : https://mgronline.com/crime/photo-gallery/9640000053151
ข่าวล่ามาแรง และเป็นที่สนใจไปทั่วบ้านทั่วเมืองมากที่สุดในตอนนี้ก็คือ ลุงพลและนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ซึ่งเป็นทนายส่วนตัวของลุงพลได้นำตัวลุงพลเข้ามอบตัวกับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แต่ก็มีเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้น เพราะนอกจากลุงพลและทนายตั้มจะไม่ได้เข้าพบและมอบตัวกับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติแล้ว ก็ยังมีปฏิบัติการเข้าล็อคตัวใส่กุญแจมือจับกุมลุงพลแทนที่ ท่ามกลางความตกอกตกใจของป้าแต๋นและผู้คนที่อยู่ในเหตุการณ์ ไม่เว้นแม้กระทั่งผู้ชมที่รับชมผ่านทีวีและสื่อโซเชียลต่างๆ จนเป็นที่มาของวลีเด็ดที่ว่า "ลุงพลเกม"
เมื่อปฏิบัติการจับกุมลุงพลปรากฏขึ้นเช่นนี้ หลายๆ คนที่เคยให้การสนับสนุนอยู่เคียงข้างลุงพลมาโดยตลอด หรือเคยเป็นหุ้นส่วนร่วมงานกับลุงพล ต่างก็พลอยโดนหางเลขทัวร์ลงไปตามๆ กัน จนต้องออกมาชี้แจงกับสื่อ และลบคลิปหรือผลงานที่เคยทำร่วมกันกับลุงพลไปเพื่อจบปัญหาทัวร์ลง
แฟนคลับของลุงพลจำนวนมาก ต่างก็เกิดความงุนงงสงสัย และไม่แน่ใจในความบริสุทธิ์ของลุงพล รีบถอนตัวจากการเป็นแฟนคลับไปเลยก็มี
แต่ก็มีแฟนคลับของลุงพลอีกจำนวนไม่น้อยที่ยังเชื่อมั่นและศรัทธาในความบริสุทธิ์ของลุงพลอย่างไม่เสื่อมคลาย คอยให้ความเชื่อมั่นและให้กำลังใจลุงพลอยู่เคียงข้างอย่างไม่ยอมถอนหมุดหนีหายไปไหนอย่างแน่นอน
เครดิตภาพจาก : https://mgronline.com/crime/photo-gallery/9640000053151
หลังจากที่ลุงพลโดนจับกุมตัวฝากขังไว้ได้เพียงไม่นาน ก็ปรากฏว่าได้รับการอนุญาตให้ประกันตัวเพื่อออกไปต่อสู้คดี ด้วยการวางหลักทรัพย์ยื่นประกันตัวเป็นจำนวนเงิน 180,000 บาท โดยรับปากว่าจะต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดของศาล มีการไม่เข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานในทางคดีเป็นต้น ท่ามกลางความดีใจของป้าแต๋นผู้เป็นภรรยา และแฟนคลับที่แห่แหนมาให้กำลังใจลุงพลเป็นจำนวนมาก
เครดิตภาพจาก : https://www.sanook.com/news/8392374/
ท่ามกลางความยินดีของป้าแต๋นและแฟนคลับ ก็สร้างความหวาดผวาและหวาดกลัวให้กับครอบครัวของน้องชมพู่เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะคุณแม่ของน้องชมพู่ที่เริ่มรู้สึกไม่ปลอดภัย เพราะ "ลุงพล" ผู้ต้องหาในคดีฆาตรกรรมน้องชมพู่นั้น ศาลได้อนุญาตให้ประกันตัวออกมาต่อสู้ในทางคดีแล้วในวันนี้ โดยพลิกเกมมาเป็นผู้ตั้งรางวัลนำจับคนร้ายในคดีฆาตรกรรมน้องชมพู่ เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ และล้างมลทินให้กันตัวเองแทน
ที่นำเสนอบทความเรื่องของ "ลุงพล" และคดีฆาตรกรรมน้องชมพู่ ที่เป็นข่าวโด่งดังข้ามปีจนกระทั่งในวันนี้ โดยส่วนตัวผู้เขียนบทความเอง ก็ยังไม่ได้ให้น้ำหนักไปทางฝ่ายใดว่าเป็นฝ่ายถูกหรือฝ่ายผิด หรือใครเป็นคนลงมือล่อลวง/ฆาตรกรรมน้องชมพู่ไม่ว่าจะเป็นในทางตรงหรือทางอ้อมก็ตาม เพียงแต่นำเสนอความน่าสนใจของชีวิตคนๆ หนึ่ง ซึ่งชีวิตจริงของเขานั้น ต้องเรียกได้ว่า "ยิ่งกว่าละคร" ที่เราเคยดูเสียอีก
เครดิตภาพจาก : https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_4880914
หลายๆ คนบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่า "เบื่อข่าวลุงพล" / "ข่าวลุงพลกลบข่าวอภิปรายงบปี 65/ "ข่าวลุงพลกลบข่าวยาเสพติดจากไทยที่ถูกส่งไปในต่างแดน"/ ข่าวลุงพลกลบข่าวการปล่อยตัวผู้ต้องหาการเมืองยังไม่เสร็จสิ้น" / ข่าวลุงพลกลบข่าวรถถังเบาสะเทินน้ำสะเทินบก 3 คันจากจีน ถึงไทย" / ข่าวลุงพลกลบข่าวศาลสั่งปิดกั้น 8 บัญชีเฟซบุ๊กที่เป็นภัยต่อความมั่นคง/ "ข่าวลุงพลกลบข่าวซิโนแวคผ่านการรับรองจาก WHO" และ "ข่าวลุงพลกลบข่าวส่งมอบวัคซีนแอสตราเซเนกา ที่ผลิตโดยสยามไบโอไซเอนซ์แล้ว 1.8 ล้านโดส"
บางคนมองว่าข่าวลุงพลเป็นเรื่องไร้สาระ โฟกัสผิดจุด ให้ความสำคัญในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับคดีความ และข่าวลุงพลนั้นเป็นเพียงประเด็นข่าวเก่าที่ต้องการนำมาเบี่ยงเบนประเด็นข่าวต่างๆ ที่คนไทยควรรับรู้และมีส่วนได้เสีย
ต้องรอลุ้นรอชมกันต่อไปครับว่า ชีวิตจริงที่ยิ่งกว่าละครของนายไชยพล วิภา หรือ ลุงพล คนเดิมคนนี้ จะลงเอยอย่างไร ก็ต้องฝากให้ติดตามรับชมกันต่อไปอย่างไม่ต้องกระพริบตานะครับ...
โฆษณา