7 มิ.ย. 2021 เวลา 02:35 • ความคิดเห็น
ว่าด้วยเรื่องของการพูดลับหลัง....
รพ.กรุงไทย : พ่อแม่ฉีดโควิดเข็มแรก
การพูดลับหลัง บางคนคิดถึงคำว่านินทาไปแล้ว ก็ใช่แหละ การนินทามันก็เป็น 1 ประเภทของการพูดลับหลัง แต่เป็นการพูดเชิงไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เท่าที่ฟังจากหลายๆคนใช้คำนี้นะ
ส่วนการพูดลับหลังอีกแบบนึง คือการชมลับหลัง อันนี้เป็นคำพูดที่ดีแต่ไม่รู้ว่าดีที่จะพูดไหม มาขยี้แต่ละอันดูดีกว่า
การนินทาดูเหมือนจะเป็นอะไรที่ฟังแล้วทุกคนจะคุ้นเคยกันดี ไม่ว่าจะเคยทำเอง หรือเคยถูกกระทำ การพูดด้านไม่ดีของคนอื่นลับหลัง หรือพูดด้านที่จริงบ้างไม่จริงบ้างในทางที่ไม่ดีของคนอื่นลับหลัง มองตามความจริงมันไม่ได้มีประโยชน์อะไรเลย มันสร้างแต่พวกพ้องที่ไม่ดี การฝึกนิสัยคิดร้ายคิดแง่ลบกับคนอื่น การฝึกนิสัยหาข้อด้อยแต่กับคนอื่น การฝึกนิสัยไม่รู้จักเผชิญหน้าและไม่รู้จักทำเพื่อคนอื่น
คือมันจะดีกว่าถ้าเราเลิกนินทา แล้วเราหาวิธีไปเตือนคนนั้นเลยดีกว่า อย่างน้อยทำให้คนที่เราได้เตือนได้ฉุกคิดหรืออาจจะทำให้คนคนนึงเขาได้เปลี่ยนหรือแก้ไขตัวเขาได้เลยนะ
การชมคนอื่นลับหลัง หลายคนอาจจะมองว่า เออ..อันนี้เริ่มคิดเยอะแล้ว มันไม่เห็นจะเสียหายตรงไหน มันอาจจะเสียหายโดยไม่รู้ตัวก็ได้นะ สมมุติถ้าเราเป็นเพื่อนกันนักว่ายน้ำคนนึง แต่เราชื่นชอบนักว่ายน้ำอีกคนนึงที่เก่งมาก แล้วเรามานั่งชมนักว่ายน้ำคนนะเนี่ยให้เพื่อนรับฟังทุกวัน เราเชื่อว่าเพื่อนเราที่เป็นนักว่ายน้ำคนนั้นเขาไม่ได้รับความรู้สึกดีๆอะไรเพิ่มขึ้นนะ ถ้าเขาจิตอ่อนหน่อยก็อาจจะเอาความสามารถของตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนที่ถูกชม อาจจะนอยไปเลยก็มี .... แล้วท้ายที่สุดคนที่ถูกชมมันก็ไม่ได้อะไร ก็เป็นการพูดอะไรดีๆแบบทิ้งๆขว้างๆไปไม่ได้เกิดประโยชน์อะไร
เพราะว่าคำชมมันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้เกิดประโยชน์มากกว่านั้น เราไม่รู้หรอกคนที่เขาเก่งมากๆก็อาจจะยังต้องการกำลังใจเล็กๆน้อยๆหรือความมั่นใจเล็กๆน้อยๆเพิ่มขึ้นในตัวเขา หรือคนที่ยังไม่เก่งบางคนเขาอาจจะยังไม่พร้อมที่จะได้ยินคำชมคนอื่นในภาวะที่เขากำลังพัฒนาตัวเอง หรือภาวะที่เขากำลังต่อสู้ด้วยตัวเอง เพราะงั้นใช้คำชมให้ถูกกาละเทศะดีกว่า เอาไปให้กำลังใจเอาไปชื่นชมเอาไปสร้างความมั่นใจให้คนที่เขาทำดีที่สุดแล้วให้เขาได้รางวัลนั้นกลับไป ดีกว่าไปพูดลับหลังนะ
โฆษณา