โลกในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว
คนสมัยใหม่กำลังพยายามเปลี่ยนความคิดแนวเก่าๆ
นักลงทุนสมัยเก่าๆ นักวิเคราะห์เก่าๆ ที่ผ่านเหตุการณ์ ทั้งกระทิง และภาวะหมีแทบล้มละลาย มานับครั้งไม่ถ้วน
หลายครั้งที่ภาวะรุ่งเรืองสุดๆ ในยุคฟองสบู่ ก่อนปี40 คนในยุคนั้น คงนึกออกว่าเศรษฐกิจรุ่งเรืองนั้นเป็นอย่างไร
รถเบนส์ E230 ถือเป็นรถพื้นๆ จอดติดไฟแดงเป็นแถว
สถานบันเทิง อาบอบนวด คนแน่น คนไปเที่ยวแจกทิปตั้งแต่คนเฝ้ารถ คนเปิดประตูคนละ 500 ยังกับแจกใบปลิว
จนกระทั่งภาวะ ฟองสบู่แตก ปี 40 คนที่เคยขับเบนส์ ต้องมาขับกระบะเก่าๆ มีคนยิงตัวตายที่ตลาดหุ้น มีลุงเอาขี้ไปราดตัวเองที่ธนาคารออมสินเพราะลงทุนซื้อกองทุนแล้วเงินสะสมเหลือไม่ถึงครึ่ง มีเศรษฐีพันล้านไปขายแซนวิช
ผมยังจำสภาวะตอนนั้นได้ไม่ลืม
ผมฟังที่เขาสัมภาษณ์ เรื่อง บิตคอยน์ จากอาจารย์นิเวศน์ ที่ออกมาเตือนเรื่อง บิตคอยน์ว่าให้ระวัง มันไม่ใช่การลงทุนเหมือนหุ้นที่ให้ผลผลิตที่จับต้องได้ ท่านมองเหมือนกระแสความนิยมเหมือนโป่งข่าม จตุคาม สักพักก็จะเสื่อมความนิยม ถ้าบิตคอยน์ดีจริง รัฐบาลต้องยอมรับและเอามาใช้จริง เพราะออกมา 10 ปีในโลกความจริงกลับไม่มีการนำมาใช้จริงจัง
ปรากฎว่า อ.นิเวศน์ โดนด่าซะเละ ว่าเป็นคนตกยุค ไม่รู้เรื่อง จาก comment ที่ว่า บิตคอยน์เป็นระบบการเงินดิจิตอลแห่งอนาคต
ผมก็มานึกๆ ว่า อ.นิเวศน์ อาจจะหวังดีต่อสังคม แต่การให้สัมภาษณ์ท่าน อาจจะไม่ถูกใจคนที่เล่นบิตคอยน์
ผมทราบว่า คนที่เล่นบิตคอยน์ ในประเทศไทย ติดในอันดับต้นๆของโลก มีเป็นแสนคน มันมีทั้งการเก็งกำไร และลงทุนซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์แพงๆเป็นหลายแสนหรือล้านเพื่อขุด digital currency ผมได้ยินแต่คนร่ำรวย แต่ไม่ค่อยได้ยินคนเจ๊งบิตคอยน์นะ เพราะขาดทุนคงไม่ออกมาคุย ได้ยินแต่ข่าวว่า ช่วงหลัง บิตคอยน์ ราคาตกลงกว่าเท่าตัว
บิตคอยน์ โดยส่วนตัวมันเหมาะกับการเล่นเก็งกำไรนะ จะซื้อตอนไหน ขายตอนไหน มันใช้ฝีมือ ผมว่ามันเหมือนการพนันนะ ข้อดีคือมันเล่นได้ตลอด 24 ชั่วโมง และมี swing ของราคาสูง ขึ้นลงสะใจ ไม่รวยก็เจ๊ง มันช่างเหมือนกับบ่อนจริงๆ ทำไมเมืองไทยไม่เปิดบ่อนให้รู้แล้วรู้รอดไป