ไม่มีจิตคิดตำหนิ ดูถูก เหยียดหยาม ในความรู้ของทุก ๆ คนที่เราได้พบปะ พบเจอ ทั้งคนที่อยู่ในครอบครัว ในองค์กร ในสังคม มีแต่การรับรู้และเข้าใจ...
เบิกบาน
“จิตเดิมแท้นั้นประภัสสร"
เมื่อกิเลสจรเข้ามาต้อนรับไม่ดีทำให้เราขาดสติ และขาด "ปัญญา"
จึงทำให้ใจมัวหมอง เมื่อใจมัวหมอง... การรับรู้สรรพสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกจะไม่ถูกต้องตามที่เป็นจริง
คนที่บริหารจิตไม่ถูกต้อง จิตใจจะรับใช้กิเลส
“เมื่อใจเราบริสุทธิ์ จะเห็นจิตเดิมแท้ของเพื่อนมนุษย์ทุกคนนั้น ประภัสสร”
ฉะนั้น... ถ้าเรามีความรู้ที่จะอยู่บนจิตใจใส สะอาด บริสุทธิ์ สิ้นสุดความเห็นแก่ตัว รวมทั้งรู้ที่จะป้องกันสรรพสิ่งที่จะทำให้ใจเรานั้นเปรอะเปื้อน มัวหมอง เมื่อเราป้องกันรวมถึงชำระล้างสิ่งเหล่านั้นได้ ใจเราและเพื่อนมนุษย์ก็จะนิ่งและสุขตลอดไป
“น้ำนิ่งเห็นทรัพย์ใต้น้ำได้ ฉันใด จิตที่นิ่งก็เห็นขุมทรัพย์ทางปัญญาได้ ฉันนั้น"
เมื่อเรามีความรู้ มีสติ มีปัญญารักษาใจให้ดีมีความสุขได้ ก็จะเห็นปัญหาและความทุกข์ของทุก ๆ คน ทุก ๆ ชุมชน ทุก ๆ สังคม เข้าใจพฤติกรรมและวัฒนธรรมของทุกคน ทุกสรรพสิ่ง
เพราะเราทุกคนจะแต่มีความคิดเห็นที่ถูกต้อง
รู้และเห็นสิ่งต่าง ๆ ตามที่เป็นจริง ทั้งที่เป็นปรากฏการณ์ทางวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ ปราฏการณ์ทางสังคม และเข้าใจถึงสรรพสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ไม่มีจิตคิดตำหนิ ดูถูก เหยียดหยาม ในความรู้ของทุก ๆ คนที่อยู่ในเวที มีแต่รับรู้ เข้าใจ ทำหน้าที่ของตน สร้างประโยชน์ตนและประโยชน์ผู้อื่นให้ถึงพร้อม ไปด้วยใจที่เต็มเปี่ยมความรัก ความเมตตา ความกรุณา...
เมื่อเรามีความคิดความเห็นถูกต้อง มีความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการรับรู้ของทุก ๆ สรรพสิ่ง การพูดจา การกระทำทุก ๆ อย่างก็เป็นไปอย่างถูกต้อง การยอมรับ มิตรไมตรีและความไว้วางใจก็จะเกิดขึ้น แล้วเราก็จะพบสุขได้กับทุก ๆ ย่างก้าวในชีวิตประจำวัน
ใจดีใจสบาย
นิทานเรื่อง "กระจกใจ"
เรื่องมีอยู่ว่า...
มีสามีภรรยาอยู่คู่หนึ่ง เพิ่งย้ายบ้านเข้าไปอยู่ในบ้านหลังใหม่
ในวันแรกที่ย้ายเข้าไปอยู่นั่นเอง อยู่ดี ๆ ภรรยาก็ตกอกตกใจตะโกนเรียกสามี ว่า....
พี่ ๆ มาดูนี่เร็ว ดูบ้านข้าง ๆ เราสิ ไม่รู้อยู่กันได้อย่างไร สกปรกมาก ๆ บ้านช่องไม่รู้จักเก็บจักกวาด คนอะไรไม่รู้สกปรกจริง ๆ
สามีก็พอมองไปยังบ้านหลังนั้นแล้วก็เงียบ มิได้พูดอะไร
วันที่สอง ภรรยาก็ตะโกนเรียกสามีด้วยน้ำเสียงตกใจอย่างเดิมอีก แล้วพูดว่า...
พี่ ๆ มาดูนี่อีก ดูบ้างข้าง ๆ เราสิ ไม่รู้เขาใช้อะไรซักผ้า ทำไมผ้าบ้านเขาช่างสกปรกสิ้นดี ไม่มีความขาวสะอาดเลย
สามีก็พอมองไปยังบ้านหลังนั้นแล้วก็เงียบ มิได้พูดอะไรเช่นเคย
วันที่สาม ภรรยาก็ตะโกนเรียกสามีเช่นเดิม แต่คราวนี้ตะโกนเสียงด้วยน้ำเสียงที่แสดงความตกใจเป็นอย่างยิ่ง ว่า...........
พี่ ๆ มาดูนี่เร็วเข้า เกิดเรื่องใหญ่แล้ว วันนี้บ้านข้าง ๆ ไม่รู้เขาไปทำอะไรมาบ้านเขาสะอาดมาก ๆ เลย ผ้าผ่อนต่าง ๆ ก็ขาวสะอาดไม่มีที่ติ ไม่รู้เขาไปจ้างใครมาทำหรือเปล่า
สามีก็มองกลับมายังหน้าของภรรยาตนเองแล้วพูดว่า
เขาไม่ได้ไปทำอะไรหรือจ้างใครมาทำความสะอาดอะไรหรอกน้องเอ๋ย
แต่เมื่อเช้าพี่น่ะ "เช็ดกระจกบ้านของเราเอง"
ล้างกระจกให้สะอาด
เมื่อมีปัญหาทุก ๆ ปัญหา ให้เรากลับมาดูที่ใจของเราก่อน อย่าพึ่งมองไปข้างนอก มาดูใจก่อน
"ถ้าใจเราไม่มีปัญหา ทุกอย่างก็ไม่มีปัญหา"
ครั้นเมื่อเรากลับมาดูใจของตัวเอง เราก็จะรู้ว่าว่า การที่มีปัญหาเพราะเราดีใจบ้าง เสียใจบ้าง
"ดีใจกับเสียใจนั้นไม่ใช่ภาวะแห่งสุข ดีใจก็ไม่ใช่สุข ใจดีต่างหากที่เป็นสุข"
คนใจดีน่าตาอิ่มเอิบ เข้าใกล้สบายใจ
เราชอบเข้าใกล้คนใจดี
ถ้าเราใจดี... ก็เป็นสิ่งวิเศษที่สุดไม่ต้องไปหาของดีของขลังค์ที่ไหน
เพราะถ้าใจหาย ใจคว่ำ เมื่อนั้นเราก็มีทุกข์
ดีใจก็เครียด เสียใจก็เครียด เป็นภาวะ เครียดทั้งคู่ positive และ negative
เราทั้งหลาย จะไม่แสวงหาสิ่งที่ทำให้ดีใจ แต่แสวงหาว่าทำอย่างไรให้ใจเราดี
"นี่คือ ความรู้ที่อยู่บนฐานพุทธรรม (Buddhist Based Knowledge)
"
ทำความดี-ใจดีใจสบาย
ถ้าใจของเราดีได้ ก็จะทำให้ชีวิตเรารื่นรมย์ได้ เพราะเราจะมองทุกสิ่งทุกอย่างนั้นด้วยจิตใจที่ใส สะอาด บริสุทธิ์ สิ้นสุดความเห็นแก่ตัว
การดีใจ เสียใจ ทำให้ลมหายใจของเราสั้น ลมหายใจไม่ปกติ...
เมื่อเรารู้ว่าดีใจหรือเสียใจนั้นเป็นภาวะที่ลมหายใจมันสั้น ผิดปกติ
เมื่อสั้นจำต้องปรับลมหายใจ
เมื่อลมหายใจสั้นก็ต้องหายใจให้ยาว
หายใจเข้าออกยาว ๆ สักสองสามครั้ง แล้วกลับมาหายใจแบบปกติ ธรรมดา ๆ หายใจเข้าให้สบาย หายใจออกให้สบาย
ทำความดี-ใจดีใจสบาย
ชีวิตหนึ่งที่ได้อยู่กับตัวเอง อยู่กับลมหายใจเมื่อยามโกรธ โดยเฉพาะเมื่อมองเพ่งโทษของคนอื่น
ชีวิตหนึ่งที่ได้อยู่กับตัวเอง อยู่กับลมหายใจเมื่อยามโลภ อยากได้โน่นอยากได้นี่ อยากได้บริขารสวย ๆ อยากได้วัตถุสิ่งของงาม ๆ
ชีวิตหนึ่งที่ได้อยู่กับตัวเอง อยู่กับลมหายใจเมื่อยามหลง หลงเสียใจอยู่กับอดีตที่เรียกอะไรคืนมาไม่ได้ หลงละเมอเพ้อพกถึงอนาคตที่ยังมาไม่ถึง
เฝ้าดูลมหายใจแห่งชีวิต ในเรื่องของสรรพสิ่งที่ผันเปลี่ยนเวียนวน
เฝ้าดูลมหายใจเมื่อยามดีใจ เมื่อมีใครมาชม
เฝ้าดูลมหายใจเมื่อยามท้อแท้ใจ เมื่อมีใครดุว่ากันเสียงขรม
เพราะชีวิตคือลมหายใจใคร ๆ รู้ ชีวิตคือการต่อสู้ควรศึกษา
ชีวิตคืองานตระการตา ชีวิตมีคุณค่าควรคุ้มครอง
ทำงานอย่างมีความสุข
ชีวิตที่เพียรเฝ้าดูอยู่และศึกษากับความรู้ที่จำเป็นต้องรู้ เพื่อมิให้ชีวิตนั้นกัดกินตัวเองเหมือนแต่ก่อน
ชีวิตที่เพียรเฝ้าดูลมหายใจที่สั้น เร็ว และอ่อนบาง เมื่อยามโลภ โกรธ หลง ดีใจ และเสียใจ
หมั่นเฝ้าสังเกตหัวใจเมื่อลมหายใจสั้น ๆ ที่เกิดจากอารมณ์นั้น ๆ
ชีวิตที่อยู่กับชีวิต
เป็นชีวิตที่อยู่กับลมหายใจ
ลมหายใจเพื่อชีวิต
ชีวิตคือลมหายใจ
“ลมหายใจกับชีวิต”
ใจดีใจสบาย
- 19
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
