8 มิ.ย. 2021 เวลา 05:45
บันทึกนี้เขียนเมื่อตอนเหตุการณ์ย้ายจากเรือนจำประมาณเดือนมกราคมปี 2561 เป็นการย้ายระบายจำนวนผู้ต้องขัง ความว่า
เช้ามืด 17 มกราคม 61
นอนๆอยู่ที่นอน เสียงกุญแจกุ๊งกิ๊งมาแต่ไกลจากพัสดีเปิดประตูขัง มันเป็นเหตุการณ์ที่ไม่ปกติเราก็แปลกใจต้องมีอะไรเกิดขึ้นแน่ แต่ข่าวมีมาตั้งนานแล้ว สรุปลุ้นอย่างเดียวคือจะมีชื่อไหม เพราะจากที่ล้วงลึกข่าววงในมาจากหัวหน้าที่ทำงานด้วย บอกว่าเราเป็นคนเดียวที่ลงชื่อย้ายอย่างสมัครใจ
สรุปมีชื่อเราก็ลุกขึ้นไปที่ฝ่ายควบคุมรวมยอดได้แล้วทั้งหมดที่โดนเรียกมาจำนวน 48 คน
หลังจากนั้นก็เข้าสู่ระบบการเช็คประวัติ ตีโซ่ตรวน ขึ้นรถ ทั้งนั่งทั้งยืนแออัด ระหว่างเดินทางมาเจ้าหน้าที่ก็ ว. สัญญาณวิทยุหากันตลอดสรรพนามที่เรียกผู้ต้องขังอย่างเรา เป็นรหัสที่ใช้เรียกกันคือ "สินค้าพิเศษ"
หลังจากไม่เคยได้เห็นเดือนเห็นตะวันเห็นสภาพภายนอกภูมิประเทศ โอกาสนี้เป็นโอกาสนานๆครั้งที่จะได้เห็นวิวทิวทัศน์ถนนรอบข้างผู้คนภายนอกวิถีชีวิตที่ดิ้นรน รวมถึงจิตก็คิดไปต่างๆนานาถึงเหตุการณ์ที่เกิดภายภาคหน้าซึ่งเป็นธรรมดาที่ว่าที่แห่งใหม่ที่จะไปอยู่นั้นมันจะแย่ลงหรือดีกว่าเดิม
เมื่อเดินทางมาถึงที่เรือนจำแห่งใหม่ก็ถูกแยกประเภทเมื่อลงจากเรือนจำข้าพเจ้าถูกน้ำสีเมจิกกากบาทข้างหลังเนื่องจากอยู่ในข่ายผู้ต้องขังพฤติการณ์ไม่น่าไว้วางใจ หรือเรียกง่ายๆว่าพวกเกเร คือมี "ใบสั่ง" มาจากทางเรือนจำฝั่งโน้นว่าให้ดูแลเป็นอย่างดีซึ่งในที่นี้หมายถึงจับตาดูอย่างเป็นพิเศษ เป็นการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่เป็นรูปแบบหนึ่งของการควบคุมดูแลเพื่อให้ผู้ต้องขังอยู่ในระเบียบวินัย
จาก 48 คนโดนแยกออกมา 5 คนซึ่งรวมถึงผมด้วย มาถึงตอนนี้ก็คิดในใจว่าเราจะโดนเรื่องอะไรนะแต่ส่วนใหญ่ที่โดนแยกออกมาก็มีพวกคดีโต๊ะบอล เป็นพ่อบ้าน มีอิทธิพล รวมถึงนำยาเข้า
ส่วนเราไม่เคยทำผิดวินัยอะไรเลยก็ยังงงอยู่ว่าทำไมถึงโดนแยกออกมา คงโดนผู้หลักผู้ใหญ่ทางโน้นเล่นงานเข้าแล้วคิดในใจ หรือไม่อีกอย่างนึงก็เกี่ยวกับนโยบายของเขาที่ว่าใครที่ลงชื่อย้ายเรือนจำโดยสมัครใจ เบื้องต้นให้วินิจฉัยก่อนว่านั่นแหละคือผู้ที่จะหนีจากที่หนึ่งไปอีกที่นึงโดยมีนัยยะส่วนใหญ่เกี่ยวกับการเป็นหนี้เป็นสิน
ที่นี่เขามีสโลแกนว่าลูกหลานพระยาตากชาตินักรบ 5 นาทีโดนย้ายแยกออกมาก็ถูกเรียกว่า 5 เสือนักรบ
ทำไมถึงเรียกอย่างนั้นเพราะว่า หลังจากที่คนกลุ่มใหญ่ทยอยเข้าไปข้างในเรือนจำแล้ว พวกผมก็โดน เดินเป็ด คาน กลิ้ง หมอบระหว่างทางก็มีการขู่ ตระโกน เป็นจิตวิทยาเบื้องต้นของการควบคุมให้อยู่ภายใต้อำนาจ เป็นการแสดงสัญลักษณ์ของผู้มีอำนาจเหนือกว่ากับผู้ด้อยอำนาจกว่า
พร้อมท่องปฏิญาณตนเรือนจำซึ่งมีป้ายใหญ่โตอยู่หน้าแดนว่า "เรือนจำสีขาว"
หลังจากเดินไปได้สักระยะก็มาหยุดที่หน้าส่วนห้องแยกขัง ห้องมืด ขังเดี่ยว ถ้ำ กล่อง แล้วแต่จะเรียกกันแต่ละที่ พร้อมบอกให้รู้ว่า"ถ้ามึงร้ายนั่นคือที่ของมึง" เจ้าหน้าที่ที่มาอบรมพวกเราเป็นเจ้าหน้าที่ที่เคยผ่านการอบรมเฉพาะทางเกี่ยวกับ super max ประสบการณ์ผ่านมาแล้วทั้งคุกโหดทั้งหลายเช่น เขาบิน
วันนี้วันแรก 2 วันแรกสับสนงุนงงแต่ก็มีสติเจอพวกเด็กฝั่งธนเยอะซึ่งย้ายมาก่อนหน้านี้ก็จำได้ซึ่งทำให้กับผมรู้สึกสบายใจขึ้นมาเพราะเหมือนกับว่าได้เจอคนรู้จักเพราะที่นี่เหมือนศูนย์รวมเรือนจำต่างๆมารวมตัวกันทั้งเชียงใหม่ เพชรบูรณ์ พิจิตร พิษณุโลก อุตรดิตถ์ กรุงเทพฯทั้งพิเศษมีน พิเศษธน พิเศษกรุงเทพฯ
แต่ที่จะแตกต่างจากที่อื่นคือมีกลุ่มชาติพันธุ์หลากหลายกลุ่มมากทั้ง กะเหรี่ยง ไทยใหญ่ ม้ง
คงเป็นเพราะพื้นที่นี้ติดกับชายแดนพม่านั่นเอง
เป็นปกติที่เราเจอคนที่อยู่บริบทเดียวกันบ้านเดียวกันพื้นที่เดียวกันก็จะเกิดการเชื่อมต่อกันเพราะยังไงก็ยังช่วยเหลือกัน รักกันถึงแม้จะไม่รู้จักกันมาก่อนก็เถอะอย่างน้อยก็มีสิ่งที่เหมือนกันคือพื้นที่ที่จากมาด้วยกัน
สิ่งที่พบเห็นได้ของเรือนจำแห่งใหม่นี้คือความแตกต่างในเรื่องระเบียบวินัยที่นี่ระเบียบมาเป็นอันดับ1 ธรรมะมาเป็น 2
สวดกัน 5 เวลา ท่องไว้ให้ขึ้นใจ
ที่แปลกคือสูบบุหรี่เป็นที่เป็นทาง
พื้นที่แต่ละจุดเขาสะอาดมาก
ตอนเช้าไม่มีอาบน้ำ
เป็นนโยบายประหยัดค่าน้ำ อาบน้ำตอนเย็นรอบเดียวเป็นฝักบัวเวลาบีบมาก
อากาศที่นี่เช้าเย็นก็ร้อนมาก ดึกก็เริ่มเย็น
ช่วงนี้เดือนมกราคมอากาศก็หนาวแปลกจริงๆ
หลังจากอาบน้ำเป็นที่เรียบร้อยก็รับผ้าห่ม 3 ผืนแก้ว 1 ใบเข้าห้องนอน ซึ่งนั่นเป็นจุดประสงค์ที่ผมย้ายมา ผมอยากดูว่าที่นี่นอนสบายความแออัดไม่เหมือนที่อื่นรวมถึงอาหารการกินก็ดีไม่ต้องเบิกไม่ต้องเสียเงิน "หลวง" กินได้ว่างั้น
บันทึกที่เขียนไว้เมื่อย้ายมาเรือนจำแห่งใหม่
โฆษณา