ซาลโมเนลลา แบคทีเรียตัวร้ายสายพันธุ์แกร่ง
เป็นแล้วอาการรุนแรงและอาจเสียชีวิตได้ !
Salmonella ไม่ใช่ชื่อชีส ชื่อขนม ลูกอมใด ๆ แต่คือชื่อแบคทีเรียที่มาจากนามสกุลนักวิทยาศาสตร์ผู้ค้นพบเจ้าซาลโมเนลลาเป็นครั้งแรกในโลก
วันนี้มาดามจะพาไปรู้จักเจ้าตัวร้ายตัวนี้กันค่ะ เพราะว่ามันอยู่ใกล้ตัวเรามากกว่าที่คิด ร้ายกาจขนาดไหน อาจเห็นได้จากข่าวที่มีคนรับประทานเจ้าเชื้อชนิดนี้เข้าไปผ่านอาหารที่ไม่สะอาด มีอาการไข้ ท้องร่วงรุนแรงเพราะมีเจ้าซาลโมเนลลาเกาะอยู่ ความร้ายแรงสุดๆ ก็ถึงขนาดอาจทำให้บางคนเสียชีวิตได้ ทั้งที่เชื่อว่าอาหารที่รับประทานเข้าไปนั้นสุกสะอาดแต่อาจไม่ปลอดภัยจ้ะ
ผู้ป่วยที่เสียชีวิตด้วยเชื้อซาลโมเนลลามหาภัยนี้มักจะเสียชีวิตจากเลือดออกในลำไส้เล็กและลำไส้ทะลุค่ะ แต่อย่าเพิ่งตกใจนะคะ เพราะก่อนะไปถึงจุดนั้น เรามารู้จักพฤติกรรมของเจ้าซาลโมเนลลากันค่ะ จะได้ระมัดะวังตัวกัน
สาเหตุที่มาดามอยากแชร์เรื่องซาลโมเนลลามาเล่าสู่กันฟังก็เพราะ ขนาดว่าเราระวังตัวสุด ๆ แล้ว ก็ยังพลาดท่าตกม้าตายปล่อยให้เจ้าแบคทีเรียตัวนี้มารบกวนลูกสาวอย่างน้อยมิเลน่าหรือมิจังของมาดามได้ เรื่องของเรื่องเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา จู่ๆน้องมิจัง ก็มีอาการท้องเสีย เอามือชี้ท้องเพื่อบอกมี้ว่าหนูปวดท้อง...จากนั้นก็อาเจียรหนักเลยค่ะ และมีไข้สูงมาก ปล.ขณะนั้นเวลา ตี1 !! มาดามคือแบบ เห็นท่าไม่ดีเลยแบกลูกสาวห้ามเข้าฉุกเฉินกันเลย
ยังไงต้องขอขอบคุณ คุณหมอรพ.บำรุงราษฯมากๆ ไหว้ย่อๆเลยค่ะ
คุณหมอเก่งมาก รักษาน้องมิจังแบบทันท่วงที คือด้วยความเป็นแม่ เห็นลูกเจ็บและทรมารมาก คนเป็นแม่อย่างเราก็น้ำตาตกและขอเจ็บแทนเถ๊อะ ว่าไปตอนนี้น้องหายดีแล้ว มาดามเลยอยากขอแชร์ความรู้ว่าเจ้าเชื้อแบคทีเรียซาลโมเนลลาคืออะไรกัน เพื่อให้คุณแม่ๆรู้จักและดูแลอาหารที่จะให้ลูกน้อยรับประทาน นอกจากเด็กๆแล้ว ผู้ใหญ่เองก็สามารถโดนรังควานได้นะจากเชื้อตัวนี้ จะน่ากลัวแค่ไหนลองอ่านรายละเอียดข้างล่างนี้กันเลย
ขอบคุณคุณหมอและทีมงานรพ.บำรุงราษฏร์ที่รักษาและดูแลน้องมิจังอย่างดี
เราจะพบเจ้าซาลโมเนลลาได้ที่ไหน?
เชื้อซาลโมเนลลา (Salmonella) มีกระจายอยู่ทั่วไปในธรรมชาติค่ะ มันสามารถอาศัยอยู่ในสัตว์ สุนัข แมว นก เต่า หรือในสัตว์เลื้อยคลานพวกกิ้งก่า หรืองู และยังอยู่ในลำไส้ของคนได้ด้วย ยังไม่รวมเจ้าพวกที่อาศัยอยู่ตามตะกอนของน้ำบ่อ น้ำชลประทาน ดิน แมลง อุปกรณ์การผลิต มือ และพื้นผิวของห้องครัวและเครื่องใช้ในครัวเรือนอีก
น่ากลัวตรงไหน?
ตรงที่เป็นแบคทีเรียที่มีลักษณะรูปท่อน เคลื่อนที่โดยใช้แฟลเจลลา (flagella) หรือจ๊ะ ไม่ใช่ค่ะ ความน่ากลัวก็คือ มันสามารถเจริญเติบโตได้ดีที่อุณหภูมิปานกลางค่ะ และยังจะเจริญได้ดีในอุณหภูมิร่างกายของมนุษย์และสัตว์เลือดอุ่น อุณหภูมิต่ำสุดที่มันอยู่ได้คือ 5.2 องศาเซลเซียส ส่วนอุณหภูมิสูงสุดที่เคยมีรายงานการเจริญเติบโตก็คือ 54 องศาเซลเซียส ยังน่ากลัวไม่พอค่ะ เพราะมันยังอยู่ได้ทั้งสภาพที่มีอากาศและไม่มีอากาศ จึงพบได้ในอาหารที่บรรจุในบรรจุภัณฑ์สุญญากาศ (vacuum packaging) !!! สำคัญคือมันยังอึดถึงขนาดทนความร้อนได้แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับชนิด สายพันธุ์ และปัจจัยอื่น ๆ จากสิ่งแวดล้อมภายนอกด้วยค่ะ เช่น อุณหภูมิ และความชื้น
เข้าไปในตัวเราได้ไง?
น่ากลัวขนาดนี้ อย่างที่มาดามบอกว่ามันอึด ที่ว่าใกล้ตัวเราสุด ๆ ก็เพราะมีอาหารเป็น “สื่อกลาง” อันดับต้น ๆ ที่ทำให้เรารับเจ้าซาลโมเนลลาเข้าสู่ร่างกายได้มากที่สุด เพราะคนที่ป่วยมักเกิดจากการรับประทานอาหารหรือน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรียชนิดนี้ ยกตัวอย่างในอาหาร เช่น เนื้อวัวดิบ เนื้อหมู เนื้อไก่ หรือเนื้อสัตว์ชนิดอื่น ๆ ที่อาจปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรียชนิดนี้ระหว่างกระบวนการผลิต
ไข่ดิบ โดยแม่ไก่ที่มีเชื้อแบคทีเรียซาลโมเนลลาก็อาจส่งผ่านเชื้อโรคไปสู่ไข่ไก่ตั้งแต่เปลือกไข่ยังไม่ก่อตัว จึงทำให้การรับประทานไข่ดิบหรือรับประทานอาหารที่มีไข่ดิบเป็นส่วนผสมอาจเป็นอีกช่องทางหนึ่งของการติดเชื้อแบคทีเรียชนิดนี้ได้
ผักและผลไม้ อาจปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรียซาลโมเนลลาจากแหล่งน้ำที่มีเชื้อโรคในระหว่างเพาะปลูก การล้างผักหรือผลไม้ด้วยน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อโรค หรือสัมผัสกับน้ำจากเนื้อดิบที่มีเชื้อแบคทีเรียชนิดนี้ในระหว่างประกอบอาหาร
สัตว์เลี้ยงบางชนิดก็อาจมีเชื้อซาลโมเนลลาได้โดยที่เจ้าของไม่ทราบ เช่น สุนัข แมว นก กิ้งก่า หรืองู เป็นต้น เมื่อใช้มือสัมผัสขนหรือผิวหนังของสัตว์เลี้ยงที่ปนเปื้อนเชื้อจากอุจจาระสัตว์แล้วนำนิ้วมือเข้าปาก อาจเสี่ยงที่จะได้รับเชื้อแบคทีเรียได้
สรุปก็คือ ระวังของดิบค่ะ เพราะถึงแม้จะซีลอย่างดีแบบสูญญากาศก็อาจมีการปนเปื้อนได้ และบางครั้งมันก็อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล แค่ที่มือหรือนิ้วของเรานี่เองที่อาจไปสัมผัสมันเข้าโดยไม่รู้ตัวแล้วนำอาหารเข้าปาก เพราะฉะนั้นการล้างมือบ่อย ๆ ก็จะช่วยได้อีกทาง และการพบโรคนี้ในเด็กมากส่วนหนึ่งก็เพราะเด็กยังมีภูมิต้านทานต่ำและมีโอกาสเสี่ยงนำสิ่งของเข้าปากหรือมีโอกาสรับเชื้อได้มากกว่าผู้ใหญ่นั่นเองค่ะ
อาการทั่วไปของผู้ที่ได้รับเชื้อจะ คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเดิน ปวดศีรษะ ปวดท้อง มี ไข้ หนาวสั่น และอ่อนเพลีย
ความรุนแรงอาจแตกต่างไปตามปริมาณเชื้อที่ได้รับ ชนิดของเชื้อ และความต้านทานของผู้บริโภคค่ะ ผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่สุขภาพแข็งแรงอาจมีอาการดีขึ้นเองภายใน 2 – 3 วันโดยไม่จำเป็นต้องรับการรักษา บางคนอาจใช้เวลานานหลายชั่วโมงจนถึง 2 วัน จึงจะปรากฏอาการของโรค
ป้องกันยังไง?
รู้แบบนี้แล้วพอก็พอจะหาทางป้องกันตัวเองกันได้แล้วใช่ไหมคะ เพราะเจ้าแบคทีเรียซาลโมเนลลานั้นอาจแฝงอยู่ใกล้ตัวเรามาก ๆ อยู่ในเนื้อดิบ ผักผลไม้ หรือบนผิวหนังของสัตว์เลี้ยง ทำยังไงคะ อันดับแรกล้างมือให้สะอาดค่ะ หลังทำกิจกรรมต่าง ๆ เช่น สัมผัสเนื้อดิบ เข้าห้องน้ำ เปลี่ยนผ้าอ้อมให้ทารก เล่นกับสัตว์เลี้ยง สัมผัสสัตว์เลื้อยคลาน หรือเก็บมูลสัตว์
และไม่อยากเสี่ยงก็อย่าเผลอรับประทานเนื้อสัตว์ที่ยังไม่สุกด้วยนะคะ อีกอย่างคือ การรับประทานไข่ดิบหรืออาหารที่ใช้ไข่ดิบเป็นส่วนผสม หากไข่ยังไม่ผ่านการพาสเจอร์ไรซ์ ก็เสี่ยงค่ะ
ล้างผักและผลไม้ให้สะอาด หากเป็นไปได้ควรปอกเปลือกก่อนรับประทาน แยกเนื้อสัตว์ที่ยังดิบออกจากวัตถุดิบอื่น ๆ เมื่อเก็บในตู้เย็น ทำความสะอาดครัวบริเวณที่ใช้วางวัตถุดิบสำหรับทำอาหาร และควรใช้เขียงหรืออุปกรณ์อื่น ๆ แยกกันระหว่างเนื้อดิบและผักหรือผลไม้ ล้างภาชนะที่ใช้ใส่เนื้อดิบให้เรียบร้อยก่อนนำมาใส่อาหารที่ปรุงสุกแล้ว
รู้ไว้ใช่ว่า
ศูนย์การป้องกันและควบคุมโรคของสหรัฐอเมริกา (CDC) คาดการณ์ว่าจะมีผู้ป่วยติดเชื้อซาลโมเนลลามากกว่าหนึ่งล้านคนเกิดขึ้นทุกปีในประเทศสหรัฐอเมริกา และต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลประมาณ 23,000 ราย
ล่าสุดที่สหรัฐอเมริกาก็ยังมีรายงานข่าวว่า มีผู้ป่วยจากแบคทีเรียไม่ขนมนี้กว่าพันรายจาก ‘ซาลโมเนลลา’ ที่แฝงปะปนมาในหัวหอมและลูกพีช มีคนเกิดอาการท้องเสียหลังกินลูกพีชสดและลูกพีชแปรรูป โดยมีรายงานว่าสินค้าอาจถูกส่งออกไปอย่างน้อย 14 ประเทศ ประกอบด้วย ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ แคนาดา นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ ออสเตรเลีย จีน คอสตาริกา เอกวาดอร์ เอลซัลวาดอร์ กัวเตมาลา ฮอนดูรัส และเม็กซิโก
สิ่งที่เกิดขึ้น...ทำให้บริษัทผู้จัดจำหน่ายที่เป็นห้าง Super Stores อย่าง Target, Walmart, Food Lion, Aldi และ Russ Davis พากันออกมาแสดงความรับผิดชอบด้วยการ "เรียกคืน" หอมใหญ่ หอมแดง ลูกพีช พีชกระป๋อง แยมพีช และอาหารที่มีส่วนประกอบของสินค้าปนเปื้อนทั้งหมด เพื่อยับยั้งการแพร่เชื้อ
โรคที่เกิดจากเชื้อซาลโมเนลลาที่สำคัญก็ยังมี โรคกระเพาะอาหารและลำไส้อักเสบ (Gastroenteritis) ไข้ไทฟอยด์ (Typhoid fever) และโรคโลหิตเป็นพิษ (Septicemia) ซึ่งเป็นผลมาจากมามีเชื้ออยู่ในร่างกายเป็น เวลานาน ทำให้เชื้อเข้าสู่กระแสเลือด และสามารถ แพร่กระจายไปเจริญตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย
สรุปแล้วชื่อน่ารักแต่ไม่พฤติกรรมร้ายกาจนะเจ้าแบคทีเรียตัวนี้ รู้อย่างนี้แล้วอย่าไว้ใจ อาหารต้องปรุงสุก
ผักผลไม้ล้างให้สะอาด โลกนี้เริ่มอยู่ยากขึ้นทุกวัน จะทำไงได้ก็แค่ต้องสู้กันต่อไป...รักนะทุกคน
- 8
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
