8 มิ.ย. 2021 เวลา 15:33
หลังจากบินบนที่นั่งขวา เป็น FO (ที่การบินไทยเรียกว่าโคไพลอท) มาสิบกว่าปี
วันนี้เมื่อหลายปีก่อนก็ได้รับโอกาส ผ่านการฝึกฝน-ตรวจสอบได้เป็นกัปตันในที่สุด
4 ขีดบนบ่า ไม่ง่ายกว่าจะได้มา
มองย้อนกลับไป น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่แท้จริงที่ทำให้รู้สึกสนุกกับการบิน… คงตรงกับนิสัยชอบเป็นคนคุมเกม ชี้นิ้วสั่งล่ะมั้ง 😂
แต่กว่าจะผ่านมาได้ก็ไม่เบาเหมือนกัน
ตอนเริ่มเทรนกัปตัน 777 ที่เอทิฮัด มีเพื่อนร่วมเทรนด้วยกันรวมตัวเองก็ 4 คน มาจาก 4 ชาติเลย มีนักบิน local ตุรกี อเมริกาใต้(ขออภัย จำไม่ได้ว่าประเทศอะไร) กับคนไทยหนึ่งหน่อ
ช่วงเข้า simulator ได้จับคู่กับนักบิน local ซึ่งนิสัยดีมาก แต่ชิลมากถึงมากที่สุด
simulator
ถ้าจำไม่ผิดเข้าซิมประมาณ 13-14 session มั้ง
ตารางอัดแน่นมาก ใช้เวลาประมาณ 3 สัปดาห์ก็จบ
คือเข้าซิม 2 หรือ 3 วันติดๆกัน แล้วหยุดวันนึง
บางทีเข้ารอบดึกๆ ออกมาเช้า… ค่ำเข้าต่อเลย
อย่าว่าแต่หาเวลาพักผ่อน เวลาจะเตรียมตัวเข้าซิมยังไม่ค่อยจะมี
ช่วงนั้นได้กินข้าววันละมื้อ อย่างมากก็สอง เพราะถ้ามัวแต่กิน จะไม่มีเวลานอน… ต้องเลือกเอา… ตอนนั้นเลือกนอนแหละ น่าจะสำคัญกว่า
ซิมสุดท้ายจะเป็นการทดสอบ ซึ่งหนักหนาสุดๆ
ในชีวิตจริงใครเจอสถานการณ์ขนาดนี้คือดวงแตกจริงๆ🤣
เป็นไฟลท์อาบูดาบีไปคูเวต เวลาบินปกติก็แป๊บเดียว
แต่มีเหตุไม่คาดฝันมากมาย เครื่องเสีย สนามบินปิด
เลยต้องแวะลงโดฮา… ซึ่งก็มีอุปสรรคอีกเพียบรออยู่
อย่าถามนะว่ามีอะไรบ้าง… แค่คิดถึงก็ขนลุกเกรียวแล้ว
กว่าจะลงได้คือเสียเหงื่อเสียเกลือแร่ไปเยอะเชียว
จบด้วยการพาเครื่องไปลงได้อย่างปลอดภัย แม้จะสอบผ่าน แต่ถูกครู debrief แบบยับเยิน
เสียความมั่นใจไปเบาๆ
แล้วก็มาถึงช่วงออกมาเทรนบินเครื่องจริง ต้องบินทั้งหมด 10 ไฟลท์
Etihad aircraft
ปกติบินเดือนละ 7-8 ไฟลท์ก็ว่าเหนื่อยจะแย่แล้ว
แต่นี่พี่เทรนกัน 10 ไฟลท์ใน 28 วัน!
เจอแขกข้ามคืนกันรัวๆ
คือบินไฟลท์ประเภทออกจากอาบูดาบีค่ำๆดึกๆ บิน 3-4 ชม. แลนด์แล้วก็กลับมาอาบูดาบีตอนเช้า
คืนนึงไปเดลลี อีกคืนมุมไบ อีกคืนก็เจดด้า
กลับถึงบ้านสายๆ อาบน้ำแล้วเข้านอนเลย… กินข้าวหน่อยเดียวพอ เพราะเดี๋ยวอิ่มแล้วนอนไม่หลับอีก
บ่ายๆตื่นมาอาบน้ำ กินข้าว เตรียมตัวออกไปบินอีกไฟลท์
เจอแบบนี้เข้าไป 3 คืนติด วิญญาณแทบหลุดออกจากร่าง
ไม่ต้องแปลกใจที่เทรนเสร็จน้ำหนักลดไป 4-5 กิโล…
มีหลายคนทักว่าเป็นเอดส์หรือเปล่า?
ได้แต่ตอบไปว่า ไม่ใช่เฟ้ย! แค่ไม่มีเวลาจะกินข้าว จะเอาเวลาที่ไหนไปติดเชื้อ!
ถึงไฟลท์สุดท้าย ไฟลท์ตัดสินว่าผ่าน-ไม่ผ่าน เป็นไฟลท์ไป-กลับเจดด้า
อุ่นใจไปกว่าครึ่ง…
ตลอด 3 ปีกว่าที่เอทิฮัด บินมาเป็นสิบๆครั้ง แทบจะหลับตาบินได้
แต่พอเป็นวัน check อะไรๆมักไม่ค่อยจะเป็นอย่างใจคิด… ของแบบนี้ไม่เชื่ออย่าลบหลู่
สนามบินอาบูดาบีปิดบางส่วน ทำให้ต้อง taxi ด้วยเส้นทางที่ไม่คุ้นเคย ผ่านพื้นที่ที่ไม่เคยเข้าไป เลยไปแบบสโลวโมชั่นกว่าปกติ
กลายเป็นถูกวิจารณ์ว่า taxi ไม่คล่อง
ระหว่างไฟลท์ เครื่องบินที่ปกติไม่ค่อยมีปัญหาก็ออกอาการเกเร เดี๋ยวนั่นเสียนี่เสีย… ไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่เป็นแนวจุกจิก ทำให้ต้องแก้ปัญหากันวุ่นวาย
หอบังคับการบินก็ดูลังเล ตัดสินใจแปลกๆ ทำเอาเรางงไปด้วย
FO พยายามโชว์ประสิทธิภาพ จนกลายเป็นเหมือนแข่งกันเอง แทนที่จะช่วยกัน
สรุปว่าเป็นไฟลท์ที่ขลุกขลักพอสมควร
ลงจอดที่เจดด้า checker บอกว่าไม่พอใจมาก ทำท่าเหมือนจะให้ตก
ตอนนั้นใจตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม ส่ง text บอกภรรยาตอนตี 3 ของอาบูดาบีว่าตอนเช้าไม่ต้องมารอแสดงความยินดีที่สนามบินแล้วนะ ไม่น่ารอด
ก่อนบินกลับเข้าอาบูดาบี ตั้งสติใหม่ คุยกับ FO ว่าเราจะช่วยกันให้มากขึ้น ไม่ต้องโชว์ออฟกันแล้วนะ
ขานี้ มีเรื่องยุ่งๆเยอะกว่าขามา แต่พอสองคนช่วยกัน อะไรๆที่ดูจะยากก็กลายเป็นง่ายไปซะงั้น
อันนี้เป็นสิ่งที่นำมาใช้ได้จริงๆ
กลับมาลงที่อาบูดาบี checker กวนประสาทเบาๆ ก่อนจะบอกว่า”ผ่าน”!
ดีใจก็ดีใจนะ แต่หมดเรี่ยวหมดแรงจริงๆ อยากทิ้งตัวลงนอนแล้ว
จบไฟลท์แล้ว กำลังจะกลับบ้าน
ที่หน้าประตูทางออกมีภรรยาและเพื่อนๆพี่ๆน้องๆมารอแสดงความยินดี
เพื่อนฝูงมารอแสดงความยินดี
เป็นช่วงเวลาที่ต้องจดจำ… มีทั้งขึ้น-ลง สุข-เครียด สลับกันไปมา
ได้เรียนรู้หลายสิ่งที่นำมาใช้กับการทำงานบินในเวลาต่อมาได้อย่างดี
มองย้อนกลับไปทีไรก็ดีใจ และขอบคุณทุกๆคนที่มีส่วนผลักดัน ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม
จะเป็นความทรงจำที่ดีตลอดไป
ปล. อยากกลับไปบินแล้วววว!
โฆษณา