🌵🌸ไม้อวบน้ำ (Succulent)🌸🌵
🌿ไม้อวบน้ำหรือที่เรียกกันว่า Succulent คือพืชที่พัฒนาเนื้อเยื่อให้สามารถกักเก็บน้ำไว้ในเซลล์ตามส่วนต่างๆ ของต้น ทำให้ส่วนนั้นดูอวบหนา ไม่ว่าจะเป็นกิ่งก้าน ลำต้น หรือใบ เพื่อให้เติบโตและดำรงชีวิตอยู่ได้ในสภาพที่แห้งแล้งของถิ่นกำเนิดในธรรมชาติ บางชนิดยังสร้างขนหรือไทรโคม (trichome) ปกคลุมบนใบหรือส่วนต่างๆของต้น เพื่อช่วยดักจับความชื้นในอากาศได้ตัวอย่างเช่นไม้ประดับที่ปลูกในบ้านเรามานานอย่างว่านหางจระเข้ หรือเรียกกันว่า อโล (Aloe) กุหลาบหินสกุลอิชิเวเรีย (Echeveria) คราสซูลา (Crassula) คาลันโช (Kalanchoe) ทิลแอนด์เซีย (Tillandsia) ฮาโวเทีย(Haworthia) รวมทั้งชวนชมซึ่งอยู่ในสกุลอดีเนียม (Adenium) ก็เป็นไม้อวบน้ำ แม้แต่แคคตัสหรือกระบองเพชร ก็เป็นสมาชิกในกลุ่มไม้อวบน้ำเช่นกัน
🍂โดยธรรมชาติของพืชอวบน้ำนั้น มีถิ่นกำเนิดในพื้นที่ที่แห้งแล้ง จึงได้วิวัฒนาการเปลี่ยนแปลงเพื่อความอยู่รอด เช่น ลดการคายน้ำ กิ่งก้าน ลำต้น ใบ อวบขึ้นเพื่อกักเก็บน้ำ นอกจากนี้เพื่อความอยู่รอดและรักษาการสูญเสียน้ำภายใน จึงวิวัฒนาการให้ปากใบปิดในเวลากลางวัน เพื่อลดการคายน้ำ และเปิดเฉพาะในเวลากลางคืนแทน เพื่อตรึงก๊าชคาร์บอนไดออกไซค์ไว้ใช้ในการสังเคราะห์แสง ไม้อวบน้ำมีการสังเคราะห์ด้วยแสงแบบ CAM (Crassulacean acid metabolism)
🌿ขั้นตอนการปลูกไม้อวบน้ำ🌿
1. ใส่วัสดุรองก้นกระถาง เพื่อให้น้ำสามารถไหลผ่านได้ดีโดยใส่ประมาณ 1/3 ของกระถาง แต่ก็ขึ้นอยู่กับความลึกของกระถาง และความยาวของราก
-วัสดุที่ใช้รองก้นกระถาง
🌸กาบมะพร้าวสับ หาซื้อง่าย ราคาถูก กักเก็บความชื่นและระบายน้ำได้ดี
🌸หินภูเขาไฟ (Pumice) หรือหินลาวา เป็นก้อนหินที่มีรูพรุน น้ําหนักเบา สามารถลอยน้ำและระบายอากาศได้ดี
🌸ถ่านป่น ช่วยดูดซับความชื้นได้ดี ทําให้ดินแห้งไว
2. ตักดินปลูกลงไปปลูก กะความลึกให้พอดีกับต้นและราก
🍂ดินที่เหมาะกับการปลูกไม้อวบน้ำ คือดินที่มีคุณสมบัติการระบายน้ำได้ดี วัสดุผสมดินปลูก ไม่ได้มีสูตรตายตัว สวนแต่ละสวนใช้สูตรดินที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมในพื้นที่นั้นๆ การได้รับแสงแดด การให้น้ำ การเลี้ยงดูของแต่ละท่าน และยังมีวัสดุอื่นๆที่สามารถใช้ทดแทนกันได้ ขึ้นอยู่กับผู้เลี้ยงว่ามีงบประมาณ หรือความสะดวกในการสรรหาวัสดุปลูกได้มากน้อยเท่าใด เพราะสุดท้ายแล้วสูตรดิน ที่ดีที่สุดต้องดูจากผลการใช้ในการปลูกเลี้ยงไม้อวบน้ำที่บ้านของท่านเอง
3. นำไม้อวบน้ำลงไปปลูก จัดให้อยู่กึ่งกลางของกระถาง และค่อย ๆ ตักดินใส่รอบ ๆ ต้น โดยใส่ดินให้ต่ำกว่าขอบกระถางประมาณ 1 เซนติเมตร
4. ใส่ปุ๋ย สามารถใช้ปุ๋ยออสโมโค้ท (Osmocote) หรือปุ๋ยละลายช้าปริมาณเล็กน้อย
5. โรยหินให้ทั่ว ใช้ช้อนตักและโรยหินให้ทั่ว โดยไม่ต้องโรยหนาเกินไป แค่ไม่เห็นดินก็พอ หินสําหรับโรยหน้าดินมีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ หลากหลายสี แล้วแต่ความชื่นชอบ ไม่ควรใช้หินที่มีความคม เพราะเมื่อต้นโตขึ้นหินอาจจะเบียด จนทําให้ไม่อวบน้ำเป็นแผลได้ค่ะ
🌿เมื่อเปลี่ยนกระถางใหม่ไม่ควรรดน้ำทันที ควรทิ้งไว้ประมาณ 5-7 วัน จึงจะรดน้ำตามปกติ แต่ถ้าเราผึ่งรากให้แห้งสนิทแล้วก็สามารถรดน้ำได้เลย หลังจากปลูกเสร็จ และหลังจากเปลี่ยนกระถางใหม่ ควรนำแคคตัสไปไว้ในที่ร่มหรือที่มีแดดรำไรก่อน และค่อย ๆ ฝึกออกแดดช่วงเช้าเป็นเวลาประมาณ 2 สัปดาห์ ก่อนจะนำไปเลี้ยงรวมกับแคคตัสต้นอื่น ๆ ค่ะ
#ขอให้ทุกคนมีความสุขและสนุกในการเลี้ยงไม้นะคะ🥰
#My music "plants"💗🌱🌵
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
