9 มิ.ย. 2021 เวลา 13:19 • ธุรกิจ
# อยากประสบความสำเร็จเร็ว ทำรายได้ 10 เท่าแบบไม่เหนื่อย มาเป็นผู้นำกันเถอะ !!# EP.2
ติดตาม EP.1 ที่ลิงค์นี้
จากตอน EP. แรก ผู้เขียนได้เกริ่นนำให้ผู้อ่านได้ทราบว่า
"ผู้นำ" ไม่ใช่ เป็นผู้สั่งงาน หรือ ผู้จ้างงาน
หรือบังคับให้ใครทำตาม เท่านั้น
.
.
แต่แท้ที่จริงแล้ว จากหนังสือ The 5 Levels of Leadership
ของ John C Maxwell
ผู้นำมี 5 ระดับ
ยิ่งเราพัฒนาทักษะ และภาวะผู้นำ ในระดับที่สูงขึ้น
เราจะทำงานได้ง่ายขึ้น และแทบจะไม่ต้องทำอะไร
แค่การเป็น และสิ่งที่เราได้พัฒนาต้นแบบไว้
ก็จะทำให้ผู้อื่นทำตาม และประสบความสำเร็จได้ง่าย
และผลสุดท้าย คือ ผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่ที่ส่งผลดีกับคนส่วนมาก
.
.
จากสิ่งที่เขียนมา คนส่วนมากนั้นที่เป็นผู้นำ ไม่ว่าจะเป็น
ผู้นำครอบครัว
ผู้นำในแผนก หรือธุรกิจ
ส่วนมาก ก็จะเป็นผู้นำระดับที่ 1
อาจจะมีบางส่วนที่เป็นผู้นำในระดับที่ 2 คือได้ใจคน
มีบ้าง อาจจะเป็นผู้นำในระดับที่ 3 คือ ตัวเองเก่งด้วย
แต่ น้อยมากๆที่จะเป็นระดับที่ 4 คือ พาให้คนอื่นสร้างผลลัพธ์
ระดับ 5 นั้นยิ่งหายาก แต่ถ้าเกิดขึ้น จะหายเหนื่อยเลยค่ะ
.
ในตอนนี้ จะมาลงรายอะเอียด ในการพัฒนาตนเอง
จากการเป็นผู้นำในระดับที่ 1 ให้สามารถยกระดับ
เป็นระดับที่ สูงขึ้น ต้องทำอะไรบ้าง
เรามาเรียนรู้กัน
.
.
ในการเป็นผู้นำในระดับที่ 1 นั้น ผู้ตามทำตามเรา เพราะจำเป็น
อาจจะได้รับค่าจ้างจากเรา หรือ ได้รับมอบหมาย เป็นผู้ใต้บังคับบัญชา
แต่การทำให้คนทำงานด้วยความจำใจนั้น
ผลลัพธ์ย่อมไม่ดี และเมื่อไม่ดี หรือเราอยากได้มากกว่านี้
เราก็ต้องใช้การบังคับขู่เข็ญ วางกรอบ การลงโทษ
ทำให้ผู้ใต้บังคับบัญชา ทำงานด้วยความอึดอัด หวาดกลัว
.
.
อารมณ์ลบ คือความกลัว ความกังวล เครียด อึดอัด
จะส่งผลให้สติปัญญาต่ำ ไอคิวต่ำ ทำลายศักยภาพการเรียนรู้
และทำให้ทำงานประสิทธิภาพต่ำ เพราะไม่มีความสุข
พ่อแม่คือ ผู้นำ ครูคือผู้นำ หัวหน้า คือผู้นำ
ถ้าท่านเป็นคนเหล่านี้ ลองพิจารณาดูว่า
ตนเองเป็นเช่นนี้หรือไม่
และถ้าเราเป็นเช่นนี้ แล้วยังไม่หยุด พฤติกรรมแบบนี้
ไม่พยายามพัฒนาตนเอง เป็นผู้นำในระดับที่สูงขึ้น
เราจะเหนื่อยและเครียดหนักกว่าเดิม
.
.
สิ่งที่ควรทำในระดับนี้ (จากหนังสือผู้นำ 5 ระดับ)
.
1. เลิกใช้ตำแหน่งหน้าที่กดดันคนอื่น ให้ถามว่า "มีอะไรที่เราจะช่วยเค้าได้บ้าง" ถ่อมตน ให้กำลังใจคนอื่น มีปิยะวาจา
.
2. อย่าสนใจสิทธิที่มีอยู่ในตำแหน่งหน้าที่ เช่น มีงานด่วน งานล้น แม้เราจะลาพักร้อนได้ตามสิทธิ์ แต่อาจจะต้องอยู่ช่วยทีม เป็นกำลังใจให้สำเร็จ
.
3. ทิ้งตำแหน่งแล้วเดินเข้าไปหาผู้คนของคุณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้นำในยุคการเปลี่ยนแปลงนี้ การลงมาเคียงบ่าเคียงไหล่ทีมงาน ลงมากินข้าวที่โรงอาหาร ได้พูดคุยอย่างเป็นกันเองกับพนักงาน จะมีโอกาสพัฒนาทีมไปที่จุดสูงสุดไม่ยาก ทีมงานยุคใหม่ เขาจะชอบความเป็นกันเอง และการได้รับการยอมรับ และชื่นชม ได้เป็นส่วนหนึ่งของการแสดงไอเดีย
.
.
จะสามารถทำเช่นนี้ได้ ต้องมี Mindset ของการเป็นผู้นำที่ "ใช่" ด้วย
Mindset ของการเป็นผู้นำที่ต้องมีเพื่อยกระดับ
.
1. ตำแหน่งอย่างเดียวไม่พอในการเป็นผู้นำ เราต้องเพื่มคุณค่าให้ผู้อื่น ทำให้ลูกน้องเก่งมากขึ้น และมีกำลังใจในการทำงาน
.
2. ผู้คนคือทรัพยากรที่มีคุณค่าที่สุดของผู้นำ ไม่ใช่ตำแหน่งหน้าที่
การที่คนเราจะประสบความสำเร็จได้มากน้อยเพียงใด ไม่ใช่เป็นเพราะตำแหน่งหน้าที่ แต่ขึ้นอยู่กับความสามารถภาวะผู้นำของเรา จะสามารถพัฒนาทีม และนำคน ให้บรรลุเป้าหมายได้มากแค่ไหน ยิ่งสร้างคนได้มาก และเป็นคนที่จงรักภักดี จะทำให้พลังการทำภารกิจนั้น สำเร็จได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น
.
3. ผู้นำไม่จำเป็นต้องรู้ทุกอย่าง ไม่ต้องมีคำตอบในทุกเรื่อง แต่สามารถดึงคนที่เป็นผู้รู้ในเรื่องในเรื่องต่างๆ มาทำงานและแสดงความสามารถ
.
4. ผู้นำที่ดีย่อมดึงคนอื่นเข้ามามีส่วนร่วมเสมอ "ผู้นำ" บางคนติดนิสัยทำงานคนเดียว มีความเชื่อว่าผู้นำที่ดี ต้องแบกรับภารกิจ ความรับผิดชอบไว้คนเดียว แต่ในความเป็นจริงนั้น การที่เราจะก้าวสู่จุดสูงสุด ไปที่ยอดเขานั้น ต้องพาทีมไปด้วยกัน ผลักดัน กันและกันให้สำเร็จด้วยกัน จึงจะประสบความสำเร็จเร็วและปลอดภัยที่สุด
.
.
จากหนังสือ ทักษะผู้นำของ John C Max Well ได้บอกไว้ว่า
แนวทางการพัฒนาตนเองเพื่อให้ผ่านระดับที่ 1 10 ข้อมีดังนี้
1. ขอบคุณคนที่เชิญคุณเข้ามารับตำแหน่งผู้นำ
.
2. ทุ่มเทหาทางพัฒนาด้านการเป็นผู้นำ
.
3. สร้างรูปแบบการเป็นผู้นำของตัวเอง (ไว้จะมาเล่าให้ฟังว่า มีแบบไหนบ้าง)
.
4. เลิกสนใจตำแหน่ง แล้วไปเน้นเรื่องศักยภาพ
.
5. เน้นที่เรืองวิสัยทัศน์
.
6. เลิกสนใจกฎเกณฑ์ แต่เน้นเรื่องความสัมพันธ์ (โดยส่วนตัว หุยไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ หุยใส่ใจทั้งสองด้าน แต่แยกกัน กฎ คือกฎ แต่ ความสัมพันธ์ก็ทำ)
.
7. เข้าหาสมาชิกในทีม
.
8. อย่าเอ่ยถึงตำแหน่งที่คุณมี
.
9. หัดพูดว่า "ผมไม่รู้" และเปิดโอกาสให้ทีม ได้เป็น "ผู้รู้" หรือไปหาคำตอบเอง
.
10. หาคนมาฝึกสอนเรื่องภาวะผู้นำ
.
.
ผู้เขียนเชื่อว่า บทความนี้ จะทำให้ทุกท่านที่ยังต้องพัฒนาภาวะผู้นำ
ให้มีระดับที่สูงขึ้นเรื่อยๆ
จะนำมาพิจารณาว่า ตนเองและทีมยังขาดอะไร
การอ่านบทความนี้. หรือ อ่านหนังสือ หรือ ฟัง Live ของเพจนี้
เป็นการพัฒนา ทักษะผู้นำหลายด้านมาก
ทั้งทางด้านวิสัยทัศน์. การวิเคราะห์ข้อมูล และการวางตัว
ท่านได้พบเห็นอะไรในตัวของท่านบ้าง มาแบ่งปันได้เสมอ
****************************************************
On Line Course สำหรับองค์กร ตามลิงค์ข้างล่างนี้
หลักสูตร Coaching Techniques for Leaders
หลักสูตร Conflict Management
หลักสูตร Empowerment and Deligation for Leader
หลักสูตร Influential Leadership communication for Manager
หลักสูตร Visionary Skills การสร้างวิสัยทัศน์สำหรับผู้บริหารยุคใหม่
.
รัตนา ธนสารกิจ
ที่ปรึกษาธุรกิจ และองค์กร
โฆษณา